แยกไม่ออก อะไรเป็นเหตุ อะไรเป็นผล

 
ธรรมทัศนะ
วันที่  9 พ.ย. 2568
หมายเลข  51395
อ่าน  325

ต้องเรียนเรื่องชาติของจิตโดยละเอียดว่า จิตขณะไหนเป็นวิบาก จิตขณะไหนเป็นกิริยา จิตขณะไหนเป็นกุศล จิตขณะไหนเป็นอกุศล ไม่อย่างนั้นแยกไม่ออก วิถีจิตเกิดขึ้นรู้อารมณ์หลายวาระโดยมีภวังค์คั่นแต่ละวาระ ซึ่งวาระหนึ่งๆ ก็มีวิถีจิตหลายประเภทที่รู้อารมณ์เดียวกัน ถ้าเป็นผลของกรรม วิบากจิต ได้แก่ จักขุวิญญาณ โสตวิญญาณ ฆานวิญญาณ ชิวหาวิญญาณ กายวิญญาณ สัมปฏิจฉันนจิต สันตีรณจิต ตทาลัมพนจิต นอกจากนี้ไม่ใช่วิบาก นี่เป็นเหตุที่จะต้องรู้ว่า ในวาระหนึ่งๆ ไม่ใช่มีแต่วิบากจิต เพราะเมื่อถึงชวนะ เป็นเหตุแล้ว

ขณะใดที่โลภะเกิด รู้ได้เลยว่ายังไม่ได้ดับโลภะเป็นสมุจเฉท จึงมีเหตุปัจจัย ทำให้โลภะเกิดในขณะนี้ และโลภะไม่ใช่วิบาก ถ้าเป็นวิบากต้องเป็นผลของอกุศลกรรม ไม่ใช่ผลของอกุศลจิต ต้องเป็นผลของอกุศลกรรมที่มีเจตนาทำทุจริตกรรม

ถ้ารับประทานอร่อย ขณะนั้นเป็นโลภมูลจิต ไม่ใช่อกุศลกรรม แต่เป็นอกุศลจิต ผลของโลภมูลจิตในขณะนั้น คือ ทำให้โลภมูลจิตเกิดต่อไปข้างหน้าอีก สะสมเพิ่มขึ้นอีก

จิตเกิดขึ้นครั้งหนึ่ง ถ้าเป็นกุศล จะเป็นอกุศล เป็นวิบาก เป็นกิริยาไม่ได้ ถ้าจิตเป็นกิริยา ก็จะเป็นกุศล เป็นวิบาก เป็นอกุศลไม่ได้ ... แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 1523


รับฟัง ... อะไรเป็นเหตุ อะไรเป็นผล


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
มังกรทอง
วันที่ 9 พ.ย. 2568

แต่ละคำองค์พระศาสดา จักศึกษาจนเข้าใจ หนักแน่นไม่หวั่นไหว ด้วยเข้าใจในอนัตตา กราบอาจารย์สุจินต์ให้ เมตตาได้ทุกเวลา อีกเปี่ยมความกรุณา น้อมศรัทธาอาจารย์เทอญ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ