ช่วยอ่านสักนิด นึกว่าเอาบุญ

 
supakorn
วันที่  15 ม.ค. 2551
หมายเลข  6983
อ่าน  1,131

ผมเป็นคนชอบทำทานมากกว่าทำบุญ โดยเพราะเห็นคนที่กำลังตกทุกข์ได้ยากแล้ว บังเกิดความเมตตาสงสารจับใจ อยากให้เขาได้พ้นทุกข์ถึงแม้จะแค่ระยะหนึ่งก็ยังดี ส่วนการทำบุญ กับพระสงฆ์ก็ดี หรือทำบุญด้วยการบริจาคทำนุ บำรุงพระศาสนาก็ดี ผมก็ทำ แต่ความรู้สึกกลับเฉยๆ รู้ว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่ที่ทำเหมือนสมองสั่ง หรือความคิดสั่งว่าควรทำ แต่ไม่มีความรู้สึกเหมือนคนในยุคเก่าๆ ที่น้อมนำความรู้สึกได้ดี อาจเป็นเพราะในยุคเก่า ยังไม่มีเครื่องล่อใจมาก จิตจึง มุ่งสู่พระได้มากกว่า การที่ผมทำบุญแบบนั้น ผลบุญที่ได้รับจะน้อยลงกว่าคน ที่เขาทำความรู้สึกยินดีมากน้อยเพียงใด ผมเพียงรู้ว่า เมื่อมีโอกาสก็ จักทำทุกครั้ง โดยไม่ขัดขืนใจแต่อย่างใด เพียงแต่ทำความรู้สึกให้เอิบอิ่มไม่ได้ มันเฉยๆ แต่รู้ว่าเป็นสิ่งที่ดี แม้ผมจะทำกับพระที่ปฎิบัติดีปฎิบัติชอบก็ตาม ผมรู้ตัวเองดีว่าควรทำ แต่เหมือนกับจิตใจทำไม มันนิ่งๆ แต่ไม่ใช่คนเฉยชากับการทำบุญ ผมไม่เข้าใจจริงๆ ใครทราบช่วยเมตตาตอบด้วยครับ หรืออาจเป็นเพราะชีวิตผม ผ่านเรื่องเจ็บปวดมามาก เลยด้านชา หนักไปทางขี้สงสารคนมากกว่า ส่วนการทำบุญ ถ้าเป็นวัดกันดาร หรือพระที่อยู่ด้วยความลำบาก ผมกลับจะมีความอยากทำมาก


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
medulla
วันที่ 15 ม.ค. 2551

การทำบุญ อยู่ที่เจตนาจริงๆ นะคะ แม้มีน้อยก็ยังให้ได้ ก็อาจจะเป็นเจตนาที่ยิ่งใหญ่กว่าการสร้างเสาวัดก็ได้

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
study
วันที่ 18 ม.ค. 2551
 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 18 ม.ค. 2551

ทุกอย่างเป็นไปตามการสะสมครับ บางคนสะสมมาที่จะช่วยเหลือให้ทานกับสัตว์ บางคนก็กับพระ แล้วแต่การสะสมมาจริงๆ ต่างกันไปตามการสะสมมาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
lichinda
วันที่ 20 ม.ค. 2551

กุศลเจตนา ขัดเกลากิเลสของตน เจริญกุศลจิตเมตตากรุณา ผิวพรรณผ่องใส ไฟ ศาสตรา ยาพิษมิได้กล่ำกลาย กุศลตามเสริมตามส่งก็รู้ เคราะห์กรรม วิบาก ก็ รู้ ศรัทธาผู้มีศีล จิตเลื่อมใส ทนุบำรุงสงฆ์ กุศลจิตเกิดแล้วถนอมไว้ รักษาไว้ได้นานก็รู้ หายไปแล้วก็รู้ กลับมาอีกก็รู้ ปิติก็รู้ ไม่ปิติก็รู้ สะสมมาแล้วมากมาย หลายชาติ ขอจงเจริญในธรรมเถิด

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
oom
วันที่ 22 ม.ค. 2551

สมัยก่อน ก็คิดเช่นเดียวกับคุณศุภกรณ์ คือมีความรู้สึกว่าถ้าได้ช่วยคนที่กำลังตก ทุกข์ จิตใจจะอิ่มเอม มีความสุขมากเลย ดิฉันเคยซื้อนกเอี้ยงที่คนนำมาเดินเร่ ขาย หมดทั้งกรงประมาณ ๕ ตัว แล้วก็ปล่อยไป ดิฉันเห็นกิริยาท่าทางที่นกบินออกจากกรงไป และส่งเสียงเหมือนดีใจที่ได้อิสระภาพ ดิฉันจะใส่บาตรเกือบทุกวัน แรกๆ ก็จิตใจเบิกบาน แต่พอทำต่อเนื่องเป็นปกติวิสัย จิตกับไม่มีเบิกบานเลย จิตเป็นปกติ ไม่ขึ้นไม่ลง ดิฉันก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเป็นเพราะอะไร

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
เจริญในธรรม
วันที่ 22 ม.ค. 2551
ขออนุโมทนา
 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
ajarnkruo
วันที่ 22 ม.ค. 2551

ไม่มีใครมีอำนาจบังคับบัญชาความรู้สึกในแต่ละขณะจิตให้เป็นไปตามที่ต้องการได้ครับ แต่ควรเข้าใจให้ถูกต้องว่าเวทนาเจตสิกเป็นธรรมะ ไม่ใช่เราครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
เบน
วันที่ 25 ม.ค. 2551

ขณะที่จิตเป็นไปในการให้ ไม่ว่าให้กับใคร เป็นสิ่งที่ดีงามน่าอนุโมทนา ถีงแม้ว่าไม่เกิดโสมนัสเวทนา แต่ก็เป็นบุญแล้ว ไม่จำเป็นต้องไปติดข้องในบุญมากบุญน้อย โสมนัสหรืออุเบกขา ปัญญาทำให้ไม่หวั่นไหวในการ กระทำใดๆ รู้ตามความเป็นจริงดีแล้วก็พอแล้ว ต้องการอะไรมากกว่านั้น แม้พระเจ้าจักรพรรดิ์มีสมบัติและดินแดนมากมาย ก็ยังไม่รู้จักพอเพราะไม่รู้จักโลภะตามความเป็นจริง ขออนุโมทนาในกุศลจิตที่ อบรมมาแล้ว

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
oom
วันที่ 30 ม.ค. 2551

บางครั้งก็ยังข้องใจอยู่ เพราะเคยอ่านหนังสือเรื่องวิธีทำบุญว่าก่อนให้ ขณะให้ หลังให้ ควรมีจิตโสมมนัสยินดีในการทำบุญ ซึ่งพอเจอจากประสบการณ์ตรง จึงไม่แน่ใจ ตอนนี้ได้อ่านคำตอบของคุณเบนแล้ว ทำให้เข้าใจและหายข้องใจแล้วค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
chatchai.k
วันที่ 10 ม.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ