หนูต้องการคำตอบมากๆเลยคะว่าหนูควรจะทำอย่างไร

 
สวัสดี
วันที่  9 มี.ค. 2551
หมายเลข  7781
อ่าน  1,165


ปกติหนูเป็นคนที่สงบ และใช้ชีวิตตามแนวทางแห่งธรรมะ แต่ช่วงนี้เกิดอะไรขึ้นไม่รู้เหมือนกิเลสเกิดขึ้นในใจ เวลาเจอสิ่งใดที่เราต้องเคารพ ใจก็จะนึกแต่คำไม่ดีออกไป ไม่รู้ว่าเป็นอะไร แต่หนูไม่เคยตั้งใจที่จะพูด เหมือนกิเลสมันอยากท้าทายสิ่งนั้น ตอนนี้หนูกลุ้มใจมาก หนูไม่ได้อยากให้มันเกิดขึ้นเลย หนูจะบาปมั้ยคะในทางพุทธศาสนา แล้วหนูควรทำอย่างไรดี


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 9 มี.ค. 2551


ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
เป็นธรรมดาครับ ตราบใดที่ยังมีกิเลส เมื่อมีเหตุก็ทำให้คุณยังคิดในทางที่ไม่ดีบ้าง

เพราะสะสมกิเลสมามากมาย ส่วนบาปหรืออกุศลนั้น มีหลายระดับ ขั้นที่อยู่ในใจไม่

แสดงออกมาทางกาย วาจา ก็เป็นอกุศล แต่ไม่ได้ครบองค์กรรมบถอะไรที่จะต้องไป

อบายภูมิ แต่สะสมต่อไปให้เป็นผู้มีอุปนิสัยในทางนั้นมาก เช่น คิดโกรธ ขุ่นใจบ่อยๆ ก็

ทำให้โกรธง่ายขึ้น แต่ความโกรธหรืออกุศลที่อยู่ในใจ ที่ไม่ได้ล่วงออกมาทางกาย

วาจาก็ไม่ทำให้ถึงไปอบายภูมิครับ..คุณคงเห็นแล้วครับว่า ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา

แม้เราไม่อยากให้มันเกิด ก็เกิดขึ้นแต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็ดับไป.. ทุกอย่างต้องมีเหตุจึงเกิด

ขึ้น มีกิเลสจึงเกิดสิ่งเหล่านี้ขึ้น พระพุทธองค์จึงแสดงหนทางในการดับกิเลส คือเข้าใจความจริงของสิ่งที่เกิดขึ้นว่าคืออะไร เป็นเราที่มีกิเลส หรือเป็นธรรม? ซึ่งหาฟังไฟล์ธรรมและร่วมสนทนาได้ในเวปนี้ ขออนุโมทนาครับ...หนทางเดียวนะครับฟังธรรม..ศึกษาธรรม

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 9 มี.ค. 2551


แม้ผู้มีปัญญายังถูกกิเลสรบกวน จะกล่าวไปใยถึงบุคคลทั่วไป..เป็นธรรมดา

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก เล่ม ๓ ภาค ๔ - หน้าที่ 3

ลมที่พัดภูเขาสิเนรุให้หวั่นไหว ไฉนจักไม่พัดขยะใบไม้เก่าให้ กระจัดกระจายเล่ากิเลสนี้ยังก่อกวนสัตว์ผู้นั่งอยู่ที่โคนต้นโพธิ์ กำลังจะตรัสรู้ได้ ไฉนจักไม่ก่อกวนคนเช่นเธอเล่า

ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
devout
วันที่ 10 มี.ค. 2551

ควรเจริญมรณานุสสติ...ระลึกถึงความตายอยู่บ่อยๆ นะคะ

เพื่อที่จะได้ไม่เป็นผู้ที่ประมาทในอกุศลแม้เพียงเล็กน้อย

ลองคิดดูซิค่ะว่า...ถ้าจะต้องตายในขณะนั้นเดี๋ยวนั้น

ขณะที่จิตยังคิดอกุศลอยู่...ทุคติเป็นอันหวังได้

น่ากลัวนะคะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
study
วันที่ 10 มี.ค. 2551

ความคิดทั้งหมด เป็นเพียงธรรมะอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่ใช่หนูเลย จริงๆ แล้วหนูไม่มี มีแต่จิต เจตสิก รูป ที่เกิดขึ้นเพราะปัจจัยเท่านั้น ศึกษาธรรมะให้เข้าใจแล้วจะรู้ว่า ทุกขณะเป็นธรรมะ เพราะเรายึดว่าความคิดเป็นเรา เมื่อคิดไม่ดี จึงเดือดร้อนว่าเราคิดไม่ดี ความกลุ้มใจก็เป็นธรรมะ ค่อยๆ สะสมความเข้าใจถูก จะทำให้ความเข้าใจถูกเพิ่มขึ้น

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
เจริญในธรรม
วันที่ 10 มี.ค. 2551

ทำความดี

ละเว้นความชั่ว

ทำจิตใจให้ผ่องใสอยู่เสมอ

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
ajarnkruo
วันที่ 10 มี.ค. 2551

วันที่จะไม่แพ้กิเลสอีกเลย คือวันที่ดับกิเลสโดยสิ้งเชิง บรรลุเป็นพระอรหันต์ครับ ส่วนวันนี้ ศึกษาหนทางให้รู้จักกิเลสตามเป็นจริงก่อนว่า กิเลสไม่ใช่เรา เพราะไม่มีเรา แต่กิเลสมีจริงยังมี และยังไม่ได้ดับ และให้เข้าใจว่า มีปัจจัยให้กิเลสเกิด กิเลสก็เกิด ทว่า ยังมีกิเลสอีกชนิดที่ทำกิจยึดถือว่า กิเลสเป็นเราหรือกิเลสเป็นของเรา แต่ความจริงกิเลสเป็นเพียงธรรมะ เกิดแล้วก็ต้องดับครับ ศึกษาอย่างค่อยเป็น ค่อยไป ใจเย็นๆ และอาจหาญ ร่าเริง จะไม่มีอะไรให้ต้องกังวลใจหนักหนาสาหัส ถ้าเพียงเข้าใจขึ้นว่าทุกสิ่งที่มีจริง ก็เป็นแต่เพียงธรรมะ หาสาระจากสิ่งที่ดับไปแล้วไม่ได้เลย...อนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
aiatien
วันที่ 10 มี.ค. 2551

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
suwit02
วันที่ 10 มี.ค. 2551

ขอทราบว่า ในช่วง 1 ปีนี้ คุณได้อาศัยสิ่งควรเคารพที่กล่าวถึงนั้น เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวใจ ให้กระทำกิจที่ทำได้ยากยิ่ง และกิจนั้นสำเร็จบ้าง เป็นบางส่วน ยังไม่เต็มบริบูรณ์ตามความปรารถนา ใช่หรือไม่ครับ ถ้าใช่ ผมคงเข้าใจคุณได้บางส่วน และถ้าไม่ใช่ ก็โปรดตอบด้วยครับ โลกทัศน์ของผมจะได้กว้างขึ้น

ขอบคุณครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
wannee.s
วันที่ 10 มี.ค. 2551

ให้รู้ว่า ขณะนั้นเป็นอกุศลที่ไม่ใช่เรา แล้วความคิดก็ห้ามไม่ได้ แต่สติเกิดระลึกได้ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
สวัสดี
วันที่ 11 มี.ค. 2551

หนูขอขอบพระคุณ ทุกๆ ท่านนะคะ ที่ทำไห้หนูเข้าใจว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนั้น คืออะไรในทางศาสนา หากหนูไม่ได้รับคำตอบของทุกท่าน หนูคงตกอยู่ในความทุกข์จากกิเลสไปอีกนาน ชีวิตของรุ่นหนู คงยังมีไม่กี่คนที่สนใจในทางธรรม เพราะเข้ายังคงสนุกอยู่บนโลกแห่งสีสัน แต่ก่อนหนูก็เป็น แต่พอมีสิ่งนี้เกิดขึ้น มันทำให้หนูต้องเริ่มศึกษาธรรมะมากขึ้น เจริญสติบ่อยครั้ง และอยู่กับลมหายใจตัวเองเกือบตลอด ซึ่งเมื่อแต่ก่อน จะอยู่ในความคิดเป็นเสียมากกว่า ขอบพระคุณจริงๆ ค่ะทั้งเวปนี้ และทุกๆ ท่านอีกครั้งหนึ่ง สิ่งหนึ่งที่หนูได้ ไม่ทราบว่าหนูจะเข้าใจถูกหรือไม่ เพราะหากจะกล่าวสำหรับธรรมะ หนูเป็นเพียงแค่คนที่เพิ่งเริ่มนับ 1 เท่านั้น ว่า กิเลสคือธรรมะ เกิดแล้วดับ อย่ายึดติด กิเลสไม่ใช่เรา ไม่มีเรามีแต่ จิตเจตสิก รูป ที่เกิดขึ้นเพราะปัจจัยเท่านั้น หนูขอคำแนะนำอีกนะคะ บางครั้งหนูก็ยังเข้าใจได้ไม่มาก

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
สวัสดี
วันที่ 11 มี.ค. 2551

ขอตอบคำถามของความคิดเห็นที่ 8 ค่ะ สิ่งควรเคารพที่กล่าวถึงนั้น มีทั้งสิ่งที่หนูยึดเหนี่ยว แม้ว่าสิ่งที่หนูขอจะได้ หรือไม่ได้ หนูไม่เคยคิดแบบนี้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นขณะนี้ จะประมาณว่า รู้ว่านั้นคือสิ่งนั้นควรเคารพนะคะ และก็มีที่ไม่ใช่สิ่งที่เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจหนูเองด้วยคะ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
wannee.s
วันที่ 11 มี.ค. 2551

บุคคลควรมีธรรมะเป็นทีพึ่ง อย่ามีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่ง ที่พึ่งที่สูงสุด คือการเข้าถึง

พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นสรณะค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 11 มี.ค. 2551

ยังไงก็ขอให้คุณสวัสดีติดตามไฟล์ฟังธรรมในเวปนี้นะครับ รวมทั้งกระดานสนทนาด้วยครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
suwit02
วันที่ 12 มี.ค. 2551

ขอบคุณที่ช่วยขยายโลกทัศน์ให้ครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ