ความเห็นผิดของตัวเราและของคนอื่น


        ผู้ฟัง ขณะนี้เราต่างกล่าวถึงความเห็นผิดของคนอื่น แต่ความเห็นผิดของตัวเองเราลืม

        สุ. กำลังกล่าวเป็นเราหรือเปล่า ลืม ก็ลืมไปหมด มีแต่เรื่องราว แต่ว่าตามความเป็นจริง ถ้าเป็นผู้ที่ไม่หลงลืม ก็คือสามารถที่จะเห็นถูกในขณะนั้นว่า เป็นเพียงสภาพธรรม ไม่ได้ห้ามคิด ไม่ได้บอกให้ทำอย่างนั้น หรือทำอย่างนี้ เพราะว่าบอกไม่ได้ ใครก็ทำไม่ได้ แต่ไม่ว่าสภาพธรรมใดเกิดขึ้นขณะไหน ให้รู้ว่า เกิดขึ้นตามเหตุตามปัจจัย เปลี่ยนไม่ได้ด้วยเพราะเกิดแล้ว

        ผู้ฟัง ความเห็นผิด หรือหลงลืม ไม่เข้าใจสภาพธรรมตามความเป็นจริง นี่ก็ชื่อว่า เป็นความเห็นผิดแล้วใช่ไหมคะ

        สุ. ขณะนั้นเห็นผิดอะไร

        ผู้ฟัง ขณะนั้นอาจจะหลงลืมสติ

        สุ. หลงลืมสติ แล้วจิตเป็นอะไร ขณะที่หลงลืม จิตเป็นอะไร

        ผู้ฟัง บางครั้งก็เป็นกุศล บางครั้งก็เป็นอกุศล

        สุ. หลงลืมน่ะหรือคะ ก็แล้วแต่จะเข้าใจธรรมโดยละเอียด หรือว่าขั้นต้นๆ แต่ตามความเป็นจริง ธรรมละเอียดมาก ค่อยๆ ฟัง ค่อยๆ เข้าใจให้ถูกต้องว่า กำลังกล่าวถึงสภาพธรรมที่มีจริง ใครก็บังคับบัญชาไม่ได้ และสภาพธรรมก็มีอายุที่สั้นแสนสั้น มีปัจจัยเกิดแล้วดับแล้ว กำลังพูดเรื่องจิต จิตก็เกิดดับไปนับไม่ถ้วน โดยที่ไม่รู้ลักษณะของจิตเลย

        เพราะฉะนั้นก็ต้องเป็นผู้ละเอียดที่จะเข้าใจว่า ไม่มีเราที่จะตัดสิน แต่มีธรรมที่ปรากฏ แล้วฟังให้มีความเห็นถูก เข้าใจถูกว่าเป็นธรรม เท่านั้นเองค่ะ

        ผู้ฟัง แต่ตามไม่ทันเลยค่ะ

        สุ. นี่ไงคะ ไม่ได้บอกให้ตามทัน ฟังเพื่อให้เข้าใจสภาพธรรมที่ปรากฏ

        ที่มา ...

        พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 331


    หมายเลข 12394
    23 ม.ค. 2567