ขอสอบถามเรื่อง ผู้ที่มีปฏิสนธิจิต ที่เป็นอุเบกขาสันตีรณกุศลวิบากจิต ครับ
จากความเข้าใจเบื้องต้นจากการอ่าน เข้าใจว่า มนุษย์ที่ปฏิสนธิด้วย อุเบกขาสันตีรณกุศลวิบาก ทำให้เกิดความพิการ (บ้า ใบ้ บอด หนวก)
แต่มนุษย์เกิดในครรภ์มารดา ซึ่งในปัจจุบันพอจะทราบว่า ระหว่างทางตั้งแต่หลังปฏิสนธิ จะมีรูปที่ค่อยๆ เกิดเพิ่มขึ้นๆ ซึ่งกว่าจะคลอดนั้น มารดาอาจได้รับสาร หรือยาบางอย่างที่ทำทำให้รูปบางรูปเกิดไม่ได้
ทำให้การเกิด (โดยสมมติ) หมายถึง ตอนคลอดจากครรภ์มารดา กลายเป็นคนพิการได้เหมือนกัน ดังนั้นด้วยความเข้าใจระดับนี้ จึงไม่สามารถทราบได้เลยว่า คนพิการที่เราได้พบเจอนั้น เป็นผู้ที่ปฏิสนธิด้วย อุเบกขาสันตีรณกุศลวิบาก จริงๆ หรือไม่ แม้จะทราบว่าพิการตั้งแต่คลอด หรือตั้งแต่ ultrasound ก็ตาม
จึงอยากขอความละเอียดเพิ่มเติมจากพระธรรมครับ
กราบขอบพระคุณครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ที่ชัดเจนที่สุด ก็คือ ปฏิสนธิจิตของผู้นั้น เป็นวิบากอย่างอ่อน คือ อุเบกขาสันตีรณกุศลวิบาก จึงหมายรู้ได้ว่าเป็นผู้พิการ บ้าใบ้ บอด หนวก ตั้งแต่กำเนิด
แต่ละคน เป็นแต่ละหนึ่ง ไม่เหมือนกัน แต่เมื่อว่าโดยสภาพธรรมแล้ว ที่เหมือนกัน คือ มีความเกิดขึ้นเป็นไปของธรรม คือ จิต เจตสิก และ รูป เสมอกันโดยความเป็นธรรม แต่ที่ต่างกัน คือ การสะสม และ ผลของกรรมที่ได้กระทำแล้ว
ที่เกิดมาพิการ หรือ ไม่พิการ นั้น กรรมที่ได้กระทำแล้ว เป็นเครื่องจัดสรร ไม่มีใครทำให้เลย ไม่มีใครบังคับให้เป็นอย่างนั้นได้เลย แต่เป็นไปแล้ว ตามสมควรแก่เหตุ คือ กรรม ที่ได้กระทำแล้ว เป็นไปนั่นเอง
การเกิดในภพหนึ่งชาติหนึ่งนั้น เป็นวิบากจิต เป็นผลของกรรม ขึ้นอยู่กับว่าจะเป็นผลของกรรมประเภทใด ถ้าเป็นผลของอกุศลกรรม ก็ทำให้เกิดในอบายภูมิอย่างเดียว, แต่ถ้าเป็นผลของกุศลกรรม ก็ทำให้เกิดในสุคติภูมิ ตามสมควรแก่กรรม ทั้งที่ประกอบด้วยเหตุ ๓ หรือ เหตุ ๒ หรือไม่ประกอบด้วยเหตุใดๆ เลย
การเกิดเป็นมนุษย์ผู้พิการบ้า บอด หนวกตั้งแต่กำเนิด (ผิดปกติตั้งแต่เกิด) เป็นผลของกุศลที่มีกำลังอ่อน เช่น มหากุศลดวงที่ ๘ ไม่ประกอบด้วยปัญญา มีเวทนาเป็นอุเบกขา เป็นจิตที่มีกำลังอ่อน มหากุศลดวงนี้เวลาจะให้ผล ก็จะไม่ให้ผลเป็นอกุศลวิบากเลย เพราะเป็นไปไม่ได้ที่กุศลกรรมจะให้ผลเป็นอกุศลวิบาก แต่จะให้ผลเป็นกุศลวิบากประเภทที่เป็นอุเบกขาสันตีรณกุศลวิบาก อันเป็นผลมาจากเหตุคือกุศลที่มีกำลังอ่อน ทำให้เกิดเป็นมนุษย์ผู้พิการ บ้า บอด หนวกตั้งแต่กำเนิด ซึ่งจะแตกต่างจากผลของอกุศลกรรม ที่ทำให้เกิดในอบายภูมิเท่านั้น
แต่ถ้าเป็นผู้ผิดปกติหลังจากที่เกิดแล้ว นั้น เป็นผลของอกุศลกรรม ซึ่งเหตุย่อมสมควรแก่ผล เพราะการให้ผลของกรรม นั้น ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น เป็นไปตามเหตุตามปัจจัยจริงๆ ถึงแม้ว่าผู้กระทำอกุศลกรรม จะลืมไปแล้วว่าตนเองได้กระทำอะไรไว้บ้างทั้งในชาตินี้และในชาติก่อนๆ แต่กรรมไม่ลืมที่จะให้ผล ถ้าไม่มีเหตุ คือ กรรมที่ได้กระทำมาแล้ว ผลที่จะเกิดย่อมมีไม่ได้ แต่เพราะมีเหตุคือกรรมที่ได้กระทำแล้ว เมื่อได้โอกาสที่กรรมจะให้ผล ผลจึงเกิดขึ้น
ดังนั้น ควรที่จะได้พิจารณาว่า เราไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นแม้ในขณะต่อไป ขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ ควรที่จะได้สะสมความดีและฟังพระธรรมให้เข้าใจ ต่อไป เพราะความดี เท่านั้น ที่จะเป็นเหตุให้ได้รับผลที่ดี ไม่ใช่ อกุศลกรรม เพราะอกุศลกรรม ให้ผลเป็นทุกข์โดยส่วนเดียว ครับ
... ยินดีในกุศลของคุณ stfurol และทุกๆ ท่านด้วยครับ ...

