ทำบุญอย่างไรดี

 
mac
วันที่  11 ก.ค. 2551
หมายเลข  9214
อ่าน  1,188

ผมขออนุญาตสอบถามการทำบุญเพื่อลดกรรมในบางอย่างของชีวิตผมได้ไหมครับ หากมีท่านผู้รู้ท่านใดช่วยแนะนำก็คงจะดีครับ ตอนนี้มีสตรีคนหนึ่งมาติดพันผม ผมไม่อยากยุ่งกับเค้า แต่เค้าก็ยังตามมายุ่งกับผม ผมอยากทำบุญเพื่อให้ชีวิตเค้าดีขึ้นไปจากผมเสียที มีวิธีไหมครับ ถ้าคำถามผมไร้สาระผมก็ต้องขออภัยที่มารบกวนนะครับ ขอบคุณครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
study
วันที่ 18 ก.ค. 2551

การทำบุญช่วยเหลือเขามีวิธีทำหลายๆ อย่าง เช่น ให้เงินช่วยเหลือเพื่อเขานำไปตั้งตัวโดยเราควรบอกเขาไปตรงๆ ว่าขอแยกทางกันเดิน และแนะนำสิ่งที่ดีๆ ในการดำเนินชีวิตให้แก่เขาไป แต่ถ้าเราไปทำบุญที่วัดเพื่อให้ชีวิตเขาดีขึ้น อย่างนี้ไม่มีทางเป็นไปได้ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
คนเจ้าโทสะ
วันที่ 19 ก.ค. 2551

ชีวิตปกติของทุกคนก็ไร้สาระอยู่แล้ว ปัญหาของคุณ น่าเห็นใจ และน่ากลัว ที่น่าเห็นใจ คือประสบกับสิ่งที่ไม่เป็นที่รัก ที่น่ากลัวคือ ระวังใจตนเองนานเข้าจะหลงพัวพันจนกลายเป็นผูกพัน ดูแลจิตของตนเองเอาไว้ให้ดี หมั่นฟังพระธรรม ตั้งใจฟังให้เข้าใจ ฟังบ่อยๆ ไม่ได้เป็นผู้รู้ธรรม แต่เป็นผู้มีประสบการณ์มาก

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
oom
วันที่ 22 ก.ค. 2551

คงต้องช่วยตัวเองก่อน คือคุณต้องมั่นคง หนักแน่น ถ้าคุณไม่ได้คิดอะไรกับเขาจริงๆ คือเราบริสุทธิ์ใจ สักวันหนึ่งเขาคงจะไปจากเราเอง แต่ถ้าคุณมีทีท่าทำให้เขาคิดว่าคุณก็มีใจให้ มันก็คงเป็นเรื่องยากที่เขาจะไปจากคุณ เพราะยังมีความหวังอยู่ เหมือนเราตบมือข้างเดียว ย่อมไม่ดัง

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 24 ก.ค. 2551

กรรมของใครก็ของคนนั้นครับ เราไม่สามารถจะทำบุญเพื่อให้อีกคนได้รับผลของบุญได้ ต้องเป็นกุศลของเขาเอง เขาจะได้รับบุญนั้น ที่สำคัญการทำบุญไม่ใช่เพื่อตนเอง ต้องเป็นเรื่องละ ส่วนการที่เขาจะมายุ่งและไม่มายุ่งก็เป็นไปตามเหตุปัจจัย ก็อนุเคราะห์ได้ด้วยจิตเมตตา แต่ไม่คลุกคลีครับ น่าจะเป็นประโยชน์

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
ajarnkruo
วันที่ 24 ก.ค. 2551

บุญเป็นกุศลกรรม ทำเมื่อไรก็คือได้สร้างเหตุดีไว้เมื่อนั้น เช่นเดียวกับ บาปเป็นอกุศลกรรม ถ้ากระทำบาปนั้นสำเร็จเป็นกรรมบถเมื่อไร ก็คือได้สร้างเหตุที่ไม่ดีไว้เมื่อนั้น บุญกับบาปเป็นคนละส่วนกัน แต่หากทำไปแล้วย่อมตามให้ผลตามควรแก่เหตุ ผลที่ให้ก็เป็นคนละขณะกัน กุศลให้ผลเป็นกุศลวิบาก อกุศลให้ผลเป็นอกุศลวิบาก จะไปลดกรรม ไปแก้กรรมของเราเองหรือของอีกฝ่ายไม่ได้ครับ เพราะทุกคนมีกรรมเป็นของๆ ตน และก็เป็นไปตามเหตุปัจจัยที่ได้กระทำมา ถ้าหากเราปรารถนาจะได้รับเหตุที่ดีก็ควรที่จะกระทำความดีครับ แต่ถ้าจะให้ดีที่สุด คือทำดีโดยไม่ต้องปรารถนาอะไร ทำดีเพื่อขัดเกลาความไม่ดีของเราเองครับ

ส่วนเรื่องของผู้ที่เข้ามาติดพัน ถ้าเข้าใจว่าความยุ่งยากใจทั้งหมดเกิดจากตัณหาของเราเองที่อยากจะประสพแต่สิ่งที่ดี ไม่ใช่เพราะตัณหาของเขาเลย เพราะเป็นคนละโลกกัน ซึ่งถ้าหากเรายังมีความติดข้องในสิ่งที่น่าพอใจอยู่ ก็เป็นธรรมดาที่จะต้องเกิดโทสะความอึดอัด ไม่สบายใจ เวลาที่ประสพกับสิ่งที่ไม่น่าพอใจ เพราะเคยปรารถนาสิ่งใดสิ่งนั้นไม่ได้ตามที่ปรารถนา เคยไม่ปรารถนาสิ่งใด เมื่อถึงเวลาก็หลีกไม่พ้นที่จะต้องพบเจอกับสิ่งนั้น สิ่งที่ปรารถนา ไม่ปรารถนาที่จะได้รับ เป็นไปตามกรรมที่ได้กระทำมาครับ ส่วนที่ก็เหลือเป็นไปตามกุศลจิต อกุศลจิต และจิตอื่นๆ ไม่มีใครบังคับบัญชาอะไรได้เลย

ลองอ่านพระสูตรนี้ดูนะครับชฏาสูตร ... ว่าด้วยตัณหาพายุ่ง

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
พุทธรักษา
วันที่ 25 ก.ค. 2551

เอาชนะความไม่ดีด้วยความดีเอาใจเขามาใส่ใจเราที่สำคัญ มั่นคงในเรื่องกรรม

ทำกรรมไม่ดี หนีไม่พ้นอกุศลวิบากไม่ชอบอกุศลวิบาก ก็ไม่ควรทำอกุศลกรรม.....................................สิ่งใดเกิดขึ้น ย่อมมีความดับไปเป็นธรรมดาหลีกเลี่ยงการก่ออกุศลกรรมได้ถ้ามีปัญญา.
...........................จาก...คนประมาท.

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ