ไม่มีอะไรเลยนอกจากนามธรรมกับรูปธรรม

 
ธรรมทัศนะ
วันที่  7 ส.ค. 2551
หมายเลข  9486
อ่าน  1,529
ธรรมทั้งหลายทั้งปวง เป็นอนัตตา ไม่ใช่ตัวตน สัตว์ บุคคล ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใคร ชีวิตที่ดำเนินไปในแต่ละวัน (ในแต่ละภพในแต่ละชาติ) ตั้งแต่ตื่นนอนจนกระทั่งหลับไป ตั้งแต่เกิดจนกระทั่งถึงขณะที่จุติเกิดขึ้นทำกิจเคลื่อนจากความเป็นบุคคลนี้ นั้น ไม่มีอะไรเลยนอกจากนามธรรมกับรูปธรรม เท่านั้น ถ้ายังไม่ได้ศึกษาก็ยังไม่รู้ไม่เข้าใจ แต่เมื่อได้ศึกษาแล้ว ก็จะมีความเข้าใจว่า มีธรรมอยู่ตลอดเวลา ทั้งทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ ไม่พ้นหกทางนี้เลย จึงต้องอดทนที่จะฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมต่อไปอย่างไม่ท้อถอย เพื่อความเข้าใจถูก เห็นถูกในลักษณะสภาพธรรมตามความเป็นจริง ว่า เป็นเพียงสิ่งหนึ่งที่มีจริงและกำลังปรากฏ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

  ความคิดเห็นที่ 1  
 
pornpaon
วันที่ 7 ส.ค. 2551

การจะเข้าใจได้ว่า ชีวิตในวันหนึ่งๆ

ไม่มีอะไรเลยนอกจากนามธรรมกับรูปธรรม เท่านั้น

ไม่ใช่ง่ายๆ หรือใช้เวลาเพียงสั้นๆ เลย

คงต้องอดทนในการศึกษาและฟังธรรมกันต่อไปอีกนาน ไม่ท้อถอย

เพื่อความเห็นถูกความเข้าใจถูกจนเป็นปัญญาที่เข้าใจจริงๆ ว่า

เป็นเพียงสิ่งหนึ่งที่มีจริงและกำลังปรากฏ

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
aiatien
วันที่ 7 ส.ค. 2551

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
Noparat
วันที่ 7 ส.ค. 2551

ยาก...แต่จะพยายามค่ะ

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
suwit02
วันที่ 7 ส.ค. 2551

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
choonj
วันที่ 7 ส.ค. 2551

ก่อนที่ยังไม่เคยศึกษาธรรม ยังไม่เคยฟังธรรม ได้ยินว่าธรรมะมีรูปและนามและถ้ารู้รูปนามได้ก็จะเก่ง จนถึงพยายามให้มีการสอบอารมณ์ของรูปนาม แต่พอมาศึกษาก็รู้ว่ารูปมี ๒๘ นามมีจิต ๘๙ หรือ ๑๒๑ เจตสิก ๕๒ และ นิพพาน ก็พอที่จะเข้าใจรูปนามได้โดยการศีกษา และรู้ว่าที่แล้วมานั้นหลงทางที่มีเราจะปฏิบัติให้เห็นรูปนาม การที่จะประจักษ์แจ้งรูปนามนั้นยังอีกไกล เพราะต้องเป็นวิปัสนาญาณที่ ๑ คือนามรูปปริจเฉทญาณ จึงต้องฟังธรรม ศีกษาธรรม อย่างไม่ท้อถอย แต่ต้องอดทน เพราะหนทางไกล
 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
Komsan
วันที่ 7 ส.ค. 2551
ขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
เมตตา
วันที่ 7 ส.ค. 2551

ขออนุโมทนาทุกท่านและคุณ choonj ด้วยค่ะ การที่จะประจักษ์แจ้งรูปนามนั้นยังอีก

ไกลจริงๆ อย่างคุณ choonj พูดค่ะ ต้องอดทนที่จะฟังพระธรรมและพิจารณาไตร่ตรอง

ให้รอบคอบ เพราะกิเลสพวกเราที่ได้สะสมมามากมายในอดีตนับภพชาติไม่ได้ จึงเป็น

เหตุปัจจัยให้ในชีวิตปัจจุบันอกุศลจิตเกิดมากกว่ากุศลจิตค่ะ แม้หนทางที่จะประจักษ์

แจ้งรูปนามชึ่งเป็นวิปัสสนาญาณที่๑ ซึ่งก็คือ นามรูปปริจเฉทญาณก็ยังอีกยาวไกล

ถ้าเริ่มต้นจากหนทางที่ถูกแล้วแม้หนทางอีกยาวไกลแค่ไหนก็มีโอกาสถึงได้ ซึ่งก็มี

หนทางเดียวก็คือการฟังพระธรรมและพิจารณาไตร่ตรองให้เกิดความเห็นถูกเข้าใจถูก

ในลักษณะสภาพธรรมตามความเป็นจริงในขณะนี็ทางตา ทางหู ทางจมูก

ทางลิ้น ทางกายและทางใจ ว่าอะไรเป็นสภาพธรรมที่เป็นจริง ต้องอบรมเจริญ

ปัญญารู้ลักษณะสภาพธรรมขณะนี้ว่าเป็นเพียงสภาพธรรมไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน

เป็นเพียงนามธรรมและรูปธรรมที่เกิดดับสืบต่อไม่ขาดสายอยู่ตลอดเวลา ซึ่งต้อง

อดทนน่ะค่ะที่จะฟังพระธรรมให้เข้าใจค่อยๆ อบรมเจริญปัญญา จิรกาลภาวนาค่ะ

ขอเป็นกำลังใจคุณ choonj ด้วยค่ะ อย่างไม่ท้อถอย แต่ต้องอดทน เพราะหนทางไกล

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
prakaimuk.k
วันที่ 11 ส.ค. 2551
ขออนุโมทนาค่ะ.....
 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
คุณ
วันที่ 29 ส.ค. 2551
ขออนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
orawan.c
วันที่ 12 ก.ย. 2551

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
pamali
วันที่ 10 ส.ค. 2553

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
ธนฤทธิ์
วันที่ 13 เม.ย. 2554
ขอขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
chatchai.k
วันที่ 28 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ