ความตาย ๓ ประการ
ความตาย ๓ ประการ คือ ขณิกมรณะ ความตายทุกๆ ขณะของนามและรูปที่เกิดแล้วไม่ดับ ไม่ว่าจะเป็นนามอะไรรูปอะไรก็ตาม เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยแล้วก็ดับ เป็นขณิกมรณะ
สมมติมรณะ คือ ความตายที่เราสมมติหรือเรียกกัน ได้แก่ ความตายจากภพหนึ่งชาติหนึ่ง อย่างทุกคนที่กำลังมีชีวิตอยู่ โดยสมมติมรณะยังไม่ตาย แต่โดย ขณิกมรณะแล้ว เกิดดับสืบต่อกันตลอดเวลา แต่ถ้าสมมติมรณะ คือ สิ้นชีวิตจากการเป็นบุคคลนี้
สมุจเฉทมรณะ คือ การปรินิพพาน ไม่มีการปฏิสนธิอีกเลย
นี่คือ ความตาย ๓ อย่าง
และที่จะรู้ว่าภพอื่นภูมิอื่นมี โดยที่ท่านกำลังอยู่ในมนุษย์โลก ที่จะไปเห็นสวรรค์ก็เป็นไปไม่ได้ ที่จะไปเห็นนรกก็เป็นไปไม่ได้ คนละภพ คนละภูมิ คนละโลก เพราะฉะนั้น การที่จะรู้ว่ามีภพอื่นภูมิอื่นจริง ก็โดยการที่สติระลึกรู้ในสภาพธรรมที่เป็นนามธรรมและรูปธรรมชัดเจนจนกระทั่งประจักษ์ขณิกมรณะ
เพราะฉะนั้น ถ้าขณะนั้นประจักษ์ลักษณะของนามธรรม มีลักษณะปรากฏแต่ละอย่างไม่เหมือนกัน เกิดขึ้นแล้วก็ดับไป เยื่อใยที่เคยยึดโยงว่าเป็นเราเป็นบุคคลก็ไม่มี ขณะนั้นโลกไม่มี ภพภูมิใดๆ ไม่มีเลยที่จะสมมติว่าเป็นมนุษย์ เป็นสวรรค์ เป็นเทวดา เป็นนรกก็ไม่มี แต่มีเฉพาะลักษณะของนามธรรมที่กำลังปรากฏ มีเฉพาะลักษณะของรูปธรรมที่ปรากฏ เมื่อไม่มีสถานที่ ท่านก็ทราบได้ว่า สภาพรู้อยู่ที่ไหนก็ได้ เกิดที่ไหนก็ได้ จะรู้อารมณ์ที่ประณีตก็ได้ ไม่ประณีตก็ได้ แล้วแต่เหตุปัจจัย ถ้าเป็นกุศลวิบากก็รู้อารมณ์ที่ประณีต ในภูมิของสวรรค์ เกิดที่สวรรค์ รู้อารมณ์ที่ประณีตของสวรรค์ ถ้าเป็นผลของอกุศลก็รู้อารมณ์ที่ไม่ประณีต ไม่น่าปรารถนา ในสถานที่ซึ่งเป็นที่เกิดที่จะทำให้ได้รับกระทบกับอารมณ์ที่ไม่น่าใคร่ ไม่น่าปรารถนา [แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 232]
