รักหรือเมตตา


        ความรัก คือ ความติดข้องเป็นอกุศล ต่างจากความเมตตาที่เป็นความ ปรารถนาดี เป็นกุศล ซึ่งถ้าไม่ศึกษาพระธรรมจนรู้สภาพธรรมตามความ เป็นจริง ก็ไม่สามารถรู้ความต่างกันของความรักกับความเมตตาได้เลย


        อ.อรรณพ ความไม่รู้ ก็ลวงว่าสภาพที่รักที่ผูกพันดูเหมือนกับเมตตา กราบเรียนท่านอาจารย์อธิบายลักษณะของสภาพธรรมมทั้ง ๒ อย่าง

        ท่านอาจารย์ ความละเอียดเริ่มจากชอบ ยังไม่ต้องไปถึงความรัก คือความติดข้องพอใจในสิ่งที่ชอบหรือไม่ ต้องการสิ่งที่ชอบ แล้วถ้าไม่ได้เป็นทุกข์ และความเป็นเพื่อนหวังดีพร้อมที่จะเกิดเป็นประโยชน์กับคนนั้น เป็นความเกี่ยวข้องหรือไม่? แสดงว่าส่วนใหญ่มีแต่ความติดข้อง ก็ยากที่จะรู้ว่าสภาพธรรมที่ไม่ใช่ความติดข้องเป็นอย่างไร เพราะว่าคุ้นเคยกับความติดข้อง ถ้ามีความเข้าใจจริงๆ ว่าเราหวังดีกับใคร คนที่ไม่ใช่ญาติพี่น้องเคยหวังดีกับเชาหรือไม่? เด็กซึ่งเราไม่รู้จักเลย แต่ว่าเราสามารถที่จะหวังดีกับเด็กคนนั้นโดยที่ไม่รู้จัก ได้ไหม? ไม่ใช่เด็กข้างบ้านที่คุ้นเคย เด็กไหนก็ได้ แต่ว่าก็ยาก เพราะเหตุว่าบางคนชอบเด็ก พอเห็นเด็กแล้วไปหาเลย นิสัยรักเด็ก เคยเห็นไหม ใช้คำว่ารักเด็ก พอเห็นเด็กก็ชอบ เเล้วก็บอกว่าน่าเอ็นดู เหมือนกับว่าเอ็นดู แต่ว่าความจริงขณะนั้นเป็นความติดข้อง

        ถ้าไม่ได้ศึกษาจริงๆ ก็ยากที่จะรู้ว่า แม้คนที่รู้จักคุ้นเคยอย่างยิ่งในครอบครัว เพื่อนบ้าน หรือใครก็ตามแต่ ถ้ามีการเข้าใจขณะที่เป็นกุศลจิตซึ่งต่างกับขณะที่เป็นอกุศล ขณะนั้นสามารถที่จะรู้ได้ว่า กาลใด ขณะใด เป็นความติดข้อง และขณะใดไม่ใช่ความติดข้อง แต่เป็นความหวังดี

        ธรรมเป็นเรื่องที่ละเอียด ถึงแม้จะพูดอย่างไร แต่ว่าถ้าขณะนั้นไม่มีสภาพธรรมนั้นกำลังปรากฏก็ยากที่จะเข้าใจได้ เช่น ขณะนี้บางคนอยากจะทราบว่านิพพานเป็นอย่างไร บอกไปอธิบายไป ยกตำราต่างๆ นานาก็ไม่สามารถที่จะเข้าใจ แต่ว่าขณะใดก็ตามที่สภาพธรรมใดกำลังปรากฏ จากการฟัง และรู้ความต่างกันของสภาพจิต ก็สามารถที่จะรู้ได้ว่าขณะนั้นเป็นความรัก ความติดข้อง หรือเป็นเมตตา

        คนที่ชอบสัตว์เลี้ยง รักสุนัข รักแมว หรือสัตว์เลี้ยงของตน มีความผูกพัน มีความติดข้อง แต่อีกคนหนึ่งไม่มีความผูกพัน ไม่มีความติดข้อง แต่เขามีความเมตตา เวลาที่เห็นสุนัขหรือแมวตัวนั้นกำลังหิว แต่เขาก็ไม่ได้มีความติดข้อง รักใคร่ เหมือนคนที่เลี้ยงอยู่ในบ้านเดียวกัน เขาก็สามารถที่จะรู้ได้ เขาไม่ได้มีความผูกพันมากอย่างเจ้าของ แต่ว่าขณะใดก็ตามที่สุนัขหรือแมวนั้นลำบาก เป็นต้นว่าหิวหรือเจ็บ เขาก็สามารถที่จะดูแลเป็นมิตรเกื้อกูลได้ในขณะนั้น นี่ก็เป็นตัวอย่างที่พอจะรู้ความต่างกันของ ๒ คน คนหนึ่งซึ่งเป็นเจ้าของ ผูกพันแน่ รักใคร่ ดูแลมาก แต่อีกคนหนึ่งก็ไม่ได้เป็นเจ้าของ คนนั้น สามารถที่จะรู้สึกได้ว่า ขณะไหนเป็นความรักใคร่ผูกพัน ขณะไหนเป็นความเป็นมิตรที่เกื้อกูถ้าไปเที่ยวบ้านอื่นมีสุนัขน่ารัก ชอบแล้ว จะไปเป็นมิตรอะไร กิริยาอาการเหมือนเป็นมิตรเลย ตบหัวบ้าง ลูบหลังบ้าง แต่ขณะนั้นติดข้องหรือไม่

        สภาพธรรมะทั้งหมดจะค่อยๆ เข้าใจขึ้น ในเมื่อเป็นผู้ที่ละเอียด ก่อนอื่นทั้งหมดก็คือสามารถที่จะเข้าใจถูกต้องในลักษณะนั้น ซึ่งต่างกัน เป็นสภาพธรรมซึ่งเป็นสภาพรู้ กับสภาพไม่รู้ ซึ่งไม่ใช่เรา จึงสามารถที่จะรู้ธรรมซึ่งเคยยึดถือว่าเป็นเรา จะมีเมตตา หรือจะมีความผูกพันหรืออะไรก็ตามแต่ทั้งหมดจึงสามารถที่จะเห็นถูกในลักษณะของสภาพธรรมซึ่งต่างกันจริงๆ แต่ต้องด้วยการเป็นธรรมก่อน แต่ถ้าเอาความเป็นเราไปตัดสิน ก็ยาก เพราะยังไม่รู้ว่าขณะนั้นแท้ที่จริงแล้วก็ไม่ใช่เรา แต่เป็นธรรม

        เราฟังธรรมเพื่อเป็นแนวทางที่สามารถที่จะเข้าใจลักษณะของธรรมจริงๆ แต่ที่จะรู้ได้ "เมตตา" ต้องต่อสัตว์ บุคคล สิ่งที่มีชีวิต แต่ความติดข้อง ความพอใจแม้สิ่งที่ไม่มีชีวิตก็ติดข้องได้ นี่เป็นความต่างกัน พอที่จะรู้ได้ เวลาเห็นสิ่งที่มีชีวิต แม้จะไปเที่ยวสวนสัตว์ ก็มีความติดข้องได้ แล้วจะมีเมตตาไหม สภาพธรรมไม่มีใครสามารถที่จะไปจัดแจงเปลี่ยนให้เป็นอย่างนั้นอย่างนี้ได้ แล้วแต่ว่าขณะนั้นสภาพธรรมใดเกิดขึ้น แต่ที่รู้ยากเพราะเหตุว่าสภาพธรรมเกิดดับสืบต่อเร็วสุดที่จะประมาณได้

        ก่อนอื่นต้องรู้ในลักษณะที่เป็นธรรมก่อน แล้วจึงสามารถที่จะเข้าใจในความต่างของสภาพธรรมในขณะนั้นได้ แต่ก็เร็วจนกระทั่งว่าถ้าไม่ใช่ปัญญาที่รู้จริงๆ ตามลำดับขั้น ขณะนั้นจิตเป็นอะไร ถ้าไม่รู้ความจริงของสภาพธรรมซึ่งไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ผู้ไม่รู้ก็พยายามคิดไตร่ตรองตัดสินด้วยความไม่รู้ ซึ่งต่างกับขณะที่สภาพธรรมเป็นจริงอย่างนั้น ปรากฏอย่างนั้น แม้แต่ความเข้าใจถูก ความเห็นถูก ก็เป็นธรรมอย่างหนึ่ง ก็เป็นความลึกซึ้ง ค่อยๆ ลึกซึ้งขึ้นของธรรมที่เรากล่าวโดยชื่อ และก็ดูเหมือนกับว่าไม่ยากที่จะเข้าใจ แต่เวลาที่สภาพธรรมเกิดขึ้นจริงๆ จะรู้ก็ต่อเมื่อเป็นปัญญาจริงๆ ไม่เรียกชื่อก็จะรู้ได้ แต่มานั่งเรียกชื่อก็งงว่าอย่างนี้อะไร แต่ว่าลักษณะนั้นเปลี่ยนไม่ได้ ถ้าเป็นความเมตตาเป็นความหวังดี ขณะนั้นก็ไม่มีความผูกพัน แต่ขณะใดก็ตามที่มีความติดข้อง จะช่วยเหลือหรือจะทำอะไรก็ตามแต่ด้วยความติดข้อง ขณะนั้นก็ไม่ใช่เมตตา คุณอรรณพชอบดอกไม้นี้หรือไม่ เมตตาดอกไม้หรือไม่?

        อ.อรรณพ ไม่ได้ เพราะไม่ใช่เป็นคน

        ท่านอาจารย์ ถ้าคนไม่รู้ ก็เมตตาไปหมดเลย ต้นไม้ก็เมตตาเขา อย่าไปตัดเขา ให้เขาอยู่ในที่ที่ไม่มีแดดด้วย และก็แล้วแต่จะคิด ด้วยความไม่รู้ สับสนเพราะไม่รู้ บางคนก็สงสารตุ๊กตา สารพัดอย่าง แต่เป็นไปไม่ได้เลยกับสิ่งที่ไม่มีชีวิต


    หมายเลข 10465
    31 ธ.ค. 2566