ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๐๗๔

 
khampan.a
วันที่  20 ม.ค. 2556
หมายเลข  22364
อ่าน  1,368

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขออนุญาตแบ่งปันข้อความธรรม (ปันธรรม) ที่ได้จากการฟังพระธรรมจากท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในแต่ละครั้ง รวบรวมเป็นธรรมเตือนใจสั้นๆ เหมาะสำหรับผู้ที่มีเวลาน้อย เพื่อศึกษาและพิจารณาร่วมกัน เพื่อความเข้าใจธรรม (ปัญญ์ธรรม) ตามความเป็นจริง ถึงแม้ว่าจะเป็นข้อความที่สั้น แต่ก็มีอรรถที่สมบูรณ์อยู่ในตัว ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง ดังนี้

[ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๗๔]

--- ปัญญาที่จะต้องอบรม นั้น มีตั้งแต่ความเข้าใจที่ถูกต้องในขั้นต้น ถ้าความเข้าใจ ที่ถูกต้องขั้นต้นไม่มี ปัญญาก็เจริญไม่ได้

--- ต้องฟังพระธรรมต่อไปอีก ไม่ใช่หยุดอยู่ที่ขั้นเป็นคนดี แต่ไม่สนใจละคลายกิเลส มากกว่านั้น

--- ทุกท่านต้องเป็นผู้ฟังอย่างละเอียด เพื่อที่จะเห็นประโยชน์ของพระธรรมจริงๆ และ ก็จะค่อยๆ มีศรัทธาที่จะละคลายกิเลสเพิ่มขึ้น เรื่องของการกระทำทางกาย วาจา ย่อมเป็นการวัดกำลังของกิเลส ปกติทุกคนมี โลภะ มีโทสะ มีโมหะ มีความขุ่นเคืองใจ แต่ถ้าล่วงศีลเมื่อไร เมื่อนั้นก็แสดง ให้เห็นกำลังของอกุศลว่ามีมาก

--- พระผู้มีพระภาคทรงแสดงพระธรรมทั้งหมด เพื่อที่จะให้พุทธบริษัทมีความ ประพฤติดี ให้กุศลจิตเกิดทุกระดับตั้งแต่ขั้นต้นในชีวิตประจำวัน จนกว่าจะถึงการรู้แจ้ง อริยสัจจธรรม

--- ถ้าละเลยการขัดเกลาอกุศลในเบื้องต้น มุ่งหน้าที่จะไปสู่การรู้แจ้งอริยสัจจธรรมอย่างเดียว ย่อมเป็นผู้ที่ประมาท เพราะเหตุว่าถ้าในขั้นต้น เบื้องต้น ยังเป็นคนดีไม่ได้ แล้วจะรู้แจ้งอริยสัจจธรรมได้อย่างไร

--- ตนเองควรจะมีความประพฤติดีไม่ต้องคิดถึงว่าเขาจะมองอย่างไร จะเข้าใจอย่างไร จะคิดอย่างไร แต่เห็นว่าตนเองเท่านั้นที่ควรประพฤติดี

--- แต่ละท่านกว่าจะหมดกิเลส ก็ต้องขัดเกลาอย่างมากทีเดียว

--- แม้แต่มิตรสหายก็ไม่ควรคบคลุกคลีจนเกินไป จนพร่ำเพรื่อ เพราะเหตุว่าจะเป็น ไปในเรื่องของการติดข้อง หรือทำให้เกิดโทษ

--- สิ่งที่ควรเว้นใหญ่ๆ ๕ ข้อ (เว้นจากการฆ่าสัตว์ จากการลักทรัพย์ จากการประพฤติ ผิดในกาม จากการพูดเท็จ จากการดื่มสุราเมรัยอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท) แต่ ความละเอียดมีมากกว่านั้นอีก เว้นคำที่จะทำให้คนอื่นไม่สบายใจ นี่ก็อาจจะคิดว่าเล็ก น้อยเหลือเกิน เพราะว่าไม่เป็นคำหยาบ แต่แม้กระนั้นก็ต้องมีความละเอียดด้วยก่อนที่ กิเลสจะหมดไปได้

--- ตราบใดที่กิเลสยังไม่ได้ดับ ก็จะมีปัจจัยให้อกุศลจิตเกิดขึ้นเป็นไปในวันหนึ่งๆ ตามการสะสมต่างๆ กัน

--- เรื่องของกรรมที่จะให้ผล ไม่อยู่ในอำนาจของใครทั้งสิ้น ใครที่จะได้ช้า จะได้เร็ว จะได้มาก จะได้น้อยขึ้นอยู่กับกรรมเป็นสำคัญ

--- ไม่ขาดธรรม ล้อมรอบไปด้วยธรรม มีธรรมเกิดขึ้นเป็นไปอยู่ตลอด

--- ถ้าเป็นคนดี ก็จะต้องศึกษาพระธรรมให้เข้าใจละเอียดขึ้น ว่า ความดีไม่ใช่มีเพียง ขั้นไม่ล่วงทุจริตเท่านั้น แต่ยังต้องสามารถมีสติสัมปชัญญะที่จะระลึกรู้ลักษณะสภาพ ธรรมที่กำลังปรากฏให้เข้าใจถูกต้องว่า สภาพธรรมใดเป็นกุศล สภาพธรรมใดเป็น อกุศล และทั้งกุศลและอกุศลนั้นไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน จึงต้องมี สติสัมปชัญญะแม้ในการฟัง ที่จะต้องพิจารณาจริงๆ ให้เข้าใจ ให้รู้ว่าสภาพธรรมที่เป็น อกุศลต่างกับกุศล และทั้งอกุศลและกุศลนั้นไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน มิฉะนั้นแล้ว ไม่สามารถเห็นความไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคลของสภาพธรรมได้

--- จุดประสงค์ของการอุทิศส่วนกุศลก็เพื่อให้ผู้ที่เราอุทิศส่วนกุศลให้นั้นเกิดกุศลจิต อนุโมทนา สำหรับคนตายเราไม่รู้ว่า เขาเกิดที่ไหน ภูมิใด เพราะฉะนั้นเราอุทิศส่วน กุศลให้ เผื่อเขาอยู่ในฐานะที่ล่วงรู้ในกุศลที่ได้บำเพ็ญแล้ว และเกิดกุศลจิตอนุโมทนา แต่สำหรับคนที่ยังไม่ตาย ไม่มีทางเลยที่เขาจะรู้ นอกจากจะบอกให้เขารู้ ไม่เกิด ย่อมไม่มีทุกข์ พ้นจากทุกข์ทั้งปวง

--- ยังมีความขวนขวายแสวงหาสิ่งหนึ่งสิ่งใดไม่มีวันจบสิ้น ตราบใดที่ยังมีโลภะ ความติดข้องต้องการอยู่

--- ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม เพื่อให้รู้ความจริงว่า ไม่ใช่เรา

--- ที่ชื่อว่า ทุกข์ เพราะอรรถว่า บีบคั้น นั้น ไม่ใช่ว่ามีใครไปบีบไปคั้น แต่เป็น ความเป็นจริงของธรรม ที่เมื่อเกิดแล้ว ก็ทนอยู่ไม่ได้ ต้องดับไปเป็นธรรมดา

--- ไม่มีใครเลือกทำอะไรได้ เพราะทุกอย่างเป็นไปตามเหตุปัจจัยและก็ชั่วคราวด้วย

--- แสวงหาหนทางลัด นั่นกำลังแสวงหาหนทางผิด แสวงหาหนทางแห่งความ ไม่รู้

--- ปัญญาจะทำให้มีการขัดเกลากิเลส

--- โอกาสที่ประเสริฐของการได้เกิดมาเป็นมนุษย์ คือ ได้ฟังพระธรรม สะสม ความเข้าใจเห็นถูกละคลายความไม่รู้ จนกว่าความไม่รู้จะไม่เกิดขึ้น.

ขอเชิญคลิกอ่านย้อนหลังครั้งที่ ๗๓ ได้ที่นี่ครับ

ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๗๓

...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่งและขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 20 ม.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขออนุญาตร่วมปันธรรม ด้วยครับ

- เราจะไม่ประทุษร้าย แม้ผู้เป็นข้าศึกของเราและผู้ที่หวังร้ายต่อเรา ผู้ใดหวังร้ายก็ เป็นอกุศลของเขาไม่ใช่ของเรา ผู้ไม่รับความชั่วของผู้อื่น คือ ผู้ชนะกิเลสของตนเอง ได้ ยอมรับสภาพธรรมทุกอย่างพร้อมกับให้อภัยได้เสมอ ก็จะมีแต่ความสุข

- ความคิดของเราในเรื่องสภาพธรรมนั้น มีพื้นฐานจากความคิดต่างๆ ที่ได้รับจาก การศึกษาและวัฒนธรรมที่ได้รับการปลูกฝังมา ถ้าเราต้องการที่จะเข้าใจคำสอนของ พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า เราก็ต้องไม่ยึดมั่นในความคิดของเราในเรื่องสภาพธรรม และควรเปิดใจกว้างรับฟังพระธรรม เราก็จะสังเกตได้ว่า พระธรรมที่ทรงแสดงนั้น แตกต่างจากความคิดของเรา ในเรื่องของสภาพธรรมอย่างสิ้นเชิง

-ลองดูคนที่เรารู้จัก บางคนจิตใจดี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ช่วยเหลือคนนั้นบ้างคนนี้บ้าง ไม่ พูดว่าร้ายใครเลย และทำให้คนที่เข้าใจผิดกันเข้าใจกันและสมัครสมานกลมเกลียวกัน ได้ มีการกระทำที่เป็นกุศลศีล คือการประพฤติสิ่งที่เป็นประโยชน์ทางกาย ทางวาจา แต่บางคนก็ตรงกันข้าม มีแต่เรื่องริษยา เรื่องโกรธ นึกถึงแต่ความไม่ดีต่างๆ มีความ ประพฤติทางกาย ทางวาจา ซึ่งไม่เหมาะไม่ควร ทำให้คนอื่นเดือดร้อน พูดคำอย่างนี้ แต่เมื่อเป็นคนพูดก็ลืมคิดและไม่รู้ว่าขณะนั้นก็เป็นอกุศล

- ทุกท่านได้ผ่านการศึกษาทางโลกมามาก หลายท่านสมบูรณ์ด้วยทรัพย์สมบัติ มี ความสุขในชีวิต บางท่านอาจคิดว่าพอแล้ว ไม่มีความจำเป็นอะไรอีกในชีวิตเพราะ ได้รับความสำเร็จทุกอย่าง แต่ตราบใดที่ยังไม่ศึกษาพระธรรม ชื่อว่าผู้นั้นยังไม่รู้จัก พระพุทธเจ้าและก็ยังไม่เข้าใจพระธรรมด้วย ถ้าเป็นผู้ที่เห็นประโยชน์ของพระธรรม ต้องศึกษา ต้องฟัง ถึงแม้ว่าจะยาก เมื่อเป็นสิ่งใหม่ก็ ต้องค่อยๆ ฟัง เพื่อให้ค่อยๆ เข้าใจขึ้น ดีกว่าจะปล่อยให้เป็นสิ่งใหม่ สิ่งยากไปเรื่อยๆ โดยไม่ฟังให้เข้าใจ ฉะนั้น จึงควรเห็นประโยชน์ของปัญญา เพราะเหตุว่าผู้มีทรัพย์มากก็ต้องเกิด แก่ เจ็บ ตาย ต้องมีความทุกข์ ไม่มีใครพ้นไปได้เลย

- ชีวิตของแต่ละท่านก็ผ่านมาตั้งแต่เด็กจนถึงขณะนี้ ซึ่งก่อนจะถึงวัยนี้ ก็ไม่รู้ว่า ถึงวัย นี้ในลักษณะใด และสำหรับพรุ่งนี้ก็มืดสนิท ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดบ้างแน่นอน ถ้าศึกษา พระธรรมก็จะเริ่มเข้าใจทุกอย่าง ตรงตามความเป็นจริง แล้วจะรู้เหตุของ ความทุกข์ สุข จนกระทั่งสามารถที่จะดับเหตุของความทุกข์ สุขนั้นได้ ตามพระธรรมที่พระผู้มี พระภาคฯ ทรงแสดงให้รู้แจ้งอริยสัจจธรรม นี่คือประโยชน์ของการฟังพระธรรม แล้ว ค่อยๆ เข้าใจขึ้น

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
บรรพต
วันที่ 20 ม.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
เมตตา
วันที่ 20 ม.ค. 2556

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาในกุศลจิตของ อ. คำปั่น อ. เผดิม ด้วยค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
เข้าใจ
วันที่ 21 ม.ค. 2556

กราบขอบพระคุณ อ.คำปั่น อ.ผเดิม ที่เกื้อกูลในพระธรรมได้เป็นอย่างดียิ่งครับ

กราบอนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
nong
วันที่ 21 ม.ค. 2556

สาธุ ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
Lamphun
วันที่ 21 ม.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
j.jim
วันที่ 21 ม.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
หลานตาจอน
วันที่ 21 ม.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
ธนัตถ์กานต์
วันที่ 21 ม.ค. 2556

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
วันชัย๒๕๐๔
วันที่ 21 ม.ค. 2556

"...ตนเองควรจะมีความประพฤติดี ไม่ต้องคิดถึงว่า เขาจะมองอย่างไร จะเข้าใจอย่างไร จะคิดอย่างไร แต่เห็นว่า ตนเองเท่านั้น ที่ควรประพฤติดี..."

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
kinder
วันที่ 21 ม.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
natural
วันที่ 21 ม.ค. 2556

ขอบพระคุณและอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
jaturong
วันที่ 22 ม.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
rrebs10576
วันที่ 23 ม.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
napachant
วันที่ 23 ม.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
pat_jesty
วันที่ 27 ม.ค. 2556

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 17  
 
natural
วันที่ 28 ม.ค. 2556

ขอบพระคุณและอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 18  
 
orawan.c
วันที่ 30 ม.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 19  
 
raynu.p
วันที่ 31 ม.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 20  
 
boonpoj
วันที่ 6 เม.ย. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 21  
 
มังกรทอง
วันที่ 18 พ.ย. 2564

ปัญญาที่จะต้องอบรม นั้น มีตั้งแต่ความเข้าใจที่ถูกต้องในขั้นต้น ถ้าความเข้าใจ ที่ถูกต้องขั้นต้นไม่มี ปัญญาก็เจริญไม่ได้

น้อมกราบอนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ ขอรับ

 
  ความคิดเห็นที่ 22  
 
chatchai.k
วันที่ 18 พ.ย. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ