ทำไมทานยานอนหลับแล้วหลับได้นาน ฯลฯ ?

 
Sam
วันที่  14 ส.ค. 2550
หมายเลข  4546
อ่าน  2,183

ในชีวิตประจำวัน มีเหตุการณ์ที่ทำให้สงสัยว่า รูปจะเป็นปัจจัยแก่นามอย่างไรได้บ้าง

ยกตัวอย่างเช่น

๑. ผู้ที่กินยานอนหลับ ทำให้หลับสนิทได้เป็นเวลานาน (มีภวังคจิตเกิดสืบต่อกันจากผลของฤทธิ์ยา)

๒. ผู้ที่ดื่มสุรา ทำให้หลงลืมสติ ทำกิริยาต่างๆ ที่ไม่เหมาะควร (อกุศลจิตประการต่างๆ เกิดขึ้นจากผลของสุรา)

๓. ผู้ที่ถูกของแข็งกระทบศีรษะอย่างรุนแรงจนถึงแก่ความตาย (จุติจิตเกิดขึ้นทำกิจอันเป็นผลจากธาตุดินที่มากระทบ)

ตัวอย่างที่ยกมาทั้งสามข้อ ทำให้ผมเกิดความสงสัยว่า รูปภายนอกที่กระทบกับรูปร่างกายของเรา จะเป็นปัจจัยให้เกิดจิตและเจตสิกชาติอื่น (นอกจากชาติวิบากที่รู้อารมณ์อันเนื่อง มาจากรูปนั้น) ได้หรือไม่หรือมีสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่ผมเข้าใจคลาดเคลื่อนไป ขอความกรุณาให้วิทยากรของมูลนิธิฯ หรือท่านผู้รู้ช่วยอธิบายความละเอียดให้ทราบด้วยครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
ไตรสรณคมน์
วันที่ 14 ส.ค. 2550

ในภูมิที่มีขันธ์ ๕ จิตและเจตสิกจะเกิดได้ต้องอาศัยรูป ซึ่งได้แก่ จักขุ โสตะ ฆานะ ชิวหา กายะ และหทยะ กายปสาทนั้นซึบซาบอยู่ทั่วตัว ทั้งอวัยวะน้อยใหญ่ เว้นไว้แต่เพียงผมกับปลายเล็บ ส่วนมโนทวารก็รับรู้อารมณ์ทุกอย่าง ทั้งทางใจและต่อจากทางทวารอื่นๆ เมื่อเป็นเช่นนี้ จิตย่อมรับรู้อารมณ์ทุกอย่างที่มากระทบรูป

การทานยานอนหลับและการดื่มสุรา มีผลต่อรูปโดยตรง เช่น ระบบประสาท การทำงานของสมอง การเต้นของหัวใจ และอวัยวะอื่นๆ ซึ่งย่อมมีผลต่อการรับรู้ของจิตด้วย เช่นเดียวกับ การถูกของแข็งกระทบศีรษะอย่างรุนแรงจนถึงแก่ความตาย ถ้าไม่มีจิต ก็ไม่ตาย ไม่รู้สึก และจุติจิตจะเกิดหรือไม่ เป็นเรื่องของเหตุปัจจัย คือวิบากกรรม เพราะฉะนั้น รูปที่มีใจครอง นามและรูปต่างเป็นปัจจัยซึ่งกันและกัน จะแยกขาดจากกันไม่ได้เลยค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
wannee.s
วันที่ 16 ส.ค. 2550

โดยมากเราจะกล่าวถึงเรื่องราว ถ้ากล่าวโดยธาตุ ไม่ว่าเราจะรับประทานอะไรก็ตาม รูปเป็นปัจจัยให้เกิดกลุ่มของรูปใหม่ และกลุ่มของรูปใหม่ ก็สามารถเป็นปัจจัยแก่จิตประเภทต่างๆ ได้ เช่น ดื่มสุรา ทำให้เกิดอกุศลจิต โลภะ โทสะ โมหะ รูปเป็นปัจจัยให้เกิดจิตแน่ๆ อยู่ที่ขณะนั้นสติเกิดรู้หรือไม่รู้ ที่สำคัญที่สุดคือเข้าใจธรรมขณะนี้ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
Sam
วันที่ 16 ส.ค. 2550

ขอบคุณ คุณไตรสรณคมน์ และคุณ wannee.sครับ ที่ช่วยตอบคำถาม

การถาม-ตอบ ปัญหาข้อสงสัยมีประโยชน์จริงๆ เพราะผมเก็บความสงสัยนี้มานานพอสมควรแล้ว พิจารณาอย่างไรก็ยังไม่เข้าใจอยู่นั่นเอง จนได้มีโอกาสถามในครั้งนี้ เมื่อได้ทบทวนความข้องใจของตัวเอง ประกอบกับคำตอบที่ได้ ทำให้มีความเข้าใจเพิ่มมากขึ้น

ผมเข้าใจว่ารูปย่อมเป็นปัจจัยแก่รูปอื่นได้ และในภูมิที่มีขันธ์ห้านั้นจิตต้องเกิดที่รูป ได้แก่ปสาทรูปห้า และหทยรูป จิตที่เกิดทางปสาทรูปห้าได้แก่ทวิปัญจวิญญาณจิต ส่วนจิตอื่นนอกจากนั้นเกิดที่หทยวัตถุ ปสาทรูปห้า ได้แก่ จักขุปสาทรูป โสตปสาทรูป ฆานปสาทรูป ชิวหาปสาทรูป และกายปสาทรูป เป็นกัมมัชรูป แต่รูปจากภายนอกก็เป็นปัจจัยให้รูปเหล่านี้มีสภาพที่เปลี่ยนแปลงไปได้ เช่น อาหารบางอย่างอาจทำให้จักขุปสาทรูปใสขึ้น หรือขุ่นมัวลง เป็นเหตุให้การรับรู้รูปารมณ์มีสภาพที่แตกต่างกัน และส่งผลไปถึงจิตดวงอื่นๆ ที่รู้อารมณ์เดียวกันที่เกิด ณ หทยวัตถุ (ซึ่งก็เป็นรูปที่อาจมีสภาพเปลี่ยนแปลงไปเพราะอาหารชนิดนั้นหรือรูปอื่นๆ เป็นปัจจัยได้เช่นเดียวกัน)

ส่วนการที่ชวนจิตจะเกิดเป็นกุศลหรืออกุศลนั้น ก็ขึ้นอยู่กับการสะสมในอดีต ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นอกุศล ทางทวารอื่นๆ ก็โดยนัยเดียวกัน ในชีวิตประจำวัน หลายท่านคงมีโอกาสได้ดื่มกาแฟ ทำให้รู้สึกตื่นตัวมากขึ้น บางคนก็รับประทานยาเป็นประจำเพื่อบรรเทาความเจ็บป่วยทั้งทางร่างกายและจิตใจ หรือบางคนก็เห็นประโยชน์ของการออกกำลังกาย บริหารร่างกายให้แข็งแรง ซึ่งแม้แต่พระภิกษุท่านก็ยังมีการเดินจงกรมเพื่อบริหารตน สิ่งเหล่านี้เป็นตัวอย่างของการที่รูปเป็นปัจจัยแก่รูป และส่งผลไปถึงจิตใจดังเช่นที่กล่าวมาแล้วนอกจากนี้มา นามธรรม เช่น สภาพที่เป็นกุศลและอกุศล เช่น ความโกรธ ความเครียดอย่างรุนแรง ก็ทำให้เกิดรูปที่อาจเป็นโทษอย่างรุนแรง จนเจ็บป่วยได้

ในขณะที่คนที่มีเมตตาผิวพรรณมักผ่องใส นี่เป็นตัวอย่างของนามที่เป็นปัจจัยแก่รูปและก็ส่งผลถึงจิตใจได้เช่นกัน ความเข้าใจนี้ช่วยให้ผมเห็นความสอดคล้องของพระอภิธรรมกับชีวิตที่เป็นอยู่จริงในทุกๆ วันซึ่งมีความละเอียดและลึกซึ้งสุดที่จะเข้าใจได้ทั่วด้วยปัญญาของปุถุชน และเข้าใจเพิ่มขึ้นว่า รูปที่มีใจครอง นามและรูปต่างเป็นปัจจัยซึ่งกันและกันจะแยกขาดจากกันไม่ได้เลย และที่สำคัญที่สุด คือ เข้าใจธรรมขณะนี้

ขอขอบคุณ และอนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
olive
วันที่ 17 ส.ค. 2550
ขออนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
Komsan
วันที่ 8 ก.พ. 2551
ขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 8 ก.พ. 2551
ขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
พุทธรักษา
วันที่ 16 ก.พ. 2551

ความเข้าใจพระอภิธรรม ตอบปัญหาชีวิตได้ทุกเรื่องจริงๆ

ที่สำคัญที่สุด คือ เข้าใจธรรม "ขณะนี้"

อนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
pornpaon
วันที่ 17 ก.พ. 2551
ขอบพระคุณในคำอธิบายด้วยเช่นกันค่ะ ขออนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
wirat.k
วันที่ 19 ก.พ. 2551

ได้ประโยชน์จากคำถามและคำตอบมากจริงๆ ครับขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
pamali
วันที่ 2 ม.ค. 2554

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านค่ะ..

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
PONG.tn
วันที่ 13 เม.ย. 2566

กราบอนุโมทนา เป็นประโยชน์และให้ความเข้าใจในสิ่งที่ไม่เคยได้ฟังได้อ่านมาก่อนถึงความลึกซึ้งมากๆ ในการตรัสรู้พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า หาที่เปรียบไม่ได้อีกแล้ว

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
yu_da2554hotmail
วันที่ 14 ส.ค. 2566

ยินดีในกุศลจิตค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ