สอบถามเรื่องการเบียดเบียนตนเอง

 
k211015
วันที่  28 ก.ค. 2557
หมายเลข  25180
อ่าน  847

อยากสอบถามผู้รู้เกี่ยวกับเรื่องการเบียดเบียนตนเอง ยกตัวอย่างเช่น การให้ทาน ผู้ให้มีข้าวอยู่กล่องหนึ่งกำลังจะทาน แต่เมื่อเห็นคนที่ยากจน หรือหิว ก็ยอมอดอาหารมื้อนั้น เพื่อให้กล่องข้าวของตนให้ผู้อื่น อย่างนี้ถือว่าเป็นการเบียดเบียนตนเองหรือไม่


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 29 ก.ค. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

การเบียดเบียนตนเอง มี 2 อย่าง คือ

- เบียดเบียนทางกาย (ทรมานตนเอง เช่น ทำทุกกรกิริยา)

- เบียดเบียนทางใจ (เกิดอกุศล)

การที่เราเบียดเบียนตนเองนั้น มีหลายนัย หลายแบบ ขณะที่ให้ทานแล้ว เสียดายขณะนั้น เบียดเบียนตนเอง เพราะอกุศลเกิดขึ้น แต่ถ้าให้แล้วไม่เสียดาย เกิดปิติโสมนัส แม้จะให้หมดก็ไม่ชื่อว่าเบียดเบียนตน เพราะไม่เสียดายและปิติโสมนัส ดังนั้น การเบียดเบียนในที่นี้คือ เป็นอกุศล จึงชื่อว่า เบียดเบียนตนเอง (ดังเช่น พระโพธิสัตว์ ให้สิ่งต่างๆ จนหมด ชื่อว่าเบียดเบียนตนหรือไม่ เพราะท่านเกิดปิติโสมนัส เป็นกุศลจิตครับ)

การเบียดเบียนที่เป็นอกุศลจิต ก็มีหลายนัย อีกเช่นกัน

ขณะใดที่เป็นอกุศลจิตขณะนั้นชื่อว่าเบียดเบียนตนเอง แต่อกุศลจิตก็มีหลายประเภท ดังนั้น การเบียดเบียนตนเองในแต่ละอย่าง จึงมีโทษหรือผิดในทางธรรมต่างกันครับ ดังจะขอยกตัวอย่างดังต่อไปนี้ ดังเช่นเรื่องการให้ ให้แล้วเสียดาย ขณะนั้นเบียดเบียนตน เพราะเป็นอกุศล เป็นโทสะ แต่ก็เป็นเพียงอกุศลจิต ไม่มีโทษมาก เพราะไม่เป็นปัจจัยให้นำเกิดไปตกนรก เป็นต้น

แต่ การเบียดเบียนตนอันเกิดมาจากความเห็นผิด เป็นปัจจัย เช่น พวกนอกศาสนามีความเห็นผิดว่าจะต้องทรมานตนเองจึงจะหลุดพ้น เป็นอกุศลที่มีความเห็นผิด เป็นปัจจัย และก็ทรมานตนเอง ยึดมั่นในความเห็นนั้นก็ย่อมเข้าใจหนทางผิด เมื่อเห็นผิด (มิจฉาทิฏฐิ) คิดก็ผิด (มิจฉาสังกัปปะ) เมื่อคิดผิด วาจาก็ผิด (มิจฉาวาจา) ...ฯลฯ...เมื่อรู้ผิด ก็ย่อมหลุดพ้นผิด ย่อมทำให้เขาไปอบาย ตกนรกได้เพราะความเห็นผิดนั้น ครับ ดังนั้น ความเห็นผิดในหนทาง (มิจฉาทิฎฐิ) อันเป็นปัจจัยให้ เบียดเบียนทางกาย (ทรมานตน) เบียดเบียนตนเองด้วยอกุศล ย่อมมีโทษมากกว่า อกุศลจิตประเภทอื่นที่ไม่มีความเห็นผิดเป็นปัจจัย จึงขอให้สหายธรรมทุกท่าน เข้าใจหนทางการอบรมปัญญาที่ถูกว่า ให้เข้าใจสภาพธัมมะที่มีในขณะนี้ว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา ไม่มีวิธีอื่นครับ ถ้าทำวิธีอื่น ก็ชื่อว่า เบียดเบียนตน เพราะเป็นอกุศลที่มีความเห็นผิดเป็นปัจจัย

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 29 ก.ค. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ความเป็นจริงของสภาพธรรมไม่เคยเปลี่ยน เป็นจริงอย่างไร ก็เป็นจริงอย่างนั้น กุศลเป็นกุศล อกุศลเป็นอกุศล และที่สำคัญ กุศลจะไม่เกิดพร้อมกันกับอกุศล อกุศลจะไม่เกิดพร้อมกันกับกุศล นี้คือความเป็นจริง แต่หลังจากนั้นแล้ว กุศลอาจจะเกิดก็ได้ อกุศลอาจจะเกิดก็ได้ เป็นไปตามเหตุปัจจัยจริงๆ

การให้ทาน เป็นการสละสิ่งของเพื่อประโยชน์สุขแก่ผู้อื่นตามความเป็นจริง ก็ควรที่จะได้เกิดความดีใจ ปีติโสมนัสจริงๆ ที่ได้ช่วยเหลือผู้อื่นเท่าที่จะเป็นไปได้จากวัตถุสิ่งของที่ตนเองมี (ทาน ให้ได้เมื่อมีวัตถุสิ่งของ) แต่ธรรมก็เกิดขึ้นเป็นไป ตามเหตุปัจจัย ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น กุศลไม่ได้เกิดตามใจชอบ แต่เกิดขึ้นเป็นไป ตามเหตุปัจจัยจริงๆ สำหรับผู้ที่มีความละเอียด ท่านย่อมพิจารณา เห็นว่า ความเหมาะควรในขณะนั้น จะเป็นอย่างไร เห็นคนอื่นหิว อาจจะซื้อของให้ก็ได้ หรือ แบ่งของที่ตนเองมีให้ก็ได้ ซึ่งไม่มีกฏตายตัวว่าจะต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ขณะที่กุศลจิตเกิดขึ้น ก็จะทำให้มีความประพฤติเป็นไปในทางที่ถูกที่ควรยิ่งขึ้น เป็นการกระทำในสิ่งที่ควรทำ

สภาพธรรมที่เบียดเบียน ย่อมไม่พ้นไปจากอกุศลธรรมที่เกิดขึ้น ที่เห็นได้ชัดๆ คือขณะที่ว่าร้าย ประทุษร้าย ผู้อื่น ขณะนั้น เบียดเบียนทั้งตนเองและผู้อื่นด้วย ด้วยการกระทำที่เป็นอกุศล แต่ถึงแม้ว่าไม่ได้ล่วงเป็นทุจริตกรรม ขึ้นชื่อว่าอกุศลแล้ว ไม่มีอะไรดีเลยแม้แต่น้อย มีแต่โทษ ขณะที่อกุศลเกิดนั้น กุศลเกิดไม่ได้เลยเมื่อสะสมมากขึ้นๆ ก็เป็นเหตุให้ล่วงเป็นทุจริตกรรมประการต่างๆ ได้

สำหรับในความความเห็นผิด ประการต่างๆ โดยเฉพาะการทรมานตนให้ได้รับความเดือดร้อนนั้น เป็นการประพฤติปฏิบัติที่ผิด นอกจากตนเองจะเดือดร้อนจากการทรมานตนเอง ด้วยข้อวัตรปฏิบัติที่ผิดต่างๆ แล้ว ก็เป็นเหตุให้สะสมสภาพธรรม ที่เบียดเบียน คือ ความเห็นผิดต่อไปอีก พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดงว่า การประพฤติผิด ไม่มีสาระเลยแม้แต่น้อย และถ้ามีการชักชวนคนอื่นในการประพฤติปฏิบัติผิด ก็เป็นการชักชวนผู้อื่นให้ได้รับความเดือดร้อนไปด้วยไม่เป็นสิ่งที่ดีเลยแม้แต่น้อย ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 29 ก.ค. 2557

ถึงแม้จะมีข้าวกล่องเดียวก็ให้ได้เป็นการเสียลสะให้กับคนที่หิวข้าว ให้เขามีความสุข มีกำลัง เป็นมหากุศล และขณะที่กุศลจิตเกิดไม่ชื่อว่าเบียดเบียนตนเอง ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
j.jim
วันที่ 30 ก.ค. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
thilda
วันที่ 30 ก.ค. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
ประสาน
วันที่ 1 ส.ค. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ