ระลึกรู้จนเป็นปกติ


    . (ไม่ได้ยิน)

    สุ . เป็นไปไม่ได้ที่จะรู้แต่เฉพาะทวารเดียว และตอนเริ่มแรกทีเดียวก็เป็นไปไม่ได้ที่จะรู้ทั้ง ๖ ทวาร สิ่งใดที่ปรากฏ และสติเริ่มระลึก ก็จะเป็นปัจจัยให้สติระลึกที่นามนั้นรูปนั้นได้อีก และเป็นผู้ที่รู้ด้วยว่า ขณะนั้นสติระลึกรู้ลักษณะของนามหรือของรูปทางไหน บ่อยหรือไม่บ่อย มีเสียง มีได้ยิน มีรู้เรื่อง แต่ว่าสติจะระลึกรู้ที่เสียง หรือสติจะระลึกรู้ที่นามอื่นรูปอื่น ก็เป็นเรื่องธรรมดา สติจะต้องระลึกรู้นามธรรมและรูปธรรมทั้ง ๖ ทวาร และละเอียดขึ้นด้วย

    เจ็บนิดๆ หน่อยๆ ชีวิตปกติธรรมดา หรืออุบัติเหตุกำลังจะเกิดขึ้น ถ้าสติไม่ระลึกรู้จนเป็นปกติ เจริญสติปัฏฐานไม่ได้เลยในขณะนั้น ทั้งๆ ที่ขณะนั้นไม่ใช่ตัวตน เป็นวิบาก เป็นผลของกรรมที่จะต้องเกิดขึ้น ซึ่งการรับผลของกรรมทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย เป็นอิฏฐารมณ์ที่น่าพอใจบ้าง เป็นอนิฏฐารมณ์ที่ไม่น่าพอใจบ้าง และอนิฏฐารมณ์ที่ไม่น่าพอใจ มีตั้งแต่อย่างเจ็บนิดเจ็บหน่อย จนกระทั่งถึงอย่างที่น่ากลัว โหดร้าย โหดเหี้ยม ทารุณ แต่แม้กระนั้นผู้ที่มีปกติเจริญสติ เป็นพระอริยบุคคลได้แม้ในขณะนั้น

    เสือโคร่งกัด ราชสีห์กัด ก็เป็นพระอริยบุคคลได้ ถูกโจรทุบ ก็เป็นพระอริยบุคคลได้ เพราะเป็นผู้ที่มีปกติเจริญสติโดยละเอียด ไม่ว่าจะเป็นอิฏฐารมณ์อย่างไร อนิฏฐารมณ์อย่างไร ก็เป็นผู้ที่รู้ชัดว่า เป็นแต่เพียงนามธรรมและรูปธรรมเท่านั้น จึงจะรู้แจ้งอริยสัจธรรมในขณะนั้นได้

    มิฉะนั้นจะไม่มีหนทางที่จะเป็นพระอริยบุคคลเลย ถ้ายังเจริญสติปัฏฐานกันอย่างหยาบๆ มาก เช่น ระลึกรู้ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย แต่ว่าไม่ทั่วไปถึงที่เป็นโทสมูลจิต เป็นโลภมูลจิต อย่างแรงบ้าง อย่างอ่อนบ้าง

    ที่มา ...

    แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 189


    หมายเลข 13694
    24 พ.ค. 2568