รูปที่เป็นอินทรีย์


        ผู้ฟัง ดิฉันมีความสนใจที่จะเข้าใจเรื่อง “อินทรีย์” ๒๒ ปกติก็จะท่องมาตลอด และไม่เคยท่องได้ ไม่เข้าใจในการศึกษาว่า เราจะเข้าใจอินทรีย์ ๒๒ ในขณะนี้ได้อย่างไรค่ะ

        สุ. ขณะนี้เห็นไหมคะ

        ผู้ฟัง อาศัยจักขุปสาทรูปค่ะ

        สุ. ไม่ได้อาศัยธาตุดิน น้ำ ไฟ ลม ซึ่งเป็นมหาภูตรูป ไม่ได้อาศัยทหยวัตถุ ไม่ได้อาศัยรูปอื่นเลย เพราะฉะนั้นรูปนี้เป็นใหญ่ เป็นจักขุนทรีย์ในขณะที่เห็น

        ผู้ฟัง แล้วในขณะที่ศรัทธาเกิด มีความสนใจที่จะสอบถาม ขณะนี้ก็เป็นอินทรีย์อีกประเภทหนึ่งใช่ไหมคะ

        สุ. ธรรมค่อยๆ คิด คือว่า เมื่อทรงแสดงอินทรีย์ ๒๒ ก็มีอะไรบ้าง แล้วค่อยๆ พิจารณาว่า จริง หรือเปล่า อย่างรูปตั้งแต่ศีรษะตลอดเท้า มีรูปใดบ้างที่เป็นอินทรีย์ ไม่ใช่เพียงเฉพาะ ๕ รูป ที่ตัวทั้งหมดตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า มีจักขุปสาท นี่เป็นอินทรีย์แน่ ถ้าไม่มีแล้ว ไม่มีตา หู จมูก ลิ้น กาย อะไรๆ ก็ไม่ปรากฏทางตา หู จมูก ลิ้น กายได้เลย แต่เพราะเหตุว่ามีรูปนี้ สิ่งนี้จึงปรากฏ สิ่งที่ปรากฏทางตา ใครจะรู้ว่าเป็นอย่างนี้ ถ้าเป็นคนตาบอด ไม่มีทางที่จะรู้เลยว่า นี่เป็นรูปที่มีจริงๆ และปรากฏได้ หรือแม้แต่เสียง จะไปนึกฝันว่าเสียงเป็นอย่างนั้นอย่างนี้สำหรับคนที่ไม่มีโสตปสาท ก็ไม่มีทางที่เสียง แม้มีจริง มองไม่เห็น จะปรากฏได้

        เพราะฉะนั้นจริงๆ ตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า รูปที่เป็นอินทรีย์ ก็ได้แก่ ๑. จักขุนทรีย์ จักขุปสาท ตา หู จมูก ลิ้น กาย แล้วมีรูปอื่นอีกไหมที่เป็นอินทรีย์ มีรูปที่เราไม่รู้ เพราะว่าวันหนึ่งๆ เราก็มีแต่ตา หู จมูก ลิ้น กายที่ทำให้มีการเห็นเกิดขึ้น แต่ว่ารูปที่เกิดจากกรรมทุกกลุ่ม หรือทุกกลาป แม้แต่จักขุปสาท ก็ต้องมีชีวิตินทรียรูป เป็นอินทรีย์ด้วย เกิดร่วมด้วย เพราะเป็นใหญ่ในการทำให้จักขุปสาทเป็นรูปที่ทรงชีวิต มีชีวิต อย่างคนที่ตายแล้ว เขาก็ยังมีรูปตา แต่รูปของเขาทั้งหมดจะไม่เกิดจากกรรมเป็นสมุฏฐานเลย แม้ว่าจะมีอ่อนมีแข็ง แต่หลังจากจุติจิตแล้ว ไม่ใช่รูปที่เกิดเพราะกรรมเป็นสมุฏฐาน ฉันใด แม้มีตา ตานั้นก็ไม่มีชีวิต เพราะฉะนั้นทุกกลุ่ม ทุกกลาปของรูปที่เกิดจากกรรม จะต้องมีชีวิตินทรียรูป ดำรงอุปถัมภ์รักษาความทรงชีวิตของรูปนั้นให้เป็นไปอีก ๑ รูป เป็น ๖ ขณะนี้ที่เรารู้ว่า เป็นหญิง เป็นชาย ถ้าไม่มีอิตถีภาวรูปซึมซาบอยู่ทั่วตัว ปรากฏสันฐานที่จะให้ต่างกัน ก็จะไม่มีการจำหมายรู้ว่า นี่เป็นลักษณะของหญิง เป็นอาการของหญิง หรือลักษณะนั้นเป็นอาการของชาย เพราะฉะนั้นรูปนี้เป็นใหญ่ที่จะให้ปรากฏลักษณะของหญิง และชาย เป็นอินทรีย์ ถ้าไม่มีรูปนี้ก็ไม่มีที่จะปรากฏได้ เพราะฉะนั้นก็เพิ่มอีก ๒ เป็น ๘

        เพราะฉะนั้นเราก็ค่อยๆ เข้าใจ ไม่ต้องไปนั่งจำ นั่งท่อง แล้วก็ลืม ถ้าไม่มีความเข้าใจ ฟังอะไรไปก็ลืมหมด

        ที่มา ...

        พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 287


    หมายเลข 12174
    27 ม.ค. 2567