Was the former budhha lords born in this same earth?

 
sirichoke
วันที่  29 ส.ค. 2551
หมายเลข  9700
อ่าน  990

Was the former budhha lords born in this same earth? How old is this earth?

I have one question about the age of this earth and the time of the former BUDDHA. I THINK this earth is around 4,000 million years old only, but thetime of last buddha is more than 4 a-songkai kab? very much difference


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
prakaimuk.k
วันที่ 1 ก.ย. 2551

มนุษย์มีขีดจำกัดเรื่องสติและปัญญา จึงรู้อายุโลกได้เท่านี้จากการทดลองและการคาดคะเน โลกอาจจะมีอายุเป็นหลายๆ อสงไขยกัปป์ แต่มนุษย์ก็ไม่สามารถรู้ได้

พระพุทธเจ้าทุกพระองค์มีพระปัญญารู้ชัดแจ้งแทงตลอด แต่ท่านไม่เห็นความสำคัญของการที่จะต้องสั่งสอนปุถุชนให้รู้อายุของโลกหรือการเกิดของโลก เพราะไม่ใช่เป็นสิ่งที่ทำให้พ้นทุกข์

หมั่นศึกษาพระธรรมไปเรื่อยๆ ค่ะ แล้วจึงจะเข้าใจว่าสิ่งใดควรศึกษา สิ่งใดไม่ใช่ประโยชน์

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
เมตตา
วันที่ 1 ก.ย. 2551

4 a songkai kab is nothing to do with the age of this world is there any use n of knowing that only be known by the subphanyuthayan of the Lord Buddha

n there is a dhamma appears which can be known but don't want to understand. The most benefit of studying the Lord buddha' s teachings is to understand the reality which appears right now. The Dhamma enlightened by the Lord Buddha is absolute real n each Dhamma arises n falls away by conditions it is beyond one's control. Therefore Dhamma is everything which is real n anatta (non self) . Then the more right understanding of Dhamma developed the lessen of self become consequently.

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
pornpaon
วันที่ 1 ก.ย. 2551

ขออนุโมทนาคุณ prakaimuk.k และคุณเมตตาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
เจริญในธรรม
วันที่ 2 ก.ย. 2551
ขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
choonj
วันที่ 2 ก.ย. 2551

Earth is arround 4,000 million years old could be wrong and could be only an estimated, However in knowing this can only help you for truly believe in his teaching but it not going to help much to know the reality of Dhamma which appearing in daily live which is much of your benefits. Sirs

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
ajarnkruo
วันที่ 2 ก.ย. 2551

พระโพธิสัตว์ ผู้ทรงบำเพ็ญพระบารมี เพื่อการบรรลุเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์ในชาติสุดท้ายจะต้องประสูติในชมพูทวีปครับ แต่ชมพูทวีปก็เป็นเพียงชื่อเรียกโลกนี้เท่านั้นเอง เมื่อหมดกัปป์หนึ่งๆ โลกก็จะถูกทำลายไปๆ แล้วก็เข้าสู่กัปป์ใหม่ ไม่มีสิ่งที่แตกดับใดกลับมาเกิดเป็นอย่างเดิมได้อีก แต่ชื่อที่ใช้เรียก "โลก"ใหม่ ในกัปป์ใหม่ เป็นชื่อต่างๆ ในยุคต่อๆ ไป ก็ยังจะมีอยู่ ส่วนภาษาที่พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ทรงใช้เพื่อบัญญัติสภาพธรรมะต้องเป็นภาษาเดียวกัน คือ ภาษามคธ (บาลี) เท่านั้นครับ การประมาณอายุของโลกเป็นเพียงการคาดคะเน เทียบเคียงจากการศึกษาในส่วนที่เป็นเพียงรูปธรรมที่หาได้ในโลกนี้ ในจักรวาลนี้ แต่พระพุทธองค์ทรงตรัสรู้ความจริงที่ลึกซึ้งยิ่งกว่านั้นด้วยพระสัพพัญญุตญาณที่ไม่มีใครยิ่งกว่า ไม่ต้องทรงเก็บก้อนหิน ดิน ทราย มาตรวจหาค่าความเก่าแก่ แล้วใช้เครื่องมือที่สร้างขึ้นมาประมาณเอา เหมือนความคิดของมนุษย์ในยุคนี้ เพราะฉะนั้น จึงเทียบกันไม่ได้เลย ระหว่างผู้ที่รู้ความจริงทั้งหมดแล้วกับผู้ที่พยายามจะค้นหาความจริงเพียงบางประการ การคิดเรื่องโลกเป็นสิ่งที่ไม่ควรคิดอย่างหนึ่ง เพราะจะไม่มีทางที่จะได้คำตอบที่สิ้นสุด มีแต่จะยิ่งทำให้สงสัยมากขึ้น ไม่เอื้อต่อการเจริญกุศลใดๆ เลย ควรศึกษาพระธรรมคำสอนในส่วนที่จะช่วยเกื้อกูลให้เกิดความเข้าใจความจริงเพื่อการดับทุกข์ ที่พระพุทธองค์ทรงตรัสรู้ดีกว่าครับ

(ขออนุญาตตอบโดยใช้ภาษาไทย เพราะเห็นชื่อคุณ sirichoke คิดว่าท่านคงจะเป็นคนไทยและอ่านภาษาไทยเข้าใจครับ)

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
ปริศนา
วันที่ 2 ก.ย. 2551

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
suwit02
วันที่ 2 ก.ย. 2551

เนื่องจากท่านผู้ถาม ถามเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อความมั่นใจว่าผมเข้าใจคำถามถูกต้องดีแล้ว จึงขอเปลี่ยนคำถามเป็นภาษาไทย ดังนี้

โลกนี้มีอายุถึงปัจจุบันประมาณ ๔,๐๐๐ ล้านปีเท่านั้น แต่ระยะเวลาระหว่างพระสัมพุทธเจ้าพระองค์ก่อนกับพระศาสดาของเรา มากกว่า ๔ อสงไขยกัปป์ (กัปป์หนึ่ง เป็นประมาณอายุของโลก)

ดังนั้น ผู้ถามจึงเห็นว่า พระสัมพุทธเจ้าพระองค์ก่อน น่าจะทรงอุบัติในโลกอื่น (เพราะในขณะนี้ โลกยังมีอายุไม่ถึงหนึ่งกัปป์เลย)

ผมขอตอบ ตามที่ได้ศึกษาจากพระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย พุทธวงศ์ เล่ม ๙ ภาค ๒ - หน้าที่ ๑๕๘ ดังต่อไป นี้ครับ

ในอดีตเมื่อกว่า ๔ อสงไขยกัปป์ มาแล้ว พระโพธิสัตว์ (พระศาสดาของเรา) ได้รับพุทธพยากรณ์ จากพระทีปังกรสัมพุทธเจ้าว่า จะได้เป็นพระสัมพุทธเจ้าในอนาคต

ในระหว่างที่ พระโพธิสัตว์ได้รับพุทธพยากรณ์ (ครั้งแรก) จนกระทั่งบำเพ็ญพระบารมีเต็มบริบูรณ์ ได้มีพระสัมพุทธเจ้าทรงเสด็จอุบัติ ๒๔ พระองค์คือ

พระทีปังกรสัมพุทธเจ้า พระโกณฑัญญะสัมพุทธเจ้า

พระมังคละสัมพุทธเจ้า พระสุมนะสัมพุทธเจ้า

พระเรวตะสัมพุทธเจ้า พระโสภิตะสัมพุทธเจ้า

พระอโนมทัสสีสัมพุทธเจ้า พระปทุมะสัมพุทธเจ้า

พระนารทะสัมพุทธเจ้า พระปทุมุตระสัมพุทธเจ้า

พระสุเมธะสัมพุทธเจ้า พระสุชาตะสัมพุทธเจ้า

พระปิยทัสสีสัมพุทธเจ้า พระอัตถทัสสีสัมพุทธเจ้า

พระธรรมทัสสีสัมพุทธเจ้า พระสิทธัตถะสัมพุทธเจ้า

พระติสสะสัมพุทธเจ้า พระปุสสะสัมพุทธเจ้า

พระวิปัสสีสัมพุทธเจ้า พระสิขีสัมพุทธเจ้า

พระเวสสภูสัมพุทธเจ้า พระกุกกุสันธะสัมพุทธเจ้า

พระโกนาคมนะสัมพุทธเจ้า พระกัสสปะสัมพุทธเจ้า

ระยะเวลาระหว่าง พระทีปังกรสัมพุทธเจ้าถึงพระศาสดาของเรา มากกว่า ๔ อสงไขยกัปป์ แต่ระยะเวลาระหว่าง พระกัสสปสัมพุทธเจ้าถึงพระศาสดาของเราไม่ถึงหนึ่งกัปป์ ครับ

สำหรับรายละเอียดขอเชิญ ศึกษาได้จาก ขุททกนิกาย พุทธวงศ์ (กัณฑ์ปกิณกะ หน้า ๗๖๓) ครับ ในที่นี้ผมขออัญเชิญมาบางส่วนดังนี้

ต่อแต่กัปนี้ ในกัปที่ ๙๑ มีพระพุทธเจ้าผู้นำโลก พระนามว่า วิปัสสีพระพุทธเจ้าแม้พระองค์นั้น ทรงประกอบด้วยพระมหากรุณา ทรงปลดเปลื้องสัตว์ทั้งหลายจากเครื่องผูกพันแล้ว.

ต่อจากกัปนี้ในกัปที่ ๓๑ มีพระผู้นำ ๒ พระองค์ คือพระสิขี และพระเวสสภูผู้ไม่มีผู้เสมอ ไม่มีบุคคลเปรียบ.

ในภัทรกัปนี้ มีพระผู้นำ ๓ พระองค์คือ พระผู้นำคือพระกกุสันธะ พระโกนาคมนะและพระกัสสปะ เราผู้เป็นพระสัมพุทธเจ้าในปัจจุบัน และพระเมตไตรยพระพุทธเจ้าในอนาคต พระพุทธเจ้า ๕ พระองค์นี้เป็นปราชญ์ผู้อนุเคราะห์โลก.

ส่วนข้อสงสัยว่า พระกัสสปสัมพุทธเจ้า ทรงเสด็จอุบัติในโลกแห่งเดียวกันนี้หรือไม่นั้น ขอเชิญอ่านพระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ เล่ม ๒ ภาค ๒ หน้าที่ ๑ ฆฏิการสูตร ดังนี้ ครับ

๑. ฆฏิการสูตร (บางส่วน)

[๔๐๓] ข้าพเจ้าได้สดับมาอย่างนี้:-

สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเสด็จจาริกไปในโกศลชนบท พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่. ครั้งนั้นแล พระผู้มีพระภาคเสด็จแวะออกจากทาง แล้วได้ทรงแย้มพระสรวลในประเทศแห่งหนึ่ง. ครั้งนั้น ท่านพระอานนท์ได้มีความคิดว่า เหตุอะไรหนอ ปัจจัยอะไร ที่พระผู้มีพระภาคทรงแย้มพระสรวล พระตถาคตทั้งหลายจะทรงแย้มพระสรวลโดยหาเหตุมิได้นั้นไม่มี ดังนี้. ท่านพระอานนท์จึงทำผ้าอุตราสงค์เฉวียงบ่าข้างหนึ่ง ประนมอัญชลีไปทางพระผู้มีพระภาคแล้ว ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เหตุอะไรหนอ ปัจจัยอะไร ที่พระผู้มีพระภาคทรงแย้มพระสรวล พระตถาคตทั้งหลายจะทรงแย้มพระสรวลโดยหาเหตุมิได้นั้นไม่มี?

[๔๐๔] พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรอานนท์ เรื่องเคยมีมาแล้ว ที่ประเทศนี้ได้มีนิคม ชื่อเวภฬิคะ เป็นนิคมมั่งคั่งและเจริญ มีคนมาก มีมนุษย์หนาแน่น. พระผู้มีพระภาคทรงพระนามว่ากัสสปผู้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงอาศัยเวภฬิคนิคมอยู่. ดูกรอานนท์ ได้ยินว่า ที่นี่เป็นพระอารามของพระผู้มีพระภาคทรงพระนามว่ากัสสปผู้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า.ได้ยินว่า พระผู้มีพระภาคทรงพระนามว่ากัสสปผู้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ประทับนั่งตรัสสอนภิกษุสงฆ์ที่นี่.

เรื่องช่างหม้อชื่อฆฏิการะ

[๔๐๕] ครั้งนั้น ท่านพระอานนท์ได้ปูผ้าสังฆาฏิสี่ชั้นถวาย แล้วกราบทูลพระผู้มีพระภาค ว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ถ้าอย่างนั้นขอพระผู้มีพระภาคประทับนั่งเถิด เมื่อเป็นเช่น

นี้ ภูมิประเทศนี้จักได้เป็นส่วนที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าสองพระองค์ทรงบริโภค.


กิจฺโฉ มนุสฺสปฏิลาโภ กิจฺฉํ มจฺจาน ชีวิตํ กิจฺฉํ สทฺธมฺมสฺสวนํ กิจฺโฉ พุทฺธานมุปฺปาโท. "การได้ความเป็นมนุษย์ เป็นของยาก ชีวิตของสัตว์ทั้งหลาย เป็นอยู่ยาก การได้ฟังพระสัทธรรม เป็นของยาก การอุบัติขึ้นแห่งพระพุทธเจ้าทั้งหลาย เป็นของยาก"

แปลโดย คุณ คำปั่น

ขออนุโมทนา พี่ประกายมุก และ พี่เมตตาครับ

prakaimuk.k ความคิดเห็นที่ ๑

หมั่นศึกษาพระธรรมไปเรื่อยๆ ค่ะ แล้วจึงจะเข้าใจว่าสิ่งใดควรศึกษา สิ่งใดไม่ใช่ประโยชน์....

เมตตา ความคิดเห็นที่ 2

There is a dhamma appears which can be known but don't want to understand.The most benefit of studying the Lord budha' teachings is to understand the reality which appears right now.

ปล.ครั้งแรกผมเห็นว่า มีผู้ตอบเพียง 2 ท่าน ภายหลังจึงเห็นว่ามีผู้ตอบอีกหลายท่าน

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
ปริศนา
วันที่ 2 ก.ย. 2551

ขออนุโมทนาอีกครั้งค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
sirichoke
วันที่ 3 ก.ย. 2551
thank so much for all comments and clear answer
 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ