ต้องไม่มีตัวเราในมหาสติปัฏฐาน เข้าใจอย่างนี้ใช่หรือไม่

 
บ้านธัมมะ
วันที่  19 ธ.ค. 2550
หมายเลข  6213
อ่าน  963

ภิ. มหาสติปัฏฐานสูตร เราคงจะพอจะเห็นลางๆ กันแล้วนะครับว่า มหาสติปัฏฐานสูตร ไม่มีกรรมวิธี ไม่มีเวลา ไม่มีลักษณะอาการ ไม่มีสถานที่ ไม่มีสิ่งของที่จะเป็นองค์ประกอบ เครื่องใช้สอยแต่มันคือทุกอย่างในชีวิต ทุกอย่างในลมหายใจ ทุกอย่างในเซลประสาททั้งหลาย ที่มีอยู่ในกายเรา ที่ทำให้เกิดกระบวนการมหาสติปัฏฐาน โดยการซึมซับต่อกระบวนการนั้น อย่างเรียนรู้ อย่างเข้าใจ อย่างสัมผัส และพิสูจน์ทราบมันได้ด้วยความรู้สึกว่า ต้องทำให้สะอาด ฉลาด สว่าง สงบ หรือมีความรู้สึกอย่างนี้ ก็ดูแล้ว ก็รู้สึกจะไม่ตรงอีกเหมือนกัน อย่างที่ท่านอาจารย์ได้พูดว่า “ต้องไม่มีตัวเราในมหาสติปัฏฐาน” ถูกหรือผิด เข้าใจอย่างนี้ใช่หรือไม่

อ. การที่จะละความเป็นตัวตนไม่ใช่ว่าจะละได้ทันที แม้แต่ในขณะนี้เองที่กำลังฟังเรื่องของธรรมเรื่องของนามธรรมและรูปธรรม ต้องเป็นการที่จะรู้ตัวเองว่าเริ่มมีความเข้าใจถูกบ้างไหม ในขณะที่ฟังเพิ่มขึ้นอีกหรือเปล่า เกือบจะไม่ต้องไปนั่งนึกถึงเรื่องปฏิบัติ หรือว่าเรื่องสติปัฏฐานเลย เพราะว่าขณะนี้ทุกอย่างเป็นสติปัฏฐาน ถ้าสติเกิดระลึก แต่ถ้าไม่รู้เลยว่าสติมีลักษณะอย่างไรขณะที่จดจ้อง เข้าใจว่ากำลังเป็นสติ แต่นั่นไม่ใช่ลักษณะของสตินั่นเป็นลักษณะของสมาธิ สมาธิมี ๒ อย่างคือ สัมมาสมาธิและมิจฉาสมาธิแต่ถ้าไม่ศึกษา เข้าใจว่า “สมาธิ” แล้วดีทั้งนั้น เป็นสัมมาทั้งหมด ซึ่งไม่ใช่ความถูกต้อง ก่อนอื่นต้องรู้ลักษณะของสติ จึงจะเจริญสติปัฏฐานได้ หรืออีกประการหนึ่ง ก็คือว่า เมื่อมีความเข้าใจลักษณะของสติเป็นปัจจัย สติปัฏฐานจึงเกิด มิฉะนั้นแล้ว สติปัฏฐานก็เกิดไม่ได้ นี่ก็เป็นเรื่องที่จะต้องศึกษาให้เข้าใจ โดยที่ว่าไม่เอาสมาธิมาเป็นสติ แล้วก็ไม่มีเรา ซึ่งอยากจะเห็นการเกิดดับของสภาพธรรม แต่เป็นเรา

เพราะฉะนั้น มีความไม่รู้เต็มที่ เพราะฉะนั้น จึงต้องไม่ไปกังวลถึงสติปัฏฐาน ถึงปัญญาระดับสูง แต่ปัญญาระดับสูงจะมีได้ก็ต่อเมื่อมีความเข้าใจถูกต้องตั้งแต่ต้น ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของปัญญาซึ่งจะค่อยๆ เจริญขึ้นจากการฟัง การพิจารณา การเข้าใจ จนกว่าจะเป็นสังขารขันธ์ที่จะปรุงแต่งให้สติปัฏฐานเกิดระลึกลักษณะของสภาพธรรมซึ่งขณะนี้เป็นสติปัฏฐานแน่นอน ถ้าสติเกิดแล้วระลึก มีใครระลึกบ้างหรือเปล่า

แต่ถ้าผู้ฟังในครั้งกระโน้น เพียงฟังสติปัฏฐานระลึกสามารถที่จะรู้แจ้งความจริงของสภาพธรรมด้วยปัญญาที่ฟังเข้าใจ แต่ไม่ใช่ด้วยไม่มีปัญญาเลย ไม่ได้ฟังพระธรรมเลย แล้วก็เข้าใจว่าไปประจักษ์การเกิดขึ้นและดับไปของสภาพธรรม


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
peem
วันที่ 26 ก.ย. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
chatchai.k
วันที่ 10 ส.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
yu_da2554hotmail
วันที่ 8 มิ.ย. 2565

ขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ