มีใครเป็นแบบผมบ้างครับ?

 
เจริญในธรรม
วันที่  7 ส.ค. 2551
หมายเลข  9490
อ่าน  1,339

1. ผมสวดมนต์อะระหันต์สัมมาสัมพุทโธทุกคืน แต่ทุกครั้งที่สวดก่อนนอนทุกครั้งจะขนลุกตลอด

2. การที่ขนลุกเกิดจากอะไรครับ?


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 7 ส.ค. 2551

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

การศึกษาธรรมเป็นเรื่องการอบรมเจริญปัญญา ดังนั้นไม่ว่าสิ่งใดที่เกิดขึ้นก็ตาม จึงควรเข้าใจว่าขณะนั้นปัญญารู้อะไร ขนลุกเกิดได้ทั้งจิตที่เป็นกุศลและอกุศล แต่ขณะนั้นปัญญาเข้าใจความจริงของสิ่งที่เกิดขึ้นหรือไม่ ว่าคืออะไร เป็นธรรมหรือยึดถือว่าเป็นเราที่ขนลุกหรือเป็นเราด้วยอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้น ไม่ได้ห้ามว่าไม่ให้ขนลุกหรือสงสัยในสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ให้เข้าใจความจริงในสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว หากไม่มีสภาพธรรมที่เป็น จิตและเจตสิกแล้ว ขนลุกหรืออาการต่างๆ ก็มีไม่ได้เลย และแม้ความยินดีพอใจที่ขนลุกก็เป็นสภาพธรรมที่มีจริง การอบรมปัญญาจึงเพื่อเข้าใจความจริงในสิ่งที่เกิดขึ้นว่าไม่พ้นไปจากสภาพธรรมและเป็นธรรมไม่ใช่เรา โดยเริ่มจากการฟังให้เข้าใจว่าทุกอย่างเป็นธรรมและธรรมคือสิ่งที่มีจริงในขณะนี้

ขออนุโมทนาครับ อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
ปริศนา
วันที่ 8 ส.ค. 2551


ใครก็ตอบแทนกันไม่ได้เพราะเป็นเรื่องที่รู้ได้เฉพาะตนกุศลและอกุศลเกิดดับสลับกันได้หากสติเกิด

ย่อมรู้ได้เฉพาะตนว่าขณะไหนกุศลขณะไหนอกุศลหากรู้ "ลักษณะ"ของสภาพธรรมที่เป็นกุศลของสภาพธรรมที่เป็นอกุศล
ด้วยความเห็นถูกและความเป็นผู้ตรงต่อตนเองจะรู้จักลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังเกิดในขณะนั้นๆ ตามความเป็นจริงค่ะ.

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
MUTITA
วันที่ 8 ส.ค. 2551
สาธุ
 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
nida
วันที่ 9 ส.ค. 2551
ขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
PUM
วันที่ 9 ส.ค. 2551

ขณะนั้นจิตสงบเป็นสมาธิ หรือมีศรัทธามากๆ ใช่ไหมครับ น่าจะเป็นปีติ - ความอิ่มใจ

//th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9B%E0%B8%B5%E0%B8%95%E0%B8%B4

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
wannee.s
วันที่ 9 ส.ค. 2551

ถ้าสวดมนต์ด้วยความเคารพนอบน้อม ระลึถถึงคุณของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

จิตขณะนั้นซาบซึ้งในพระรัตนตรัยเป็นกุศลจิต ก็จะเกิดปิติขนลุกได้ เช่น ในสมัยครั้ง

พุทธกาล พระเจ้ามหากัปปินะ ได้ยินว่าพระพุทธเจ้าอุบัติ ก็เกิดปิติขนลุก แล้วท่านก็

ละทิ้งสมบัติออกบวช ภายหลังก็ได้ฟังธรรมจากพระพุทธเจ้าก็บรรลุเป็นพระอรหันต์ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
ajarnkruo
วันที่ 9 ส.ค. 2551

๑. สภาพของจิต เป็นสภาพที่รู้ได้ยาก ไม่มีใครสามารถตอบแทนกันได้ มากที่สุดก็ทำได้เพียงการอนุมานว่าน่าจะเป็นอย่างนั้น อย่างนี้ แต่ถ้าเป็นปัญญา ย่อมตอบคำถามที่สงสัยได้ตามลำดับขั้นของความเข้าใจความจริง ทั้งที่ดับไปและที่กำลังปรากฏในขณะนี้ แต่สิ่งที่เป็นประโยชน์ยิ่งกว่า คือการใส่ใจศึกษาในสิ่งที่กำลังมีในขณะนี้

๒. รูปเป็นไปตามสมุฏฐาน (ที่เกิด) ของรูป บางรูปเกิดจากจิต บางรูปเกิดจากอุตุ ฯลฯ ถ้าไม่มีจิต จะไม่มีการรู้ว่า อาการที่ขนลุกเป็นอย่างไร สิ่งที่ควรศึกษา คือ รูปและนามใน ขณะนี้ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
Komsan
วันที่ 9 ส.ค. 2551
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
suwit02
วันที่ 9 ส.ค. 2551

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
เทวราช
วันที่ 24 ส.ค. 2551

ขนลุกขณะสวดมนต์ ถ้าพูดกับมนุษย์ก็จะบอกว่าเกิดจากจิตที่เป็นกุศลมากกว่าอกุศล แต่ถ้าดูแบบผู้มีปัญญาก็จะบอกว่าเกิดได้ทั้งกุศลและอกุศล ถ้าเป็นมนุษย์ก็จะบอกว่าเกิดปิติขึ้นในใจส่วนผู้มีปัญญาก็จะบอกว่าเป็นธรรมดากับสิ่งที่เกิด เพียงเราต้องการไปไปกับมันหรือเท่าทันมัน เพราะอย่างไรเมื่อขนลุกเสร็จเรียบร้อยแล้ว มันก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ไปได้ทั้งกุศลและอกุศลแล้วแต่คุณจะเลือก ส่วนมากมนุษย์จะเลือกทำตามใจตัวเองก่อน ส่วนผู้มีปัญญาก็จะเลือกตามใจคนอื่นก่อน นี่คือสัจธรรมดังนั้นอยากเลือกอย่างไหนก็คิด ดูนะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
paderm
วันที่ 24 ส.ค. 2551

จึงเป็นเรื่องของปัญญา ปัญญารู้จริงในขณะนั้นจึงจะรู้ว่าขณะใดเป็นกุศลหรืออกุศลครับ

พระธรรมไ่ม่ใช่ให้เลือกเพราะความพอใจแต่ละคนแต่เพราะเป็นสัจธรรมรู้ได้ด้วยปัญญา

กุศลเป็นกุศล อกุศลเป็นอกุศล ปัญญาเท่านั้นที่รู้ตามความเป็นจริง

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
เทวราช
วันที่ 26 ส.ค. 2551
โมทนาคับ
 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ