จุติจิตขณะเดียวเกิดเพราะกรรม


    ตายคือถึงแก่กรรม ใช่ไหมคะ หมายความว่ากรรมนั้นสิ้นสุดไม่ทำให้เป็นบุคคลนั้นอีกต่อไปจึงทำให้จุติจิตเกิด เพราะฉะนั้นปฏิสนธิจิตก็เป็นผลของกรรม และภวังคจิตก็เป็นผลของกรรม ยังตายไม่ได้ เพราะว่ากรรมยังไม่หมด แต่พอถึงวาระที่จะสิ้นสุดความเป็นบุคคลคนนี้ กรรมก็จะทำให้จุติจิตเกิด ยับยั้งไม่ได้อีกเหมือนกัน หมอก็ช่วยไม่ได้เงินทองจะซื้อสักเท่าไรก็ไม่สามารถที่จะยืดเวลาของจุติจิตต่อไปได้เลย เพราะว่าจุติจิตเกิดเพราะกรรม สภาพของจิตเป็นไปตามกรรมเมื่อเป็นวิบาก แล้วเวลาเป็นกุศล อกุศลก็เป็นไปตามการสะสม หลังจากที่ได้ยินแล้ว  เห็นแล้วซึ่งเป็นวิบาก

    เพราะฉะนั้นก่อนจะตายถ้าทุกคนเลือกได้ก็เลือกดีๆ ที่พยายามกันมากก็คือพยายามที่จะให้กุศลจิตเกิดก่อนตาย แต่ตายจริงๆ ไม่มีใครรู้  จิต ๑ ขณะเอง ลองคิดถึงจิต ๑ ขณะ เหมือนปฏิสนธิจิตก็เพียง ๑ ขณะ แต่จิตเห็นมากมายหลายขณะ จิตเกิดดับสืบต่อสลับกันทางตาบ้าง ทางหูบ้าง เพราะฉะนั้นไม่ใช่ขณะเดียว แต่จุติจิตเพียงขณะเดียวเท่านั้น

    เพราะฉะนั้นไม่ใช่เรื่องของเราที่จะเลือก แต่ว่าเป็นการที่ว่าถ้าเราทำกุศลไปมากๆ เรื่อยๆ ก็มีทางที่กุศลนั้นจะเป็นปัจจัยทำให้ปฏิสนธิจิตได้ เมื่อใกล้จะจุติ เพราะเวลาที่จุติจิตจะเกิดจริงๆ ไม่มีใครรู้สึกตัว เหมือนกับตอนเกิด ปฏิสนธิจิตเกิดสืบต่อจากจุติจิตของชาติก่อนจะรู้สึกตัวได้อย่างไร ในเมื่อก่อนจะตายชาติก่อนก็ไม่รู้สึกตัว แล้วพอจุติจิตดับ ปฏิสนธิจิตเกิดต่อก็ไม่รู้สึกตัวเหมือนกัน ฉันใด ขณะที่กำลังสนุก ตายได้ไหมคะ


    หมายเลข 3767
    26 ส.ค. 2558