จาลาสูตร


    อีกสูตรหนึ่ง ข้อความใน สังยุตตนิกาย สคาถวรรค จาลาสูตรที่ ๖ โดยนัยเดียวกัน คือ

    จาลาภิกษุณีก็ได้ไปบิณฑบาตในตอนเช้า ปัจฉาภัต กลับจากบิณฑบาตแล้ว ก็เข้าไปยังป่าอันธวัน เพื่อพักกลางวัน

    ลำดับนั้น มารผู้มีบาปใคร่จะให้จาลาภิกษุณีบังเกิดความกลัว ความหวาดเสียว ความขนพองสยองเกล้า และใคร่จะให้เคลื่อนจากสมาธิ จึงเข้าไปหา จาลาภิกษุณีถึงที่นั่งพัก ครั้นแล้วได้กล่าวกับจาลาภิกษุณีว่า

    ดูกร ภิกษุณี ท่านไม่ชอบใจอะไรหนอ

    จาลาภิกษุณีตอบว่า

    ดูกร ท่านผู้มีอายุ เราไม่ชอบความเกิดเลย

    มารกล่าวว่า

    เพราะเหตุใดหนอท่านจึงไม่ชอบความเกิด ผู้เกิดมาแล้วย่อมบริโภคกาม ใครหนอให้ท่านยึดถือเรื่องนี้ อย่าเลยภิกษุณี ท่านจงชอบความเกิดเถิด

    จาลาภิกษุณีกล่าวตอบว่า

    ความตายย่อมมีแก่ผู้ที่เกิดมาแล้ว ผู้ที่เกิดมาแล้วย่อมพบเห็นทุกข์ คือ การจองจำ การฆ่า ความเศร้าหมอง

    เพราะฉะนั้น เราจึงไม่ชอบความเกิด พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมเป็นเครื่องก้าวล่วงความเกิด พระองค์สอนให้เราตั้งอยู่ในสัจจะ (หมายถึงพระนิพพาน) เพื่อละทุกข์ทั้งมวล สัตว์เหล่าใดเข้าถึงรูปภพ และสัตว์เหล่าใดเป็นภาคีแห่งอรูปภพ สัตว์เหล่านั้นเมื่อยังไม่รู้นิโรธ ต้องมาสู่ภพอีก

    ลำดับนั้น มารผู้มีบาปเป็นทุกข์ เสียใจว่า จาลาภิกษุณีรู้จักเรา ดังนี้ จึงได้อันตรธานไปในที่นั้นเอง

    ยังชอบความเกิดไหม ถ้าชอบ ก็เหมือนกับที่มารกล่าวว่า เพราะเหตุไรหนอ ท่านจึงไม่ชอบความเกิด ผู้เกิดมาแล้วย่อมบริโภคกาม เกิดมาแล้วก็เห็นสิ่งต่างๆ ที่น่าเห็น เกิดมาแล้วก็ได้ยินเสียงต่างๆ ที่น่าได้ยิน เกิดมาแล้วก็ได้กลิ่นต่างๆ ได้รสต่างๆ ได้โผฏฐัพพะต่างๆ ได้เสวยรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะต่างๆ

    นี่เป็นความเห็นของมารที่ว่าควรเกิด เพราะเกิดมาแล้วเห็น สนุกสนานเพลิดเพลิน ได้ยินสิ่งต่างๆ ที่น่าพอใจ ไม่มีใครที่ไม่อยากเห็น ไม่อยากได้ยิน เพราะฉะนั้น ความเกิดนั้นดี ควรเกิด

    ถ้าท่านผู้ใดยังคิดอย่างนี้ก็เหมือนกับที่มารคิด แต่ถ้าผู้ใดคิดตรงกันข้ามว่า ความตายย่อมมีแก่ผู้ที่เกิดมาแล้ว ผู้ที่เกิดมาแล้วย่อมพบเห็นทุกข์ เพราะฉะนั้น จาลาภิกษุณีจึงไม่ชอบความเกิด [แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 71]


    หมายเลข 13770
    20 มิ.ย. 2568