โลกไม่มีสาระ ไม่ยั่งยืน

 
ธรรมทัศนะ
วันที่  21 ต.ค. 2568
หมายเลข  51243
อ่าน  365

ไม่มีสาระ เพราะเป็นแต่เพียงชั่วขณะจิตเดียวที่เกิดขึ้นและหมดไป คือ ไม่ยั่งยืน ความคิดเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยแล้วดับ ไม่มีอะไรเลยสักอย่างเดียว ซึ่งเกิดแล้วไม่ดับ ถ้ายังยึดถือมั่นในความคิดว่า เป็นตัวตน เป็นเรา นั่นคือความเห็นผิด แต่ผู้ที่มีปัจจัยที่จะให้คิดเพราะว่าเมื่อเห็นแล้วก็ต้องคิด เมื่อได้ยินแล้วก็ต้องคิด เมื่อได้กลิ่นก็ต้องคิด เมื่อลิ้มรสก็ต้องคิด คิดอยู่ตลอด แม้จะไม่เห็น ไม่ได้ยิน ไม่ได้กลิ่น ไม่ลิ้มรสก็คิด แต่ควรจะรู้ความจริงด้วยว่า ความคิดไม่เที่ยง เป็นเพียงชั่วขณะจิตที่เกิดขึ้นและดับไป


รับฟัง ...

โลกไม่มีสาระ ไม่ยั่งยืน

สภาพของโลก คือ สภาพของจิต จะรู้ว่า ที่ว่าไม่มีสาระนั้น หมายความถึงไม่ยั่งยืน ต้องเข้าใจด้วยว่า ที่ไม่มีสาระ คือ ไม่ยั่งยืน ความคิดเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยแล้วดับ ไม่มีอะไรเลยสักอย่างเดียวซึ่งเกิดแล้วไม่ดับ ถ้ายังยึดถือมั่นในความคิดว่า เป็นตัวตน เป็นเรา นั่นคือความเห็นผิด แต่ผู้ที่มีปัจจัยที่จะให้คิดเพราะว่าเมื่อเห็นแล้วก็ต้องคิด เมื่อได้ยินแล้วก็ต้องคิด เมื่อได้กลิ่นก็ต้องคิด เมื่อลิ้มรสก็ต้องคิด คิดอยู่ตลอด แม้จะไม่เห็น ไม่ได้ยิน ไม่ได้กลิ่น ไม่ลิ้มรสก็คิด แต่ควรจะ รู้ความจริงด้วย ซึ่งจะทำให้มีความสุขสงบเพิ่มขึ้นเมื่อรู้ความจริงว่า ความคิดไม่เที่ยง เป็นเพียงชั่วขณะจิตที่เกิดขึ้นและดับไป

เพราะฉะนั้น ไม่มีการไปบังคับบัญชาความคิด หรือไม่มีการไปเปลี่ยนแปลงการสะสมของเหตุปัจจัย แต่ปัญญาสามารถหยั่งลึกถึงการสะสมว่า เพราะเหตุใด จึงคิดอย่างนี้ เพราะว่าบางคนคิดเป็นอกุศลมากเหลือเกิน และบางคนก็คิดเป็นกุศล ซึ่งแล้วแต่การสะสม เพราะคงไม่มีใครอยากมีความคิดในทางอกุศลเท่านั้น มีแต่ อกุศลทั้งวันคงแย่ เพราะฉะนั้น ก็มีกุศลวิตกด้วย และกุศลวิตกที่ควรจะเพิ่มกำลังขึ้น คือ ต้องประกอบด้วยปัญญาที่รู้ความจริงว่า แม้ขณะที่คิดก็เป็นชั่วขณะจิตเดียว

ทุกคนที่วุ่นวายอยู่ในโลกและก็จากโลกนี้ไป ลืมหมด จะไปวุ่นวายกับโลกนี้ เมื่อไปเกิดที่อื่นก็เป็นไปไม่ได้ แต่จะวุ่นวายต่อไปกับความคิดในโลกอื่น ซึ่งไปเกิดเป็นบุคคลนั้นบุคคลนี้ในภพอื่น

พอที่จะเห็นด้วยไหมกับคำพูดที่ว่า ไม่มีสาระ เพราะว่าเป็นแต่เพียงชั่วขณะจิตเดียวที่เกิดขึ้นและหมดไป แต่ไม่ใช่หมายความว่า ไม่มีการรู้ว่าสิ่งที่เห็นเป็นอะไร ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้ว มีชีวิตอยู่ไม่ได้แน่นอน [ตอนที่ 2039]


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
chatchai.k
วันที่ 22 ต.ค. 2568

จากโลกนี้ไป ลืมหมด

ทุกคนที่วุ่นวายอยู่ในโลกและก็จากโลกนี้ไป ลืมหมด จะไปวุ่นวายกับโลกนี้ เมื่อไปเกิดที่อื่นก็เป็นไปไม่ได้ แต่จะวุ่นวายต่อไปกับความคิดในโลกอื่น ซึ่งไปเกิดเป็นบุคคลนั้นบุคคลนี้ในภพอื่น

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในกุศลจิตครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
มังกรทอง
วันที่ 22 ต.ค. 2568

สนทนาธรรมเกิดขึ้น กุศลมี ฟังธรรมะในดิถี ถูกต้อง อาจารย์สุจินต์ศรี เป็นหลัก จิตเจตสิกรูปสอดคล้อง มั่นแฟ้นคำจริง

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ