ไม่ใช่ว่าทรัพย์จะเป็นสิ่งที่ป้องกันได้
ข้อความตอนท้ายของ รัฏฐปาลสูตร ข้อ ๔๕๑ มีข้อความว่า
ท่านพระรัฐปาละได้กล่าวคำนี้แล้ว ครั้นแล้วภายหลังได้กล่าวคาถาประพันธ์นี้อื่นอีกว่า
เราเห็นมนุษย์ทั้งหลายในโลกที่เป็นผู้มีทรัพย์ ได้ทรัพย์แล้วย่อมไม่ให้ เพราะความหลง โลภแล้วย่อมทำการสั่งสมทรัพย์ และยังปรารถนากามทั้งหลายยิ่งขึ้นไป พระราชาทรงแผ่อำนาจชำนะตลอดแผ่นดิน ทรงครอบครองแผ่นดินมีสาครเป็นที่สุด มิได้ทรงรู้จักอิ่มเพียงฝั่งสมุทรข้างนี้ ยังทรงปรารถนาฝั่งสมุทรข้างโน้นอีก พระราชาและมนุษย์เหล่าอื่นเป็นอันมากยังไม่สิ้นความทะเยอทะยาน ย่อมเข้าถึงความตาย เป็นผู้พร่องอยู่ ละร่างกายไปแท้ ความอิ่มด้วยกามย่อมไม่มีในโลกเลย
อนึ่ง ญาติทั้งหลายพากันสยายผมคร่ำครวญถึงผู้นั้น พากันกล่าวว่า ได้ตายแล้วหนอ พวกญาตินำเอาผู้นั้นคลุมด้วยผ้าไปยกขึ้นเชิงตะกอน แต่นั้นก็ เผากัน ผู้นั้นเมื่อกำลังถูกเขาเผา ถูกแทงอยู่ด้วยหลาว มีแต่ผ้าผืนเดียว ละโภคสมบัติไป ญาติก็ดี มิตรก็ดี หรือสหายทั้งหลายเป็นที่ต้านทานของบุคคล ผู้จะตายไม่มี ทายาททั้งหลายก็ขนเอาทรัพย์ของผู้นั้นไป ส่วนสัตว์ย่อมไปตามกรรม ที่ทำไว้ ทรัพย์อะไรๆ ย่อมติดตามคนตายไปไม่ได้ บุตร ภรรยา ทรัพย์ และ แว่นแคว้นก็เช่นนั้น บุคคลย่อมไม่ได้อายุยืนด้วยทรัพย์ และย่อมไม่กำจัดชราได้ ด้วยทรัพย์ นักปราชญ์ทั้งหลายกล่าวชีวิตนี้ว่า น้อยนัก ไม่เที่ยง มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา
ทั้งคนมั่งมี ทั้งคนยากจน ย่อมกระทบผัสสะ ทั้งคนพาล ทั้งนักปราชญ์ ก็กระทบผัสสะเหมือนกัน แต่คนพาลย่อมนอนหวาดอยู่เพราะความที่ตนเป็นพาล ส่วนนักปราชญ์อันผัสสะถูกต้องแล้ว ย่อมไม่หวั่นไหว เพราะเหตุนั้นแล ปัญญาจึงประเสริฐกว่าทรัพย์ ปัญญาเป็นเหตุถึงที่สุดในโลกนี้ได้ คนเป็นอันมากทำบาปกรรมเพราะความหลงในภพน้อยภพใหญ่ เพราะไม่มีปัญญาเครื่องให้ถึงที่สุด
สัตว์ที่ถึงการท่องเที่ยวไปมาย่อมเข้าถึงครรภ์บ้าง ปรโลกบ้าง ผู้อื่นนอกจาก ผู้มีปัญญานั้น ย่อมเชื่อได้ว่าจะเข้าถึงครรภ์และปรโลก หมู่สัตว์ผู้มีบาปธรรมละโลกนี้ไปแล้วย่อมเดือดร้อนเพราะกรรมของตนเองในโลกหน้า เปรียบเหมือนโจรผู้มีความผิด ถูกจับเพราะโจรกรรมมีตัดช่องเป็นต้น ย่อมเดือดร้อนเพราะกรรมของตนเอง ฉะนั้น
ความจริงกามทั้งหลายวิจิตร มีรสอร่อยเป็นที่รื่นรมย์ใจ ย่อมย่ำยีจิตด้วยรูป มีประการต่างๆ มหาบพิตร อาตมภาพเห็นโทษในกามทั้งหลาย เพราะเหตุนั้น จึงบวชเสีย ผลไม้ทั้งหลายยังไม่หล่นทีเดียว มาณพทั้งหลายทั้งหนุ่มทั้งแก่ย่อมมี สรีระทำลายได้ มหาบพิตร อาตมภาพรู้เหตุนี้จึงบวชเสีย ความเป็นสมณะเป็น ข้อปฏิบัติอันไม่ผิด เป็นคุณประเสริฐแท้ ดังนี้แล
จบ รัฐปาลสูตรที่ ๒
วันนี้บางท่านฟังแล้วอาจจะลืม แต่บางท่านฟังแล้วอาจจะพิจารณาธรรม ที่ประสบพบเห็นได้ ที่บ้านทุกคนมีต้นไม้ใบหญ้า บางท่านมองดูใบไม้บางใบยังไม่ ทันแก่ ยังไม่ถึงความเหี่ยวแห้งจริงๆ ก็หลุดจากขั้วหล่นแล้ว ฉันใด ชีวิตของทุกๆ คนก็ไม่มีใครสามารถจะรู้ได้ ทั้งๆ ที่มีความยินดีติดข้องในกาม ในรูป ในเสียง ในกลิ่น ในรส ในโผฏฐัพพะอย่างไม่รู้จักอิ่ม แต่เมื่อถึงเวลาก็ไม่มีทรัพย์สมบัติใดที่จะตามไป ได้เลย ทุกคนย่อมเป็นไปตามกรรม
เพราะฉะนั้น ความชราก็ดี หรือโรคภัยต่างๆ ก็ดี ไม่ใช่ว่าทรัพย์จะเป็นสิ่งที่ป้องกันได้ แต่ความเป็นผู้มีปัญญา ซึ่งอบรมเจริญการรู้แจ้งในลักษณะของสภาพธรรมที่ปรากฏ สามารถทำให้ถึงที่สุด คือ ที่สุดของการท่องเที่ยวไปในครรภ์และในปรโลกได้
