ตอบปัญหาธรรมที่วัดเจริญสุขาราม
ตอบปัญหาธรรมที่วัดเจริญสุขารามวรวิหาร จ. สมุทรสงคราม
วันอาทิตย์ที่ ๔ ธันวามคม ๒๕๓๑
พระคุณเจ้า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับเกียรติจากอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ และอาจารย์สมพร ได้ให้ความเมตตาธรรม เดินทางมาตอบปัญหาและบรรยายธรรม เพื่อให้ผู้บวชเป็นสามเณรและบวชศีลจาริณี ได้มีความรู้ความเข้าใจในหลักธรรม คำสอนของพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้บวชแทบทุกคนย่อมรู้จัก อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ทางวิทยุกระจายเสียง แต่ยังไม่เคยเห็นตัวจริง
วันนี้อาจารย์สุจินต์มาแล้ว ทุกคนคงจะรู้จัก และเพื่อที่จะได้ซาบซึ้งในหลักธรรม จึงขอให้ท่านผู้ฟังได้โปรดเตรียมปัญหาที่จะสอบถาม เพื่อให้เกิดความเข้าใจขึ้น อาจารย์จะได้ตอบ อธิบายให้เกิดความกระจ่างแจ้ง เพื่อประโยชน์ในการประพฤติปฏิบัติธรรมตามหลักพุทธศาสนา
เพื่อไม่ให้เสียเวลา โอกาสนี้ขอเจริญพรเรียนเชิญอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ได้บรรยายธรรม และตอบปัญหาธรรมตามลำดับ ขอเจริญพร
ถ. ... (ได้ยินไม่ชัด)
สุ. วิปัสสนา คือ ปัญญาที่รู้ชัดลักษณะสภาพธรรมที่กำลังปรากฏในขณะนี้เรื่องของวิปัสสนา ไม่ใช่เรื่องที่จะเข้าใจได้ง่ายภายในเวลาอันรวดเร็ว แต่ต้องเป็นการศึกษาลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังมี ที่กำลังปรากฏในขณะนี้ จนกระทั่งเข้าใจจริงๆ
ก่อนอื่น โดยศัพท์ วิปัสสนา หมายความถึงปัญญาที่รู้แจ้งชัด ถ้าจะแปล อย่างง่ายๆ สำหรับให้ทุกคนเข้าใจ จะใช้คำว่า รู้ชัด รู้แจ้งลักษณะของสภาพธรรม ที่กำลังปรากฏก็ได้
เพราะฉะนั้น ก่อนอื่น ต้องทราบว่า ขณะนี้สิ่งที่กำลังปรากฏเป็นธรรมหรือเปล่า และเป็นธรรมอะไรที่ปัญญาจะต้องรู้ชัด ถ้ายังไม่รู้ว่า แม้ในขณะที่กำลังเห็นก็เป็นธรรม กำลังได้ยินก็เป็นธรรม กำลังคิดนึกก็เป็นธรรม ตั้งแต่เกิดจนตายเป็นธรรมหมด ธรรมเกิดขึ้น และธรรมก็ดับไป นี่คือชีวิตในวันหนึ่งๆ ถ้าไม่เข้าใจอย่างนี้ ปัญญาที่จะรู้แจ้งชัดในลักษณะของสภาพธรรมก็มีไม่ได้
เรื่องวิปัสสนาเป็นเรื่องที่จะต้องเข้าใจตั้งแต่ต้น ตั้งแต่ในขั้นของการฟัง ถ้าจะให้รู้ชัดจริงๆ โดยที่ไม่ฟังเลย เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เพราะว่าปัญญาต้องเจริญตามลำดับขั้น คือ ขั้นฟังสิ่งที่ยังไม่เคยได้ยินได้ฟังมาก่อน และเมื่อได้ยินได้ฟังแล้ว ต้องพิจารณาให้เป็นความเข้าใจของตัวเอง และเมื่อเข้าใจแล้ว ปัญญาที่สะสม เข้าใจเพิ่มขึ้น จะเป็นปัจจัยคือเป็นสังขารขันธ์ทำให้เกิดการระลึกศึกษาลักษณะของ สภาพธรรมที่กำลังปรากฏในขณะนี้ จากชาติหนึ่ง ไปอีกชาติหนึ่ง ต่อไปเรื่อยๆ ไม่ใช่ว่าสามารถรู้แจ้งลักษณะของสภาพธรรมในขณะนี้ได้ทันที
เมื่อไม่มีท่านผู้ใดถาม ก็อยากจะถามให้คิดว่า จุดประสงค์ของการบวช หรือการรักษาศีลคืออะไร ทุกท่านในขณะนี้เป็นผู้ที่มารักษาศีล จุดประสงค์ในการรักษาศีลคืออะไร ถ้ายังไม่ทราบจุดประสงค์ก็คงจะได้เพียงศีล แต่ในฐานะที่เป็นผู้รักษาศีล มีศรัทธาที่จะรักษาถึงศีล ๘ ก็ควรที่จะได้ทราบว่า ในการรักษาศีลนั้น จะได้รับอะไรนอกจากศีลบ้างไหมที่เป็นจุดประสงค์
ถ้าใครไม่คิดเลยและไม่ทราบ จะรักษาศีลกี่วันก็ได้เพียงเท่านั้นเอง แต่ถ้าเข้าใจจุดประสงค์ที่เพิ่มขึ้น คือ นอกจากรักษาศีลแล้ว ก็มีการฟังพระธรรม สนทนา พระธรรม เพื่อให้เข้าใจพระธรรม ก็จะได้ประโยชน์มากกว่าเพียงการรักษาศีลเท่านั้น
