จะรอทำไมให้ถึงก่อนตาย

 
khampan.a
วันที่  29 ก.พ. 2551
หมายเลข  7631
อ่าน  3,637

ได้ฟัง ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ บรรยายในรายการ "แนวทางเจริญวิปัสสนา" เนื้อหาตอนหนึ่ง มีผู้ถามท่านหนึ่ง ถามท่านอาจารย์สุจินต์ ว่า "เมื่อจิตเราใกล้จะตาย ควรจะต้องพิจารณาธรรมใดจึงจะถูกต้อง " ซึ่งคำตอบของท่านอาจารย์สุจินต์ เป็นเครื่องเตือนใจไม่ให้ประมาทได้ดีเป็นอย่างยิ่ง จึงขอยกมาเพื่อศึกษาร่วมกัน ดังนี้ครับ

ผู้ถาม ถามว่า "เมื่อจิตเรา ใกล้จะตาย ควรจะต้องพิจารณาธรรมใด จึงจะถูกต้อง"

ท่านอาจารย์สุจินต์ ตอบว่า "ตายขณะนี้ได้ไหม ถ้าเรารู้ว่าตายตอนนี้จะได้กำหนดถูกความจริง ความตายเร็วที่สุด ก่อนตายอาจจะนอนป่วยไข้ หรือสนุกสนานร่าเริง แต่พอถึงเวลาตายก็ตายได้ แม้ไม่เจ็บไข้ได้ป่วยก็ตายได้ เพราะฉะนั้น ความตายตามที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงไว้ชั่วขณะจิต ดังนั้น ใครจะรู้ว่าเมื่อใด ถ้าคิดว่าก่อนตายจะทำอย่างไร จงทำเสียตั้งแต่เดี๋ยวนี้ แต่ว่าไม่มีใครจะไปทำอะไรได้ เพราะปกติคนอยากจะมีกุศลทุกวัน แต่ตามเหตุพอมีเหตุของอกุศล อกุศลก็เกิด และไม่ต้องคร่ำครวญว่า อกุศลมากเหลือเกินเพราะเหตุว่า ถ้ารู้เรื่องเหตุและผลแล้ว และรู้ว่ากุศลน้อย ก็ต้องอบรมเจริญกุศลโดยไม่ประมาท เพราะฉะนั้น ถ้ากลัวเกิดในอบายภูมิ ต้องเป็นผู้ไม่ประมาทในการอบรมเจริญกุศลโดยเฉพาะการเจริญปัญญา เพราะพระอริยบุคคลเท่านั้น ที่จะไม่เกิดในอบายภูมิ แต่ถ้าไม่เป็นพระอริยบุคคล อกุศลกรรมที่มี ที่ได้กระทำแล้ว ไม่เฉพาะที่ทำในชาตินี้ อาจจะเป็นชาติไหนๆ ก็ได้ จากอดีตหลายแสนโกฏิกัปป์ก็อาจจะมาทำให้เกิดในชาตินี้ได้ แต่เรื่องที่จะทำอะไรก่อนตาย ไม่มีใครทำได้จริงๆ เหมือนกับขณะนี้ จะรอทำไมให้ถึงก่อนตาย ทำเสียตั้งแต่เดี๋ยวนี้ ทำให้จิตเป็นกุศลเสียเดี๋ยวนี้ ให้ปัญญาเกิดเสียเดี๋ยวนี้ แทนที่จะไปรอทำก่อนตาย"


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
wannee.s
วันที่ 29 ก.พ. 2551

ผู้มีราตรีหนึ่งเจริญ คือผู้มีชีวิตอยู่ด้วยความไม่ประมาท

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
saifon.p
วันที่ 29 ก.พ. 2551

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
นวล
วันที่ 29 ก.พ. 2551

เคยอ่านที่ท่านอ. ให้พร ว่า ขอให้เจริญมั่นคงในกุศลทุกประการ ครอบคลุม ครบถ้วนดีจริงๆ ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 29 ก.พ. 2551

ทำไม่ได้แม้ใกล้ตาย และในขณะนี้ เพราะเป็นหน้าที่ของธรรม และเป็นอนัตตาครับ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
narong.p
วันที่ 1 มี.ค. 2551

หากศึกษาและมั่นคงในความเป็นอนัตตาของสภาพธรรมโดยมีความเข้าใจที่ถูกต้อง ว่าทุกอย่างเป็นธัมมะ ไม่มีเราที่จะพิจารณาธรรมใดๆ ทุกขณะสภาพธรรมเกิดขึ้น และดับไปด้วยเหตุและปัจจัยเร็วมากสุดประมาณที่จะเป็นกุศลหรืออกุศล ไม่สามารถกำหนดหรือกะเกณฑ์ได้ ครับ

ขออนุโมทนากระทู้นี้ด้วยครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
Komsan
วันที่ 1 มี.ค. 2551

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
devout
วันที่ 1 มี.ค. 2551

ที่กล่าวว่าเป็น อนัตตา เพื่อให้เข้าใจว่าไม่มีเราที่จะทำอะไรได้ แต่ไม่ได้หมายความว่า ไม่ต้องทำอะไรเลย

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
happyindy
วันที่ 2 มี.ค. 2551

ค่ะ เห็นด้วยกับ คห 7

อนุโมทนาผู้ตั้งกระทู้และทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
Pararawee
วันที่ 4 มี.ค. 2551

โสมนัสๆ :D

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
เซจาน้อย
วันที่ 27 ก.ค. 2551
ขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
pamali
วันที่ 29 พ.ย. 2553

กราบท่านอ.และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
homenumber5
วันที่ 13 ส.ค. 2554

ใครจะรู้ว่าจะตายเมื่อไร ทำวันนี้สิ วันที่ตา หู สมองดี ทำกุสลไว้ดีกว่าแน่ วันหยุดมาฟังธรรมแทนที่จะไปยิงนก ตกปลา ทำบาป

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
govit2553
วันที่ 14 ส.ค. 2554

มีคน หมู่บ้านใกล้เคียง ได้ยินว่า ตายขณะกำลังอ้าปากหัวเราะ ไม่ทราบว่า เขาจะมีคติ ไปไหน อย่างไร คือเขาหัวเราะ ด้วยความตลกขบขันอยู่ แล้วไม่ทันหยุดหัวเราะ ก็ตายไปเลย เป็นเรื่องจริงครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
pat_jesty
วันที่ 14 ส.ค. 2554
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
ธนฤทธิ์
วันที่ 5 ก.ย. 2554
ขอบคุณและขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
คนไทยพบธรรม
วันที่ 7 ก.ย. 2554

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 17  
 
bunphon
วันที่ 12 ก.ย. 2554

กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาสาธุทำให้มีสติขึ้นมาก

 
  ความคิดเห็นที่ 18  
 
jaturong
วันที่ 4 เม.ย. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 19  
 
homenumber5
วันที่ 7 เม.ย. 2555

เรียน ท่านวิทยากรและท่านพุทธศาสนิกทุกท่าน

การสวดพระอภิธรรมในงานศพเป็นสิ่งหนึ่งที่แสดงชัดเลยว่า สวดในงานศพ แต่ความจริงพระอภิธรรมนี้มีให้เพื่อคนมีชีวิต มีตา มีหูดี มีสมองดี มาสิกขา มาเรียนเพื่อให้เจริญกุสล เจริญปัญญาเพื่อตัดภพชาติ แต่ สังคมกลับไปใช้ สวดในงานศพ คนตายฟังธรรมไม่ได้ เพราะไม่มีชีวิตแล้ว แต่พระภิกษุในอดีตท่านเห็นว่า โอกาสคนจะเข้าวัดเรียนอภิธรรมมีน้อยลงๆ จึงออกอุบายให้พระสวดพระอภิธรรมในงานศพ แม้ผู้มางานจะฟังบาลีไม่เป็นแต่หากสนใจจะได้ไปหาเรียนเพิ่มเติม

ในขณะนี้มีหลายสำนักที่สอนพระอภิธรรมกัน ขอให้ท่านพิจารณาดูว่า ท่านเหมาะสมกับที่ไหนหากไม่ลำบาก มาที่มศพ.นี้ ทั้งในงานสอนจริงในเว็บนี้ย่อมมีประโยชน์

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 20  
 
Nataya
วันที่ 5 ม.ค. 2562

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ