ธรรมข้อคิด 17

 
แล้วเจอกัน
วันที่  18 ก.พ. 2551
หมายเลข  7414
อ่าน  989

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

ถ้าเราเข้าใจว่า ความชั่วมักเกิดขึ้นเมื่อขาดความเพียรที่ถูกต้อง ซึ่งประกอบด้วยความสะดุ้งกลัวก็จะทำให้รีบเร่งที่จะเจริญกุศล และยิ่งกว่าอย่างอื่น คือระลึกรู้สภาพธรรมที่กำลังปรากฏ

ชีวิตประจำวันเป็นข้อทดสอบการเจริญปัญญา เราเข้าใจเรื่องการเจริญปัญญาด้วยปริยัติ และบัดนี้ เราก็ต้องอบรมเจริญปัญญาในชีวิตประจำวันเราด้วย ถ้าเหนื่อยหน่ายหรือเบื่อก็ต้องรู้ด้วยว่าเหนื่อยหรือเบื่อนั้น ก็เป็นสภาพธรรม เราหนีไม่พ้นนามและรูปในชีวิต นามและรูปเกิดขึ้นตลอดเวลา

“เราไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น พรุ่งนี้ หรือแม้แต่ขณะต่อไป” ถ้าเรารู้ว่า แต่ละขณะเกิดขึ้นเพราะปัจจัยหลายอย่างต่างๆ กัน และทุกขณะต่างกันอย่างสิ้นเชิง จากขณะก่อนๆ และขณะหลัง ก็จะทำให้เราไม่รีรอที่จะศึกษาสภาพธรรม ที่กำลังปรากฏขณะนี้ยิ่งขึ้น เมื่อเริ่มรู้สภาพธรรมที่กำลังปรากฏ เราก็จะกังวลถึงอดีตน้อยลง อะไรที่เกิดขึ้น แล้วก็เกิดขึ้นแล้ว ตอนนี้เราจะไปเปลี่ยนแปลงอะไรได้ สิ่งที่สามารถจะกระทำได้ เดี๋ยวนี้ คืออบรมเจริญปัญญารู้สภาพธรรมที่กำลังปรากฏขณะนี้ (ไม่มีตัวตนที่จะไปกระทำ แต่เป็นลักษณะของสภาพธรรมเกิดขึ้น ทำกิจหน้าที่)

คำพูดที่จริง แต่ไม่เป็นประโยชน์ บัณฑิตก็ไม่พูดกัน

พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงอุปการะไม่ให้ประมาทแม้ในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ

ความสุข ความเจริญ ไม่ได้อยู่ที่การติด แต่เป็นการละ

เคารพในกุศลจิตของบุคคลอื่น การเคารพซึ่งกันและกันก็เป็นการขัดเกลากิเลส

ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์


  ความคิดเห็นที่ 2  
 
dron
วันที่ 19 ก.พ. 2551

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
ตุลา
วันที่ 19 ก.พ. 2551

ขอกราบบูชาคุณพระรัตนตรัย

ถ้าบุคคลใดทำได้อย่างที่คุณแล้วเจอกันเขียน โลกใบนี้คงจะน่าอยู่มากค่ะ ในสังคมปัจจุบันคนส่วนใหญ่มัก อยู่ด้วยกิเลสมากกว่าปัญญา มักมีความหวังสูง เห็นแก่ตัว เอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่ วางอำนาจ และอื่นๆ อีกมากมาย (ทำให้บางครั้งเหนื่อยหน่าย และเบื่อเมื่อเจอกับบุคคลประเภทนี้)

การฟังพระธรรม และอ่านหนังสือบางเล่ม ก็ทำให้เรารู้สึกดีขึ้น ชอบมากกับคำที่ว่า "อย่าประมาทในกุศลจิต และอกุศลจิต แม้เพียงเล็กน้อย"

มีชีวิตอยู่ด้วยปัญญา ประเสริฐจริงๆ ค่ะ ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
ทศพล.com
วันที่ 19 ก.พ. 2551

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
วันชัย๒๕๐๔
วันที่ 19 ก.พ. 2551

เมื่อได้ศึกษาและฟังพระธรรม บ่อยๆ เนืองๆ จะเป็นปัจจัยให้สติเกิดระลึกรู้ ในสภาวธรรม ที่พบในชีวิตประจำวันบ่อยขึ้น เกิดการระลึกรู้ เข้าใจ ละคลาย เบาสบายขึ้น ฯลฯ ชีวิตสงบ (จากอกุศล) มากขึ้น เป็นธรรมดา เป็นปกติ ในทุกๆ วัน ไม่ใช่เรา แต่เป็นสภาวธรรม ที่ได้เกิดขึ้นแล้วจากการได้อบรม (ปัญญา จากการฟังและพิจารณา) แล้วบ่อยๆ และเกิดขึ้นเอง

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
orawan.c
วันที่ 20 ก.พ. 2551

ไม่มีอะไรประเสริฐกว่าการเข้าใจพระธรรมจริงๆ ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัยและ

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
wannee.s
วันที่ 20 ก.พ. 2551
คำพูดที่จริง มีประโยชน์ แม้ไม่เป็นที่รักของคนอื่น บัณฑิตก็พูดค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
khampan.a
วันที่ 21 ก.พ. 2551
ธรรมข้อคิดทุกๆ ข้อ เป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูลได้ดีอย่างยิ่ง ขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
pornpaon
วันที่ 23 ก.พ. 2551
ได้ข้อคิดมากมาย ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
wirat.k
วันที่ 23 ก.พ. 2551
ขออนุโมทนา และขอบพระคุณมากครับ
 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ