โกรธไปทำไม


        ทุกคนทั้งที่รัก และชัง ก็ต้องตายไปตามกรรมของตนทั้งสิ้น จึงไม่ควรโกรธ และคิดประทุษร้ายใคร เพราะโทสะนั้นเป็นโทษแก่เราเอง


        ท่านอาจารย์ ในห้องนี้มีใครบ้างที่ไม่โกรธ

        ผู้ฟัง เราไม่ทราบจิตของคนอื่นในขณะนี้

        ท่านอาจารย์ แต่พอจะรู้ได้ไหม

        ผู้ฟัง พอจะอนุมานได้ว่า ทุกคนต้องเคยโกรธ

        ท่านอาจารย์ เพราะฉะนั้น แล้วแต่แต่ละคนจะเห็นโทษของความโกรธมากน้อยแค่ไหน ไม่เท่ากัน ขอพูดเฉพาะเรื่องนี้ที่โกรธจนถึงเกือบจะฆ่า หรือคิดจะฆ่า ถึงไม่ฆ่า เขาตายไหม

        ผู้ฟัง เขาต้องตายครับ

        ท่านอาจารย์ ถ้าเราไปฆ่าเขากับเขาตายเอง เป็นโทษกับเราที่ฆ่า แต่เขาตายเองเพราะถึงเวลา ไม่มีโทษกับเราเลย เพราะถึงอย่างไรเขาก็ต้องตาย คนที่เราโกรธก็ต้องตาย คนที่เรารักก็ต้องตาย คนที่มีคุณกับเราก็ต้องตาย ความตายเป็นของธรรมดา และเกิดขึ้นเป็นกรรมของบุคคลนั้นที่ถึงเวลาต้องจากโลกนี้ไป เราคิดว่า เราฆ่าเขา มีอกุศลแรงถึงปานนั้น แต่เขาไม่ได้ตายเพราะการฆ่าของเรา อาจจะบาดเจ็บสาหัสก็ได้ หรืออาจจะไม่ถึงบาดเจ็บสาหัสก็ได้ แล้วแต่กำลังการกระทำ แต่เมื่อยังไม่ถึงเวลาที่จะต้องตาย เขาก็ไม่ตาย ต่อให้เราพยายามทำให้เขาตายสักเท่าไร เขาก็ไม่ตาย ถูกต้องไหมคะ หรือต้องตายแน่เพราะเราฆ่า เขาตายเพราะถึงเวลาที่เขาต้องตาย ไปฆ่าให้เสียเวลาทำไม เพราะถึงเวลาเขาก็ต้องตาย แต่กลับเป็นโทษของเราที่ลืมคำที่เคยได้ยินได้ฟังว่า แท้ที่จริงแล้วมีเราหรือเปล่า มีเขาหรือเปล่า มีแต่ธรรมะแต่ละอย่างที่เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ที่เป็นกุศล ที่เป็นอกุศลก็ต่างกันมาก อกุศลที่เกิดขึ้นไม่ได้ให้โทษกับคนอื่นเลย ให้โทษกับจิตที่มีอกุศลนั้น ถ้ารู้อย่างนี้แล้ว ก็ต้องเห็นโทษของอกุศลว่า เมื่ออกุศลได้เกิดแล้วก็ทำให้จิตเศร้าหมอง กรรมใดที่ทำแล้วต้องเป็นปัจจัยให้ผลเกิด ก่อนปรินิพพานพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประชวร มีใครทำให้หรือเปล่า ไม่มีเลย แต่มีกรรมที่ทำแล้วเป็นเหตุให้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ประชวร

        เพราะฉะนั้น เราไม่ต้องไปทำให้ใครเดือดร้อน ถึงเวลาก็เกิดขึ้น และเวลาที่เขาเดือดร้อนจริงๆ เราสงสาร มีใครบ้างที่ไม่สงสารเหตุการณ์ต่างๆ ที่ได้ยินได้ฟัง ซึ่งไม่ควรจะเกิดเลย แต่ก็เกิดขึ้นเพราะการกระทำจากอกุศล คือ ความโกรธ เมื่อวันสองวันหรือเมื่อเช้าได้ยินเรื่องผู้หญิงมีครรภ์แก่ และถูกแทงตาย ได้ยินอย่างนี้แล้วสงสาร แล้วกรรมอะไรที่ทำให้เขาเป็นอย่างนี้ ไม่ใช่กรรมของคนอื่นเลย กรรมของเขานั่นเอง

        เพราะฉะนั้น จากเราชาตินี้ไปเป็นคนหนึ่งคนใดชาติหน้า แล้วผลของกรรมที่ทำไว้ก็ทำให้ได้รับผลอย่างนี้ เมื่อผลเกิดแล้วสงสาร แต่ก่อนที่ผลจะเกิดไม่ชอบ อยากให้เขาตาย แต่ขณะนั้นเขาต้องตายแน่ ไม่ต้องอยากเขาก็ตาย แล้วอะไรจะเกิดกับเขาก่อนตาย ก็ไม่มีใครไปยับยั้งได้ เพราะจริงๆ แล้ว กรรมเป็นมือที่มองไม่เห็น ถ้ารู้อย่างนี้แล้วเขากำลังจะตายโดยที่เราไม่ได้ฆ่า แต่ตายเพราะกรรมที่เขาได้ทำไว้ทำให้ต้องเจ็บ ทรมานแสนสาหัส สงสารไหม

        ผู้ฟัง สงสาร

        ท่านอาจารย์ เพราะฉะนั้น ใจของเราเริ่มอ่อนโยนแม้แต่คนที่เราไม่ชอบ แม้แต่คนที่เป็นศัตรู อ่อนโยนที่ว่า เขาจะตายไปโดยไม่เข้าใจธรรมะ กับการที่เรามีโอกาสได้ฟังธรรมะ และกรรมที่ทำไว้แล้วก็มีโอกาสให้ผล ช้าหรือเร็ว ชาตินี้หรือชาติหน้า แต่ขออย่าให้เป็นอกุศลกรรมที่ทำต่อไปอีก ที่จะทำให้เกิดผลนั้นๆ เพราะอดีตชาติก่อนๆ เราไม่สามารถจะรู้ได้ว่า เราได้ทำกรรมอะไรบ้างแล้ว ท่านพระมหาโมคคัลลานะเจ็บสาหัสก่อนจะปรินิพพาน ท่านพระสารีบุตรก็สาหัส เจ็บมาก ทรมานมาก แม้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเอง เพราะกรรมทั้งสิ้น ไม่มีใครต้องทำให้เลย

        เพราะฉะนั้น ควรเห็นโทษของอกุศลกรรม แล้วเมตตาในทุกคนที่กำลังได้รับผลของอกุศลกรรม อย่าให้เราเป็นคนที่ทำกรรมนั้น ถ้าคิดอย่างนี้ก็สบาย ไม่ต้องทำอะไรเลย คนที่เรารักหรือเราโกรธล้วนตายทั้งนั้น ตามกรรมของเขาด้วย แต่ถ้าใครก็ตามที่ทรมานเจ็บปวดสาหัสจากโลกนี้ไป โดยไม่เข้าใจธรรมะ น่าสงสารกว่าใช่ไหมคะ

        เพราะฉะนั้น ก็มีเมตตาต่อกัน หวังดีต่อกัน เกื้อกูลกันที่จะให้ได้รับประโยชน์สูงสุดของการได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ทุกคนต้องตายทั้งนั้น แต่ขอให้เห็นถูกในโทษของอกุศล จนไม่ทำอกุศลกรรม


    หมายเลข 10322
    31 ธ.ค. 2566