การพักผ่อนอย่างแท้จริง

 
มาณพน้อย
วันที่  6 เม.ย. 2551
หมายเลข  8020
อ่าน  1,581

สิ่งที่จะทำให้การพักผ่อนได้รับผลสมบูรณ์ อาจหมายรวมถึงสิ่งแวดล้อม อาหาร อากาศ และบุคคลที่อยู่รอบๆ ตัวเราด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่เข้าใจกันเป็นอย่างดี

หลายท่านชอบพักผ่อนด้วยการไปเที่ยว - เล่นน้ำตก


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
มาณพน้อย
วันที่ 6 เม.ย. 2551

หลายท่านชอบพักผ่อนด้วยการไปเที่ยวทะเล
 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
มาณพน้อย
วันที่ 6 เม.ย. 2551

หลายท่านชอบพักผ่อนด้วยการไปเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งเป็นไปตามการสะสมมาของแต่ละบุคคล ไม่มีการห้าม ไม่มีการบังคับถ้าเป็นผู้ที่ได้อบรมเจริญปัญญามา ไม่ว่าจะอยู่ ณ สถานที่แห่งใด ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด ก็สามารถที่จะเข้าใจสภาพธรรมตามความเป็นจริงได้ เพราะอยู่ที่ไหนก็มีธรรม อยู่ที่ไหนก็เป็นธรรม แต่เป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะเหตุว่าแม้แต่ในขณะที่นั่งฟังพระธรรมอยู่ อกุศลจิตยังสามารถที่จะเกิดแทรกได้ คงไม่ต้องกล่าวถึงในขณะที่ไม่ได้ฟังพระธรรมว่า อกุศลจิตจะเกิดมากขนาดไหน เป็นเรื่องที่น่าคิดพิจารณาอย่างยิ่ง ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
มาณพน้อย
วันที่ 6 เม.ย. 2551

การพักผ่อนอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นการพักผ่อนที่ดีที่สุด คือการพักผ่อนใจ ใจที่หมักดองด้วยกิเลสคือ โลภะ ความติดข้อง ยินดีพอใจ โทสะ ความขุ่นเคืองใจไม่พอใจ โมหะ ความหลง ความไม่รู้ และกิเลสอื่นๆ อีกมากมาย ย่อมเป็นใจที่ไม่ได้พักผ่อน (ขณะที่กุศลจิตเกิดแต่ละครั้งก็ชื่อว่าพักผ่อนได้ เพราะขณะนั้นเป็นการพักจากอกุศลเพราะเหตุว่าในขณะที่กุศลจิตเกิด อกุศลจะเกิดร่วมด้วยไม่ได้)

ด้วยเหตุนี้ ผู้ที่ศึกษาพระธรรม และเห็นโทษภัยของกิเลสนานาประการ จึงเพียรที่จะเจริญกุศล ทุกประการ รวมถึงการอบรมเจริญปัญญาเพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูกในลักษณะสภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริง จนกว่าจะเป็นผู้ที่ได้พักผ่อนใจ อย่างแท้จริง คือการดับกิเลสได้โดยเด็ดขาด ไม่เกิดอีกเลย

"ขอความเจริญมั่นคงในกุศลธรรม จงมีแด่ทุกๆ ท่าน ครับ"

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
suwit02
วันที่ 6 เม.ย. 2551
สาธุ
 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 6 เม.ย. 2551

พักผ่อนด้วยกุศลเป็นการพักผ่อนที่ประเสริฐ การพักผ่อนที่เลิศสูงสุดคือ ไม่มีการเกิดของจิต เจตสิก รูป อีกเลย ขออนุโมทนาด้วยครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
prissna
วันที่ 6 เม.ย. 2551

เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งคะ...คุณมาณพน้อย

ขออนุโมทนากุศลวิริยะ ในธรรมทานจากท่าน เสมอมา

พระธรรม จงเบิกบานในใจท่าน เช่นเดียวกัน

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
ตุลา
วันที่ 7 เม.ย. 2551

ขอกราบบูชาคุณพระรัตนตรัย

ช่างลึกซึ้งจริงๆ .....

ขออนุโมทนาด้วยค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
ajarnkruo
วันที่ 7 เม.ย. 2551

ขณะที่เป็นกุศลจิต พักทั้งกายพักทั้งใจ ใจไม่กระสับกระส่าย กายไม่กระสับกระส่าย...

อนุโมทนาครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
Pararawee
วันที่ 7 เม.ย. 2551

ไปมาแล้วทุ่งดอกกระเจียวสวยมากเลยนะคะ เป็นคนชอบเที่ยว แต่ก็จริงอย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นว่า "หลายท่านชอบพักผ่อนด้วยการไปเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งเป็นไปตามการสะสมมาของแต่ละบุคคล ไม่มีการห้าม ไม่มีการบังคับ ถ้าเป็นผู้ที่ได้อบรมเจริญปัญญามา ไม่ว่าจะอยู่ ณ สถานที่แห่งใด ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดก็สามารถที่จะเข้าใจสภาพธรรมตามความเป็นจริงได้ เพราะอยู่ที่ไหนก็มีธรรม อยู่ที่ไหนก็เป็นธรรม แต่เป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะเหตุว่าแม้แต่ในขณะที่นั่งฟังพระธรรมอยู่ อกุศลจิตยังสามารถที่จะเกิดแทรกได้ คงไม่ต้องกล่าวถึงในขณะที่ไม่ได้ฟังพระธรรมว่า อกุศลจิตจะเกิดมากขนาดไหน เป็นเรื่องที่น่าคิดพิจารณา"

อนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
อิสระ
วันที่ 8 เม.ย. 2551
ขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
wannee.s
วันที่ 8 เม.ย. 2551

ปกติเรามักจะหลงลืมสติเกือบตลอดเวลาที่สติไม่เกิด ไม่ระลึกลักษณะของนามธรรมรูปธรรมซึ่งกำลังปรากฏในขณะนี้ ในขณะนี้ถ้าจะพักผ่อน ก็พักผ่อนด้วยการมีสติระลึกรู้ว่าเป็นธรรมะอย่างหนึ่งค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
dron
วันที่ 10 เม.ย. 2551

โดยปกติที่เราเห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส กระทบสัมผัส คิดนึกส่วนใหญ่จะเป็นอกุศลจิตซึ่งการไปเที่ยวยังสถานที่ต่างๆ การหลงไปตามอำนาจของกิเลสจึงไม่ใช่การพักผ่อน การฟังพระธรรม การศึกษาพระธรรม ความเข้าใจพระธรรม จะสะสมและปรุงแต่งให้กุศลจิตเกิด ซึ่งเป็นกุศลที่จะทำให้สักวันหนึ่งในสารวัฎอันยาวนานจะทำให้ไม่มีการเกิดอีกเลย จึงจะเป็นการพักผ่อนที่ดีที่สุด

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
oom
วันที่ 18 เม.ย. 2551

เมื่อใดที่จิตใจเราพ้นจากโลภะ โทสะ โมหะ ตอนนั้นรู้สึกใจมีความสงบมีความสุขที่สุดค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ