จิตและเจตสิกไม่เคยแยกจากกัน

 
ธรรมทัศนะ
วันที่  20 ธ.ค. 2568
หมายเลข  51676
อ่าน  75

จิตนั้นไม่ได้เกิดขึ้นได้กลิ่น จิตนั้นไม่ได้เกิดขึ้นลิ้มรส จิตนั้นไม่ได้เกิดขึ้นคิดนึกใดๆ ทั้งสิ้น เพราะฉะนั้น ขณะนั้น จิตทำภวังคกิจดำรงภพชาติความเป็นบุคคลนั้นโดยไม่รู้อารมณ์ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ นี่คือความละเอียดของจิตในวันหนึ่งๆ ซึ่งต่อไปก็จะแสดงให้ละเอียดขึ้นๆ แต่ก็เป็นสิ่งที่สามารถจะเข้าใจได้

เมื่อไม่รู้ก็เหมือนกับว่าไม่มีจิต แต่ความจริง ที่ใดที่มีจิต ขณะใดที่จิตเกิด ขณะนั้นต้องมีเจตสิกซึ่งเป็นความรู้สึกเกิดด้วยทุกครั้ง ทุกท่านพอจะเข้าใจได้ว่า คนหลับไม่ใช่คนตาย ที่ต่างกับคนตาย เพราะเหตุว่ามีจิต และเมื่อมีจิตก็ต้องมีสังขารธรรมที่ปรุงแต่งให้จิตเกิด สังขารธรรมที่ปรุงแต่งให้จิตเกิด คือ เจตสิก เกิดพร้อมกันดับพร้อมกัน เจตสิกก็อาศัยจิต เพราะเจตสิกจะเกิดที่อื่นไม่ได้ และจิตก็ต้องมีเจตสิกเกิดร่วมด้วย ทำให้จิตเกิดขึ้นได้

จะเห็นได้ว่า จิตและเจตสิกไม่เคยแยกจากกันเลย ใครบอกว่ามีแต่จิต ไม่มีเจตสิก คือผิด ใครบอกว่ามีแต่เจตสิก ไม่มีจิต ก็คือผิด เพราะว่าขณะใดที่จิตเกิด ขณะนั้นต้องมีเจตสิกเกิดร่วมด้วย แม้ขณะที่นอนหลับ มีจิตเกิด ก็ต้องมีเจตสิกเกิดร่วมด้วย และเวทนาความรู้สึกก็เกิดร่วมด้วยในขณะนั้น แต่เมื่อขณะนั้นไม่ได้รู้อารมณ์ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ อารมณ์นั้น หรือโลกนี้ทั้งโลกก็ไม่ได้ปรากฏเลย ไม่ว่าโลกไหนๆ ก็ไม่ปรากฏ ในสวรรค์ ขณะที่เป็นภวังคจิต ไม่รู้อารมณ์ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ก็ไม่ได้คิดนึก ขณะนั้นก็ไม่ใช่จิตประเภทนั้นๆ

พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 5


เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ