หมดอวิชชาเมื่อไหร่เมื่อนั้นไม่มีการเกิด ... สนทนาธรรมที่หัวหิน เช้า6/11/68

 
nattawan
วันที่  7 พ.ย. 2568
หมายเลข  51367
อ่าน  67

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

สิ่งที่มีค่าที่เงินทองเกียรติยศชื่อเสียงซื้อไม่ได้ ต้องเกิดจากความเข้าใจเมื่อได้ยินคำของพระพุทธเจ้าซึ่งเป็นความจริงพิสูจน์ได้

เป็นเราตลอดเวลา แต่พระพุทธเจ้าตรัสว่าไม่มีเรา มีแต่ธรรมะแต่ละหนึ่งซึ่งเกิดขึ้นจึงมี และกำลังเกิดดับสืบต่อตามเหตุตามปัจจัย

ไม่รู้ว่าเดี๋ยวนี้มีตาเพราะตาเกิด ถ้าไม่เกิดไม่มีตา แล้วอะไรทำให้ตาเกิด คิดเองไม่ออก พระพุทธเจ้าทรงแสดงความจริงจนถึงที่สุดว่ามีปัจจัยจึงเกิดขึ้นได้ไม่ว่าอะไร เพราะฉะนั้นแค่นี้มั่นคงไหม?!

โกรธเกิดเมื่อมีปัจจัยที่จะโกรธ ติดข้องไม่ใช่โกรธ พอใจยึดมั่นเกิดเมื่อมีสิ่งที่เป็นปัจจัยให้เกิด ทุกอย่างเกิดเองไม่ได้จะน้อยจะมากประการใดต้องมีปัจจัยให้เกิด และปัจจัยเบื้องต้นเลยจริงๆ คือความไม่รู้ แต่ก็ลืมหมดว่าเพราะไม่รู้จึงได้เกิดไม่หยุด แต่ถ้ารู้เหตุว่าอะไรทำให้เกิด ... หมดเหตุ เกิดไม่ได้!!

เพราะฉะนั้นชีวิตต้องฟังและเข้าใจว่ากำลังมีเดี๋ยวนี้อวิชชากำลังมี อวิชชาไม่รู้ความจริงของทุกอย่างที่ล้อมรอบที่มีทุกขณะ เพราะฉะนั้นเป็นปัจจัยให้เกิดสังขารปรุงแต่ง ถ้าโลกไม่เกิดไม่มีแต่มีอื่นที่ไม่ใช่โลกเพราะไม่เคยหมดปัจจัย หมดปัจจัยเมื่อไหร่ไม่มีอะไรจะเกิดต่อได้ เพราะฉะนั้นหมดอวิชชาเมื่อไหร่เมื่อนั้นไม่มีการเกิด

ถ้าปัจจุบันไม่ใช่เพียงขั้นฟัง สิ่งที่เกิดนั้นดับจะติดข้องไหมเพราะไม่เหลือ ที่ติดข้องเพราะคิดว่ามันยังเหลือ มันยังมีอยู่ตลอดเวลา นี่เป็นการเกิดดับสืบต่อ หาสิว่ามีอะไรเมื่อกี้นี้?? ถ้าไม่รู้ก็คิดว่ายังอยู่ แต่หาสิถ้ารู้ว่าเกิดแล้วดับ ... จะมีไหม?? สิ่งที่ดับไม่เหลือ!!

ยังสงสัยไหมฟังธรรมะ คือธรรมะมีจริงเดี๋ยวนี้และฟังเพื่อเข้าใจ ใครก็ตามที่ฟังแล้วไม่เข้าใจไม่มีประโยชน์เลย ฟังแล้วอยากโน่นอยากนี่ อยากทำอยากรู้อยากหมดกิเลสก็ไม่มีประโยชน์ ยังไม่รู้จักว่าเดี๋ยวนี้คือกิเลสอะไร ... มีหรือเปล่า?!

มีเหตุสะสมมาทำให้เกิดไม่จบไม่เคยหยุด เหตุมากมายมหาศาล เดี๋ยวนี้ไม่รู้อะไรนั่นแหละเป็นเหตุ เป็นเหตุให้คิดให้จำให้ทำได้สารพัดอย่าง เพราะฉะนั้นฟังคำของพระพุทธเจ้าเพื่อรู้จักพระพุทธเจ้า เมื่อเข้าใจความจริงเห็นพระคุณสูงสุดในสังสารวัฏ ไม่เคยรู้เลยว่าท่ามกลางสิ่งที่ปรากฏมีความไม่รู้ในสิ่งที่ปรากฏ แล้วจะหมดความไม่รู้ได้ยังไง??

เหมือนว่าสว่าง มีคน มีแก้วน้ำ แต่ความจริงไม่มี ห่างกันไหมกับความจริง กับการหลงติดข้องจนกว่าจะได้ฟังคำของพระพุทธเจ้า จนกว่าเดี๋ยวนี้เพียงหนึ่งจึงจะปรากฎว่าหนึ่งนี้ไม่ใช่หนึ่งอื่น จนกว่าจะปรากฏชัดการเกิดขึ้นการดับไป เพราะฉะนั้นประโยชน์ของการฟัง เข้าใจเมื่อไหร่ประโยชน์มหาศาล

กราบเท้าบูชาคุณพระอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในความดีของทุกท่านค่ะ

ภาพ พี่แอ๊วนภา ขออนุโมทนาค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
chatchai.k
วันที่ 7 พ.ย. 2568

ฟังเพื่อเข้าใจ

ยังสงสัยไหมฟังธรรม คือธรรมมีจริงเดี๋ยวนี้และฟังเพื่อเข้าใจ ใครก็ตามที่ฟังแล้วไม่เข้าใจไม่มีประโยชน์เลย ฟังแล้วอยากโน่นอยากนี่ อยากทำ อยากรู้ อยากหมดกิเลสก็ไม่มีประโยชน์ ยังไม่รู้จักว่าเดี๋ยวนี้คือกิเลสอะไร มีหรือเปล่า

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในกุศลจิตครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ