เมื่อยังไม่ใช่พระโสดาบัน

 
คุณย่า
วันที่  18 พ.ค. 2551
หมายเลข  8673
อ่าน  1,533

สนทนาพื้นฐานพระอภิธรรม
ที่มูลนิธิฯวันอาทิตย์ที่ ๑๑ พ.ย. ๒๕๕๐

สุกัญญา กราบท่านอาจารย์นะคะ คือจริงๆ แล้ว เคยกราบเรียนถามท่านอาจารย์บ่อยมาก ถึงความเห็นผิด กับความเห็นถูก เมื่อก่อนไม่ได้ศึกษาธรรมะ ก็มีความรู้สึกว่า ถ้าเราได้ศึกษาธรรมะ จะต้องมีความเห็นถูก พอมาฟังท่านอาจารย์บรรยายนี่ ก็มีความรู้สึกว่า ถ้าเรายังไม่ได้เป็นพระโสดาบัน ความเห็นผิด จะมีตลอดเลย

อาจารย์ ทำไมตลอดล่ะคะ เวลาที่กุศลจิตเกิด จะมีความเห็นผิดหรือเปล่า เกิดร่วมกันได้ไหม ธรรมต้องเป็นเรื่องละเอียดค่ะ เพราะว่าขณะนี้ สิ่งที่เหมือนกับว่า ไม่มีอะไร เป็นคนนั้นคนนี้ ความจริงเป็นจิตประเภทต่างๆ มีทั้งจิตที่เป็นกุศล เป็นอกุศล มีทั้งจิตที่เป็นวิบาก เป็นผลของกุศลกรรม อกุศลกรรม มีทั้ง กิริยาจิต ไม่รู้เลย เหมือนไม่มีอะไร ความจริงทั้งวันจะพ้นจากจิตประเภทต่างๆ ไม่ได้เลย เพราะฉะนั้น ไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆ ฟังใครบอกว่า ไม่ใช่ตัวตน แล้วเราพลอยตามไปด้วย ว่าไม่ใช่ตัวตน ไม่มีตัวตน แต่ต้องเป็นการเข้าใจถูก จากการได้ยินได้ฟังแล้วก็เป็นการพิจารณาไตร่ตรอง จนกระทั่งเป็นความเข้าใจจริงๆ นั่นจึงจะเป็นที่พึ่งได้

สุกัญญา แต่ความเป็นตัวตนมีอยู่ทุกวัน

อาจารย์ ไม่ใช่พระโสดาบันใช่ไหมคะ ก็ไม่ต้องพูดเรื่องนี้เลย ใครล่ะ ไม่มีสักกายทิฏฐิ

สุกัญญา เพราะฉะนั้น ความมั่นคง

อาจารย์ เข้าใจธรรมะจากที่ไม่เคยฟัง แล้วเข้าใจจากการฟัง มีความมั่นคงขึ้นว่า ธรรมะเป็นจริงอย่างนี้ ไม่เป็นอย่างอื่น เป็นสัจญาณ ไม่เปลี่ยนแปลง ไม่ไปไหน อยู่ตรงนั้นแหละ ไม่ต้องไปหาธรรมะที่ไหนเลยค่ะ จะเที่ยวไปหาธรรม ข้างนอก ดีไหมนี่ ข้างในนี้คงไม่มีธรรมะอยู่ตรงไหน ไปที่อื่นดีไหม ตรงนั้นไม่มีธรรม นั่นคือไม่เข้าใจธรรมะ ถ้าเข้าใจธรรม ฟังแล้วเข้าใจคือว่าทุกอย่าง ทุกขณะเป็นธรรม ลืมไม่ได้เลย แต่ความเข้าใจว่าเป็นธรรม ยังน้อยมาก ยังไม่พอ

สุกัญญา แต่ว่าฟังธรรม นี่ มันก็มีธรรมหลอกลวงด้วย ที่กลัวที่สุด คือ ธรรมะหลอกลวงนี่แหละค่ะ จริงๆ ไม่รู้จักด้วยว่า ธรรมหลอกลวงนี้เป็นอย่างไร แต่ก็กลัวค่ะ ก็เลยหวั่นไหวตลอดเลยว่า จริงแล้ว แม้มีความเข้าใจธรรมเพียงเล็กน้อย ก็มีความรู้สึกว่า ถ้าจะก้าวไปแต่ละก้าว อาจจะมีความหลงผิดได้ตลอดเวลา

อาจารย์ คุณสุกัญญาคะ แล้วจะไม่ถูกหลอกเมื่อไรล่ะคะ

สุกัญญา ก็ต้องเป็นพระโสดาบัน

อาจารย์ เอาอีกแล้ว ต้องถึงพระโสดาบันเลยหรือ แล้วความเข้าใจ ปัญญาขั้นต้นๆ ก่อนเป็นพระโสดาบัน น่ะไปไหนไม่มีเลยหรือยังไง แล้วจะเอาปัญญาไหนมาเป็นพระโสดาบัน

สุกัญญา เวลานี้ก็มีความเข้าใจในพระธรรมเพิ่มขึ้น แต่มีความรู้สึกว่ามีทุกข์อยู่

อาจารย์ ใครไม่มีทุกข์

สุกัญญา ก็พระโสดาบัน อีกล่ะค่ะ

อาจารย์ พระโสดาบัน เจ็บไหมคะ ร้องไห้ไหม

สุกัญญา เจ็บค่ะ

อาจารย์ แล้วอะไรที่เป็นทุกข์ ที่คุณสุกัญญาว่า นะค่ะ ว่าเป็น พระโสดาบันแล้ว จะไม่ทีทุกข์

สุกัญญา อย่างน้อยก็เข้าใจ ถึงความเห็นถูก

อาจารย์ ก็คือ เข้าใจว่า เรื่องเข้าใจเอง คงต้องทิ้งไปให้หมดเลย ฟังแล้วค่อยๆ พิจารณา ค่อยๆ เข้าใจถูก รู้ว่าที่เป็นพระโสดาบัน นั้นคือ ปัญญาค่ะ ไม่ใช่อย่างอื่นไม่ใช่รูปร่างหน้าตา ไม่ใช่กิริยามารยาท แต่เป็นปัญญาที่สามารถจะเห็นถูก เข้าใจถูกในสิ่งที่กำลังปรากฏ มีจริงๆ ในขณะนี้ จนกระทั่งสามารถแทงตลอด ความจริงประจักษ์แจ้ง อริยสัจธรรม ดังที่เคยสะสมความไม่รู้และความเข้าใจผิด ที่เคยยึดถือสัจธรรมว่าเป็นตัวตนได้นั่นคือพระโสดาบัน แต่ต้องเป็นปัญญาที่ค่อยๆ แจ้งขึ้น


  ความคิดเห็นที่ 4  
 
suwit02
วันที่ 18 พ.ค. 2551
สาธุ
 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
prissna
วันที่ 18 พ.ค. 2551

อนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
daeng
วันที่ 18 พ.ค. 2551

อนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
saifon.p
วันที่ 18 พ.ค. 2551

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
narong.p
วันที่ 19 พ.ค. 2551

ความเข้าใจถูก (ปัญญา) มีหลายขั้น เริ่มตั้งแต่ขั้นฟังในขณะที่เป็นปุถุชน ก็สามารถมีได้ ไม่ใช่เริ่มที่จะมีปัญญาเมื่อเป็นโสดาบัน ปัญญาค่อยๆ เจริญขึ้นสะสมไป ค่อยๆ เข้าใจขึ้นๆ ทีละน้อยเหมือนการจับด้ามมีด มั่นคงขึ้น จึงไม่ควรขาดการฟัง เพื่อให้เข้าใจสิ่งที่ได้ฟัง ไม่ต้องเดือดร้อน กังวล เพราะแม้ความเดือดร้อน กังวลนั้นก็เป็น ธรรมะ ไม่ใช่เรา ต้องมั่นคงอย่างนี้จริงๆ ครับ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
baramees
วันที่ 19 พ.ค. 2551

สำคัญที่ปัญญา ปัญญาเป็นไปตามลำดับ จะสร้างบ้านสองชั้น ต้องมีชั้นหนึ่งก่อน ปัญญาละความเห็นผิดก่อน ไม่ใช่ละความพอใจในรูป เสียง..หรือโทสะ ควรเข้าใจว่า เป็นธรรมแม้ขั้นการฟังในสิ่งเกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน ย่อมนำไปสู่หนทางถูกคือละความเห็นผิดที่มีในขณะนี้ ขณะที่สภาพธรรมกำลังเกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
huak
วันที่ 20 พ.ค. 2551

มีเป็นเสียงออกมาได้ไหมครับ ถ้าได้ต้องทำไงบ้างครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
วันชัย๒๕๐๔
วันที่ 20 พ.ค. 2551

"...รู้ว่าที่เป็นพระโสดาบัน นั้นคือ ปัญญาค่ะ ไม่ใช่อย่างอื่นไม่ใช่รูปร่างหน้าตา ไม่ใช่กิริยามารยาท แต่เป็นปัญญาที่สามารถจะเห็นถูก เข้าใจถูกในสิ่งที่กำลังปรากฏ มีจริงๆ ในขณะนี้..."

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
บักกะปอม
วันที่ 21 พ.ค. 2551

การศึกษาพระธรรม เป็นอาหารของปัญญา...

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
wannee.s
วันที่ 22 พ.ค. 2551

ปํญญามีหลายระดับ ตั้งแต่ขั้นฟัง เพียงฟังสิ่งที่ไม่เคยฟัง ไม่เคยรู้ และปัญญาที่เกิดจากการพิจารณาธรรมะในสิ่งที่ได้ยินได้ฟังมา จนกว่าปัญญาค่อยๆ เจริญขึ้นตามลำดับค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
ruttikarn
วันที่ 22 ก.ค. 2553

กราบขอบพระคุณอาจารย์ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
pamali
วันที่ 15 ต.ค. 2553

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
jadesri
วันที่ 9 ธ.ค. 2553

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 17  
 
chatchai.k
วันที่ 24 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ