ใครบังคับให้สติระลึกที่ใดได้
ใครบังคับใครได้ ให้สติของใครระลึกที่กาย หรือที่เวทนา หรือที่จิต หรือที่ธรรม จะบังคับให้คนนั้นระลึกทางตา คนนี้ระลึกที่หู ไม่ให้ระลึกทางอื่น ไม่ให้คิด ไม่ให้นึกเลย ใครบังคับใครได้
ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา เป็นผู้ที่มีปกติเจริญสติ คือ สติระลึกทันทีที่ลักษณะของสิ่งที่กำลังปรากฏโดยไม่คลาดเคลื่อน ไม่ให้ตัณหาหรือความเห็นผิดในข้อปฏิบัติชักพาให้ไปที่อื่น
แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 140
ถ้าเข้าใจคำว่า เป็นผู้ที่มีปกติเจริญสติ สติระลึกได้แม้ในขณะนี้ แม้ในขณะที่กำลังขับรถยนต์ แม้ในขณะที่กำลังหลบหลีกอันตราย ทุกอย่าง ขณะนี้เจริญสติอย่างไร เวลาขับรถยนต์ก็เจริญอย่างนั้น แม้ขณะที่กำลังหลบหลีกอันตราย ก็ไม่ใช่ตัวตน เป็นนามธรรมเป็นรูปธรรมทั้งนั้น สติจะต้องระลึกรู้แม้นามธรรมในขณะนั้น แม้รูปธรรมในขณะนั้น ไม่ว่าจะกำลังเห็น กำลังได้ยิน กำลังมีโลภมูลจิต โทสมูลจิต กำลังมีสุขเวทนา ทุกขเวทนา ก็เป็นสิ่งปกติที่สติระลึกได้ ถ้าเป็นผู้ที่มีปกติเจริญสติ
เวลาที่กำลังรับประทานอาหาร มีก้างไหม มีกระดูกไหม และมีการหลีกเลี่ยงอันตรายที่เกิดจากการรับประทานสิ่งที่ทำให้เกิดโทษนั้น สภาพนามธรรมรูปธรรมในขณะนั้นสติระลึกได้ไหม มิฉะนั้นแล้วก็จะต้องมีตัวมีตนแทนที่ว่า ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา แม้ขณะที่กำลังหลบหลีกอันตรายนั้น ก็เป็นแต่เพียงนามธรรมและรูปธรรมเท่านั้น [แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 141]
ใครที่ปล่อยชีวิตให้เป็นอันตราย นั่นไม่ใช่ผู้ที่เจริญสติ
เย็น ร้อน อ่อน แข็ง สี เสียง ซึ่งธรรมดาก็มีปรากฏ แต่ผู้ที่เจริญสติ แทนที่จะเป็นโลภมูลจิต โทสมูลจิต โมหมูลจิต สติก็เกิดขึ้น กั้นกระแสของโลภะ โทสะ โมหะ เพราะระลึกลักษณะของสิ่งที่กำลังปรากฏ
นี่เป็นความต่างกันของปุถุชนกับพระโสดาบันบุคคล หรือเป็นความต่างกันของผู้ที่ไม่ได้เจริญสติกับผู้ที่เจริญสติ ผู้ที่ไม่เจริญสติก็เดินไปพร้อมๆ กับผู้ที่เจริญสติ ผู้ที่ไม่เจริญสติไม่ได้ระลึกรู้ลักษณะของนามรูป โลภะ โทสะ โมหะเต็ม ไม่เข้าใจว่า ขณะนั้นสติก็เกิดได้ ระลึกลักษณะของสิ่งที่กำลังปรากฏได้ แต่ผู้ที่เข้าใจ การเจริญสติปัฏฐานเดินไปด้วยกัน สติของผู้นั้นระลึกลักษณะของสิ่งที่กำลังปรากฏ หลบหลีกอันตรายเหมือนกัน แต่รู้ลักษณะว่า ขณะนั้นเป็นแต่เพียงนามธรรมและรูปธรรม
ดังนั้น ตลอดชีวิตในวันหนึ่งๆ ของผู้ที่เป็นพระโสดาบันบุคคล ไม่มีความเห็นผิดว่าเป็นตัวตน เป็นสัตว์ เป็นบุคคล และก่อนที่จะบรรลุเป็นพระอริยบุคคล เป็นพระโสดาบันบุคคล การเจริญสติไม่ว่าจะทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจเป็นปกติ ไม่ใช่ว่าขณะที่หลบหลีกอันตรายเป็นตัวเป็นตนจึงจะหลบหลีกอันตรายได้ ถ้าโดยวิธีนี้จะไม่เป็นพระโสดาบันบุคคลได้เลย เพราะเหตุว่ายังรู้นามและรูปไม่ทั่ว แม้ในขณะที่หลบหลีกอันตรายก็ไม่รู้ว่า เป็นแต่เพียงนามธรรมและรูปธรรมเท่านั้น
