ถึงไม่ดูหนัง ดูละคร กิเลสก็เต็ม
ผู้ฟัง อาจารย์คะ แต่บางคนที่เขาไม่ได้มีการสะสมที่จะมีอินทรียสังวร โดยขั้นตัดง่ายๆ แบบที่อาจารย์ได้กล่าวไว้ ทำให้รู้สึกว่า บางครั้งอาจจะเป็นการฝืนความรู้สึกของเขา เหมือนกับว่าเป็นการไม่ใช่เป็นปกติของเขาอย่างนี้คะ
ท่านอาจารย์ เพราะฉะนั้นแต่ละคน เมื่อเจริญสติปัฏฐานแล้วจะทราบได้ว่า อกุศลทั้งหลายยังเต็มเพียบ เพียงแต่ว่าจะเกิดเมื่อไรมากหรือน้อย
เพราะฉะนั้นเป็นผู้ที่ตรงคะ อุชุปฏิปันโน คือ ตรงต่อสภาพธรรมที่ว่า เมื่อสภาพธรรมใดเกิดแล้วเพราะมีปัจจัย แสดงให้เห็นถึงการสะสมของแต่ละบุคคลตามความเป็นจริง เพราะฉะนั้นปัญญาก็สามารถที่จะรู้ได้ว่า ถ้าตราบใดที่ยังไม่รู้แจ้งอริยสัจธรรมดับกิเลสไม่ได้ เพียงแต่อาจจะเบาบาง บางครั้ง บางขณะ แต่ว่ายังมีเชื้อที่จะทำให้กิเลสทุกระดับเกิด
ผู้ฟัง อย่างคนที่มีการสะสมที่จะดูหนัง ดูละคร จริงๆ แล้ว ถ้าสมมติว่าเขาดูหนัง ดูละคร หรือว่าอยู่ในที่ซึ่งไม่ได้เป็นที่เงียบสงบหรือปลีกออกไป จริงๆ มันอยู่ที่ใจไม่ใช่หรือคะ
ท่านอาจารย์ ดูหนัง ดูละคร หนังก็มีหลายประเภท ละครก็มีหลายประเภท คนดูในที่นั้นจะรู้ได้เลยว่า คนที่กำลังดูหนังประเภทไหน กิเลสระดับไหน แล้วคนที่ดูหนังดูละครตามปกติธรรมดา ก็เพราะเหตุว่ายังมีเหตุ ยังมีกิเลสอยู่ แต่ไม่ได้หมายความว่า คนนั้นจะอบรมเจริญปัญญาไม่ได้ ต้องเข้าใจตามความเป็นจริงว่า ถึงไม่ดูหนังดูละครกิเลสก็เต็ม จนกว่าปัญญาจะค่อยๆ รู้ลักษณะของสภาพธรรม
