เป็นสิ่งที่มีจริงชั่วขณะที่เกิดขึ้น

 
เมตตา
วันที่  18 พ.ย. 2568
หมายเลข  51474
อ่าน  277

อ.ชุมพร: ท่านอาจารย์กล่าวถึงธรรมะแต่ละหนึ่ง แต่ในความเป็นจริงเขารวมกันเป็นโต๊ะ เป็นเก้าอี้

ท่านอาจารย์: เดี๋ยว เดี๋ยว เดี๋ยว!! ไม่ต้องรีบร้อนไปไหน แต่ความจริงเขารวมกัน เขา นั่นอะไร?

อ.ชุมพร: ทีละหนึ่ง

ท่านอาจารย์: เขา นั่นอะไร? ไม่ได้ถามว่าทีละเท่าไหร่ เขารวมกัน เขา นั่นคืออะไร?

อ.ชุมพร: เขา คือสี สิ่งที่ปรากฏทางตา

ท่านอาจารย์: เมื่อกี้ไม่ได้บอกอย่างนี้ใช่ไหม? ทบทวนใหม่ที่พูด

อ.ชุมพร: หมายความว่า ในชีวิตประจำวันเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใดไปแล้วค่ะ

ท่านอาจารย์: เพราะอะไร?

อ.ชุมพร: เพราะว่า สภาพธรรมะเกิดดับสลับกันอย่างรวดเร็วค่ะ

ท่านอาจารย์: เพราะความจริงสิ่งที่เราเข้าใจว่า หนึ่ง หาเป็นหนึ่งไม่ ใช่ไหม?

อ.ชุมพร: ใช่ค่ะ

ท่านอาจารย์: เพราะฉะนั้น ต้องฟังทุกแง่มุมระดับต่างๆ เพื่อจะได้มั่นคงในความไม่ใช่เราทีละเล็กทีละน้อยทุกครั้งที่เข้าใจละเอียดขึ้นเพิ่มขึ้น ไม่ต้องไปคิดว่า จะไปประจักษ์แจ้งโดยรวดเร็ว เป็นไปไม่ได้!! เพราะประจักษ์แจ้งการหมดกิเลสตามลำดับ หมายความว่าความไม่รู้ต้องหมดไปตามลำดับ

ความไม่รู้ความจริงของสิ่งที่กำลังปรากฏเดี๋ยวนี้ค่อยๆ หมดไปตามลำดับ มิเช่นนั้น ก็ไม่ใช่ว่า ประจักษ์แจ้ง อยู่ดีๆ ประจักษ์แจ้งได้อย่างไร ไม่รู้ว่าอะไรเดี๋ยวนี้

อ.ชุมพร: ก็เห็นฐานะของตัวเองนี่หนักหนาสาหัส แม้ฟังก็ไม่สามารถที่จะนึกถึงได้ ก็ลืมเสมอค่ะ

ท่านอาจารย์: ปัญญาที่รู้ความจริงอย่างนี้เป็นปัญญาบารมี ไม่เปลี่ยนเป็นอย่างอื่น ไม่คิดว่าง่าย ทำได้ เดี๋ยวก็รู้

อ.ชุมพร: ดังนั้น หนทางของความที่จะค่อยๆ มั่นคงในหนทางของการที่จะเข้าใจความจริง เหมือนยังไม่มั่นคงค่ะ บางทีก็มีโลภะมาแทรก ความมั่นคงที่จะมั่นคงในหนทางที่จะค่อยๆ เข้าใจขึ้นนี่ยากทีเดียวค่ะ

ท่านอาจารย์: เพราะฉะนั้น สนทนาธรรมจึงสนทนาถึงความละเอียด เพราะลืม!! ถ้าเราไปสนทนาเรื่องอื่นหมด ขันธ์ ธาตุ อายตนะ แต่ไม่รู้ความละเอียดของขณะนี้ จะถึงการที่จะเข้าใจสิ่งที่เราพูดไหม ซึ่งกำลังมีเดี๋ยวนี้อย่างนั้น

ก่อนอื่นต้องเห็นความละเอียดความลึกซึ้งที่จะไตร่ตรองธรรมะทีละหนึ่งธรรมะ จึงจะรู้ว่า ต่างกันมหาศาล จะเป็นเราไม่ได้เลย จะเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด อัตตา ไม่ได้เลย จะเป็นโลกไม่ได้เลย จะเป็นดาว ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ไม่ได้เลย เป็นอะไรไม่ได้เลยทั้งสิ้น เป็นสิ่งที่มีจริงชั่วขณะที่เกิดขึ้น อย่างนี้คลอบคลุมหมดใช่ไหม? ไม่ว่ากี่จักรวาลที่ไหนสมัยนั้น

อ.ชุมพร: เป็นเช่นนั้นค่ะ

ท่านอาจารย์: จึงเป็นธรรมะที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ เปลี่ยนไม่ได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน เกิดเมื่อไหร่

อ.ชุมพร: ท่านอาจารย์พูดถึงการอบรมที่จะไม่ลืม ท่านอาจารย์กล่าวถึงมีพระจันทร์ พระอาทิตย์ มีโต๊ะ มีเก้าอี้ กว่าจะไม่ลืมว่า สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้น ไม่มีจริงๆ นี่ยากจริงๆ เพราะมันไม่เคยที่จะไม่ลืมเลยค่ะ

ท่านอาจารย์: แล้วไม่ใช่แต่ไม่ลืมชื่อนะ เห็นไหม!! ไม่ลืมที่จะรู้ว่า ความจริงตามที่กล่าวนี่เป็นจริงอย่างนั้น ไม่ใช่ชื่อเกิดดับ แต่ความจริงของการเกิดการดับไม่ต้องเรียกชื่อก็เป็นอย่างนั้น

และลองคิดให้ละเอียดนะ ทีละหนึ่งลักษณะปรากฏ อย่างอื่นจะปรากฏร่วมด้วยได้ไหม?

อ.ชุมพร: ตรงนี้ค่ะ ยากมาก เพราะว่าไม่ค่อยใส่ใจ แต่ไปใส่ใจสิ่งอื่นในสิ่งที่ควรจะใส่ใจค่ะ

ท่านอาจารย์: เพราะฉะนั้น แม้ว่าจะเข้าใจธรรมะแล้ว แต่ธรรมะก็ไม่ได้ปรากฏดีตามพระไตรปิฎก ใช่ไหม?

อ.ชุมพร: เป็นเช่นนั้นค่ะ

ท่านอาจารย์: เพราะอะไร? เพราะหลายๆ อย่างรวมกัน เพราะฉะนั้น ยังไม่รู้ทีละหนึ่งตราบใด จะปรากฏหนึ่งนั้นดีไม่ได้ หนึ่งนั้นจะปรากฏดีไม่ได้ถ้ายังรวมกับอย่างอื่น

ทุกคำต้องละเอียดรอบคอบ ลึกซึ้ง มั่นคง เปลี่ยนไม่ได้ นี่คือคำของผู้ที่ได้ทรงตรัสรู้ พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า

อ.ชุมพร: ทีละหนึ่งไม่ได้รวมกัน ปกติแล้วรวมกัน ถ้าไม่ลืมทีละหนึ่งคือเช่นไรคะ?

ท่านอาจารย์: เห็น เป็นหนึ่งใช่ไหม?

อ.ชุมพร: ค่ะ

ท่านอาจารย์: สิ่งที่ปรากฏให้เห็น เป็นอีกหนึ่งใช่ไหม?

อ.ชุมพร: ใช่ค่ะ

ท่านอาจารย์: เดี๋ยวนี้มีทั้งสองอย่างใช่ไหม?

อ.ชุมพร: ค่ะ

ท่านอาจารย์: แต่ถ้ารู้ ต้องรู้ทีละหนึ่งใช่ไหม?

อ.ชุมพร: ถูกต้องค่ะ

ท่านอาจารย์: แปลว่า ยังไม่รู้หนึ่งใช่ไหม?

อ.ชุมพร: หมายความว่า เราไม่รู้จักความคิดของตัวเอง

ท่านอาจารย์: ไม่ใช่ ไม่ใช่ เมื่อกี้คุณชุมพรบอกว่า เห็น เป็นหนึ่งใช่ไหม?

อ.ชุมพร: ค่ะ

ท่านอาจารย์: สิ่งที่ปรากฏให้เห็น เป็นอีกหนึ่งใช่ไหม?

อ.ชุมพร: ค่ะ

ท่านอาจารย์: เพราะฉะนั้น ยังไม่รู้หนึ่ง ยังรวมกันอยู่ใช่ไหม?

อ.ชุมพร: ยังรวมกันอยู่ค่ะ

ท่านอาจารย์: แล้วจะรู้ความจริงของหนึ่งได้อย่างไร ในเมื่อความจริงหนึ่งเท่านั้นที่เกิด ไม่ได้รวมกันอย่างรวดเร็วอย่างนี้เลย

เพราะฉะนั้น โลกจึงไม่ได้ปรากฏตามความเป็นจริง นี่คือคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถ้าปรากฏแล้วตามความเป็นจริงไม่ต้องมีการตรัสรู้อะไรทั้งสิ้น

อ.ชุมพร: ค่ะ ก็ทำให้ค่อยๆ ระลึกแล้วก็มั่นคงว่า กว่าจะฟัง กว่าจะไตร่ตรอง กว่าจะค่อยๆ มั่นคงไม่ไปไหน นอกจากค่อยๆ ทีละเล็กทีละน้อยเข้าใจขึ้นค่ะ กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ เพราะว่าทุกขณะของการได้ยินได้ฟังคำกล่าวของท่านอาจารย์เป็นเรื่องอัศจรรย์มากที่จะทำให้ค่อยๆ เห็นหนทาง ค่อยๆ เห็นการที่จะค่อยๆ มั่นคงในหนทางนี้ ค่อยๆ คลายความไม่รู้ และความติดข้องอีกมากมายค่ะ

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่งค่ะ

กราบยินดีในกุศลจิตของ อ.ชุมพร ด้วยความเคารพค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
chatchai.k
วันที่ 18 พ.ย. 2568

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในกุศลจิตครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ