การรักษาศีล

 
oom
วันที่  18 มิ.ย. 2551
หมายเลข  8934
อ่าน  1,171

ที่ทำงานมีการจัดอบรมจริยธรรมให้แก่เจ้าหน้าที่ ช่วงเวลา 16.00 - 18.00 น. ก็จะมีการเบิกค่าอาหารว่าง แต่ตามระเบียบต้อง 3 ชม. ขึ้นไปจึงจะเบิกได้ ทางฝ่ายอบรมขอให้ทำหลักฐานเพิ่มโดยที่ไม่ตรงตามจริง เพื่อช่วยให้เบิกได้ ดิฉันจึงไม่ยอมทำ เพราะถือว่าผิดศีล แบบนี้ถือว่าเราเห็นแก่ตัวหรือไม่ ที่ไม่ทำตามคำแนะนำของฝ่ายฝึกอบรม ที่ต้องการช่วยให้เราเบิกได้


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
study
วันที่ 18 มิ.ย. 2551

ขอแสดงความเห็นตามพระธรรมวินัยนะครับ สำหรับพระภิกษุ ถ้ามีผู้มาขอให้ท่านทำบางสิ่งที่ไม่ถูกต้องขัดกับศีลธรรม การปฏิเสธของท่านนั้นไม่เป็นอาบัติ ไม่ใช่การเห็นแก่ตัว แต่เป็นการรักษาพระธรรมวินัย แต่ถ้าท่านทำตามหรือคล้อยตามคำร้องขอชื่อว่าขัดกับพระธรรมวินัย ทำลายคำสอน จิตเป็นอกุศล ดังนั้นในเพศคฤหัสถ์ก็เช่นกันถ้าสิ่งใดที่ขัดกับศีลธรรมเราไม่ควรสนับสนุนครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
เมตตา
วันที่ 18 มิ.ย. 2551

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 18 มิ.ย. 2551

เราทำสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ล่วงศีล แต่ไม่ถูกใจคนอื่นก็ไม่เป็นไร ไม่ใช่การเห็นแก่ตัว แต่เราเห็นคุณประโยชน์ของศีลมากกว่า เพราะให้ความสุขทั้งโลกนี้และโลกหน้า ส่วนเงินให้ประโยชน์คือ ความสุขแค่ชาติเดียว แต่ถ้าทุจริตก็ไม่คุ้มกับการไปอบายภูมิค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
เซจาน้อย
วันที่ 18 มิ.ย. 2551
ขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
all-for-ละ
วันที่ 18 มิ.ย. 2551

ขณะที่เป็นอกุศล ขณะที่ทำในสิ่งที่ไม่ถูกเป็นการเห็นแก่ตัว เห็นแก่ตัวกิเลสทีเกิดขึ้นกับจิตใจ การทำสิ่งที่ถูก เป็นการเห็นแก่ผู้อื่น เพื่อไม่ให้ผู้อื่นทำอกุศล อันนำมาซึ่งความเดือดร้อนของเขา ไม่เป็นการเห็นแก่ตัวเพราะคนที่เห็นแก่ตัว ก็ทำทุกอย่างไม่ว่าผิดหรือถูกเพื่อให้เป็นที่รัก ศึกษาพระธรรมเพื่อเห็นตัวกิเลสว่าเป็นธรรมและเมื่อปัญญาเจริญก็เป็นผู้เห็นแก่ตัวน้อยลง แต่เห็นตัวกิเลสมากขึ้นตามความเป็นจริง

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
prakaimuk.k
วันที่ 19 มิ.ย. 2551

ขออนุโมทนาคุณ oom ค่ะ ที่เห็นประโยชน์ของการรักษาศีลและปฏิบัติตามความถูกต้อง ไม่ใช่ความเห็นแก่ตัว แต่เป็นการเห็นถูกค่ะ ควรค่อยๆ อธิบายให้ผู้ร่วมงานเข้าใจถึงเหตุผลที่เราไม่สามารถสร้างหลักฐานในสิ่งที่ไม่เป็นจริง เพียงเพื่อจำนวนเงินที่เล็กน้อย แต่ผลที่ตามมาอาจจะให้ความเสียหายใหญ่กว่าได้ ทั้งทางด้านการงานและด้านศีลธรรม ถ้าเขารับได้ก็เป็นผลดีกับเขา ถ้ารับไม่ได้ก็แล้วแต่เหตุปัจจัยค่ะ เรามั่นคงกัความตรงความถูกต้องเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
จ่าหนาน
วันที่ 19 มิ.ย. 2551

ในลักษณะของคุณออม เจ้าหน้าที่งบประมาณของส่วนงานต่างๆ บ่อยครั้งก็ต้องทำตามที่นายสั่ง ถ้าขัดใจก็คงอยู่ด้วยกันไม่ได้ หรือไม่ก็ต้องเปลี่ยนงานใหม่ เขาคงบาปมากมาย (ผมตั้งใจไว้แล้วว่าจะไม่ทำตำแหน่งนี้เด็ดขาด ก็คิดถูกไป ดีใจจัง)

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
suwit02
วันที่ 19 มิ.ย. 2551
สาธุ
 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
JANYAPINPARD
วันที่ 19 มิ.ย. 2551

เห็นด้วยกับการกระทำของคุณ oom ค่ะ ในราชการเรื่องดังกล่าวถือเป็นปกติทั้งที่ความจริงการทำหลักฐานเท็จผิดระเบียบทางราชการหากมีผู้ร้องเรียนก็ต้องเดือดร้อนถูกสอบถูกลงโทษได้ เรื่องเล็กๆ กลายเป็นเรื่องใหญ่มามากแล้ว ไม่ควรประมาทและที่สำคัญเป็นการสนับสนุนการทำทุจริต ไม่ควรประมาทแม้อกุศลเล็กๆ น้อยๆ คะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
oom
วันที่ 19 มิ.ย. 2551

ขอบพระคุณมากค่ะ ที่ให้คำแนะนำและข้อคิดต่างๆ แต่บางครั้งก็รู้สึกลำบากใจเหมือนกันเพราะคนอื่นเขาทำกัน จนมองเป็นเรื่องปกติ แต่เราไม่ทำ ทำให้เราเหมือนแกะดำ ซึ่งสังคมปัจจุบันก็เป็นแบบนี้ ทุกคนต้องปรับเปลี่ยนตัวเองเพื่อความอยู่รอด ไม่กล้าต่อสู้เพื่อความถูกต้อง

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
JANYAPINPARD
วันที่ 19 มิ.ย. 2551

เป็นความจริงคะ คนทำงานหากตรงทำแต่สิ่งที่ถูก เหมือนเป็นแกะดำศึกษาธรรมะทำให้มั่นคงมากขึ้นว่า ไม่มีใครกำหนดให้ใครเป็นอะไรๆ ได้ กรรมเท่านั้นที่กำหนดเป็นแกะดำจึงไม่ใช่เรื่องน่ากลัวหรือหวั่นไหวแกะดำที่ค่อยๆ เพิ่มทีละตัว สักวันคงมากพอที่จะเป็นปกติคะ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
prakaimuk.k
วันที่ 19 มิ.ย. 2551

เข้าใจดีค่ะ เรื่องความลำบากใจที่ว่าคนอื่นเขาก็ทำกันจนเป็นปกติ แต่เราต้องไม่ลืมว่าความเป็นปกติที่แท้จริงคืออะไร คือ ความเป็นปกติของกาย วาจา ใจที่ถูกต้อง ก็คือศีลนั่นเอง และเมื่อเราเข้าใจว่าสังคมปัจจุบันขาดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในเรื่องการรักษาศีล ย่อหย่อนเรื่องการมีวินัยและเรื่องการทำตามกฏตามระเบียบ เราก็จะนึกให้อภัย เพราะเขาไม่รู้จริงๆ และถ้าการยืนหยัดเป็นแกะดำของเราสามารถทำให้คนอื่นๆ เปลี่ยนเป็นความเห็นถูกได้แม้เพียงเล็กน้อย ก็ได้ประโยชน์ค่ะ แล้วในที่สุดเราจะเห็นว่าที่จริงแล้วปัญญาที่ถูกต้องเท่านั้น ที่จะสามารถทำให้อยู่รอดในสังคมได้อย่างสง่างามและไม่ลำบากใจ แถมยังมีความมั่นใจในความถูกต้องยิ่งๆ ขึ้นค่ะ

ขอให้กำลังใจและอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
ตุลา
วันที่ 19 มิ.ย. 2551

ชีวิตที่มีความเห็นถูก...จะคิดทำแต่สิ่งที่ดีงาม

ขอเป็นกำลังใจและอนุโมทนาด้วยค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
นิโรธะ
วันที่ 19 มิ.ย. 2551

สาธุการทุกความคิดเห็นครับ

เรียนคุณ oom คุณไม่ได้เป็นคนแรกที่มีสภาวะแกะดำ ผมก็เป็นอีกคนที่อยู่ในสภาวะเช่นนี้ ประเทศเยอรมันเข้าสู่ภาวะสงคราม เหตุคือ คนดีไม่ลุกขึ้นทำอะไรจึงเกิดสงคราม

สาธุการครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
pon
วันที่ 19 มิ.ย. 2551

เยี่ยมมากค่ะคุณ oom เคยประสบปํญหาคล้ายๆ กันนานมาแล้ว คือ หัวหน้างานบอกให้ช่วย pack ของของบริษัทเพื่อจะเอากลับบ้าน ครั้งนั้นดิฉันเดินหนีไปเฉยๆ อย่างไม่รู้จะทำอย่างไร (หัวหน้าเป็นต่างชาติค่ะ) ได้ไปปรึกษาพระอาจารย์ท่านหนึ่ง ดิฉันเรียนท่านไปว่า "โยมอยากเป็นคนดีแต่ไม่อยากเป็นคนแปลก" ท่านพระอาจารย์ตอบประมาณว่า "ก็ถ้าหลายๆ คนทำไม่ดีกันหมด คนทำดีก็ต้องแปลกน่ะสิ บอกไปเลยว่าเรามีครูอาจารย์สั่งสอนมาว่าไม่ให้ทำ" พอปรึกษาเพื่อน เพื่อนถามว่า "ทำไม อายเหรอ ที่จะบอกคนว่ารักษาศีลห้า" นั่นน่ะสิคะ ก็บอกไปเลยดีกว่า ตั้งแต่นั้นมามั่นใจไปเลยค่ะ แล้วก็ทำให้พบว่าศีลข้อมุสานี่รักษายากมากๆ

 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
khampan.a
วันที่ 19 มิ.ย. 2551

กิเลส เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ เบียดเบียนทั้งตนเองและเบียดเบียนผู้อื่นให้เดือดร้อนการได้มีโอกาสศึกษาธรรม อบรมเจริญปัญญา เห็นโทษของกิเลส ตามความเป็นจริง แล้วค่อยๆ ขัดเกลากิเลสให้เบาบางลง เป็นสิ่งที่ดีสำหรับชีวิต เพราะความสุขที่แท้จริง ไม่ใช่อยู่ที่การได้มาซึ่งทรัพย์สินเงินทอง แต่ความสุขที่แท้จริง อยู่ที่การไม่มีกิเลส ครับ

ขออนุโมทนาในความเป็นผู้ตรงของ คุณ oom และ อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่าน ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 17  
 
ไม่มีเรา
วันที่ 20 มิ.ย. 2551

ขออนุโมทนากับทุกๆ ท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 18  
 
pornpaon
วันที่ 20 มิ.ย. 2551

ผู้ที่ทำงานในหน่วยงานของรัฐ ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งใดหากทำถูกต้องและตรงตามกฎเกณฑ์ข้อบังคับก็มักได้เป็นแกะดำกันอยู่เสมอคนดีกับความดีจึงไม่ได้ขึ้นอยู่กับสีว่าดำหรือขาว ยังจำได้ในการสนทนาธรรมวันหนึ่งที่มูลนิธิฯเมื่อไม่นานมานี้ ท่านอาจารย์ตอบคำถามผู้ฟังท่านหนึ่ง เรื่องการไม่ยอมทำตามผู้อื่นที่เห็นผิด แล้วตนเองถูกมองเป็นคนนอกคอก

ท่านอาจารย์ถามกลับว่า ...แล้วจะอยู่ในคอก หรือเป็นคนนอกคอกละคะ...

ฟังแล้วได้คิดขึ้นมาว่า ถ้าต้องอยู่ในคอกของอกุศล ก็เต็มใจเป็นคนนอกคอกกันเถอะค่ะ

ขออนุโมทนาคุณ oom และผู้เจริญกุศลทุกท่านค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ