มีชีวิตอยู่ในห้วงน้ำ

 
ธรรมทัศนะ
วันที่  27 ต.ค. 2568
หมายเลข  51291
อ่าน  536

ทุกๆ วัน ทุกๆ ขณะที่มีชีวิตอยู่ ไม่ได้อยู่บนบก อยู่ในน้ำ อยู่ในห้วงน้ำ อยู่ในห้วงของกามโอฆะ ภวโอฆะ ทิฏฐิโอฆะ อวิชชาโอฆะ ซึ่งการเจริญสติปัฏฐานเป็นปกติในชีวิตประจำวันไม่ใช่การว่ายน้ำบนบก การเจริญสติแต่ละขณะจะทำให้สามารถไปถึงฝั่งบนบกได้ ถ้าสติไม่ระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรม ก็ยังมีอวิชชาอยู่


เปิดฟัง ...

โอฆะ คือ ห้วงน้ำ

อย่าเชื่อทันที ต้องพิจารณา

ในพระไตรปิฎก เรื่องของโอฆะ ๔ คำว่า โอฆะ คือ ห้วงน้ำ ได้แก่ อกุศลธรรม ๔ ประเภท คือ

๑. กาโมฆะ (กาม-โอฆะ) ความยินดีพอใจในรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ เป็นห้วงน้ำที่ทำให้สัตว์โลกจมอยู่ในวัฏฏะ

เป็นปกติในชีวิตประจำวันไหม มีความยินดีพอใจในรูป ในเสียง ในกลิ่น ในรส ในโผฏฐัพพะ หรือว่าใครไม่มี ทุกวันๆ นี้อยู่ในห้วงน้ำ หรืออยู่บนบก เพราะฉะนั้น ในปกติประจำวันนั้นทุกคนไม่ได้อยู่บนบก ซึ่งขณะใดที่สติระลึกรู้ลักษณะของนามและรูป ในขณะนั้นเป็นการว่ายเพื่อจะให้ถึงฝั่ง คือ การพ้นจากโอฆะทั้ง ๔

๒. ภโวฆะ (ภพ-โอฆะ) ความยินดีพอใจในภพ ในชาติ ในขันธ์

๓. ทิฏโฐฆะ (ทิฏฐิ-โอฆะ) ห้วงน้ำ คือ ความเห็นผิด ยึดถือนามรูปว่าเป็นตัวตน เป็นสัตว์ เป็นบุคคล จมอยู่อีกแล้วในห้วงน้ำของทิฏฐิ เพราะว่าสติไม่ได้ระลึกรู้ลักษณะของนามและรูปตามความเป็นจริง ในขณะใดที่สติไม่ได้ระลึกรู้ลักษณะของนามและรูป ในขณะนั้นไม่ได้ว่าย ยังไม่สามารถไปถึงฝั่งได้เลย คงจมอยู่ในห้วงของโอฆะ

๔. อวิชโชฆะ (อวิชชา-โอฆะ)

ถ้าสติไม่ระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรม ก็ยังมีอวิชชาอยู่

เพราะฉะนั้น ทุกๆ วัน ทุกๆ ขณะที่มีชีวิตอยู่ ไม่ได้อยู่บนบก อยู่ในน้ำ อยู่ในห้วงน้ำ อยู่ในห้วงของกามโอฆะ ภวโอฆะ ทิฏฐิโอฆะ อวิชชาโอฆะ ซึ่งการเจริญสติปัฏฐานเป็นปกติในชีวิตประจำวันไม่ใช่การว่ายน้ำบนบก การเจริญสติแต่ละขณะจะทำให้สามารถไปถึงฝั่งบนบกได้ [ตอนที่ 155]


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
chatchai.k
วันที่ 27 ต.ค. 2568

การว่ายเพื่อจะให้ถึงฝั่ง

เป็นปกติในชีวิตประจำวันไหม มีความยินดีพอใจในรูป ในเสียง ในกลิ่น ในรส ในโผฏฐัพพะ หรือว่าใครไม่มี ทุกวันๆ นี้อยู่ในห้วงน้ำ หรืออยู่บนบก เพราะฉะนั้น ในปกติประจำวันนั้นทุกคนไม่ได้อยู่บนบก ซึ่งขณะใดที่สติระลึกรู้ลักษณะของนามและรูป ในขณะนั้นเป็นการว่ายเพื่อจะให้ถึงฝั่ง คือ การพ้นจากโอฆะทั้ง ๔

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในกุศลจิตครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
สิริพรรณ
วันที่ 27 ต.ค. 2568

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงอุปมาให้เห็นโทษของกิเลสไว้มากมาย ถ้าไม่ได้ฟังพระธรรม ก็ไม่รู้ว่าเป็นผู้จมในห้วงน้ำ เกลียวน้ำวนๆ ดึงดูดให้จมลง พอใจ ติดข้อง รัก ชัง ยึดถือ ในสิ่งที่กระทบทุกทวาร

ขอถวายความนอบน้อมแด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้นด้วยเศียรเกล้า

กราบบูชาพระคุณท่านอาจารย์ผู้แสดงคำของพระองค์ให้เข้าใจในความละเอียดที่ทรงแสดง ให้รู้ว่าวนเวียนอยู่ในวัฏฏะ ไม่พ้นไปจากการเกิด และการตาย เพราะความไม่รู้ความจริง

อนุโมทนากุศลธรรมทานค่ะ

ศึกษาพระธรรมเพิ่มเติมที่

ปฐมทารุขันธสูตร ว่าด้วยอุปมาการท่องเที่ยวในสังสารวัฏฏ์กับท่อนไม้ลอยน้ํา

โอฆะ ๔ ห้วงน้ำของกิเลส

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
ก.ไก่
วันที่ 27 ต.ค. 2568

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
มังกรทอง
วันที่ 27 ต.ค. 2568

ธรรมมีมานัสพร้อม รับฟัง อันเกิดกุศลดัง ธาตุรู้ จิตเจตสิกเป็นพลัง เสริมส่ง หนุนแฮ กราบอาจารย์สุจินต์ผู้ เปี่ยมด้วยเมตตา

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
talaykwang
วันที่ 27 ต.ค. 2568

"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็บุคคลที่โผล่ขึ้นมาได้กลับจมลงไป อย่างไร บุคคลบางคนในโลกนี้ โผล่ขึ้นมาได้ คือ เขามีธรรม คือ ศรัทธา หิริ โอตตัปปะ วิริยะ ปัญญาชั้นดีๆ ในกุศลธรรมทั้งหลาย แต่ศรัทธาของเขานั้นไม่คงที่ ไม่เจริญขึ้น เสื่อมไปฝ่ายเดียว หิริ โอตตัปปะ วิริยะ ปัญญาของเขานั้น ไม่คงที่ ไม่เจริญขึ้น เสื่อมไปฝ่ายเดียว ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลที่โผล่ขึ้นมาแล้ว กลับจมลง อย่างนี้แล."

ศึกษาเพิ่มเติม

๕. อุทกูปมสูตร


ขอนอบน้อมแด่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่ง

กราบขอบพระคุณและยินดียิ่งในกุศลผู้มีคุณทุกท่านทุกประการ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ