ขอทราบแนวทางการแก้ไขการติดสมาธิ
เนื่องด้วยดิฉันก่อนหน้าฟังพระธรรมกับมูลนิธิ เคยฝึกมิจฉาสมาธิมาก่อน และมักติดไปรู้ลมหายใจ จากการฟังธรรมท่านอาจารย์ก็ทราบว่าไม่ควรทำ ฟังธรรมทุกวันมาประมาณ 2 เดือน ฟังธรรมไปก็เข้าใจธรรมมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ทุกครั้งที่นอนหรือนั่งว่างๆ จิตจะเข้าจับลมหายใจเสมอๆ โดยเฉพาะเวลานอนเพราะก่อนหน้านี้เคยทำมาบ่อยๆ จะจับอยู่ไม่ยอมคลาย จนรู้สึกว่าจะมีลักษณะของวิปัสสนูปกิเลส คือ มีสติรู้ทั่วไปหมดทั้งที่สติเป็นอนัตตาจากการฟังธรรม และจะรู้สึกเหมือนอยากรู้อะไร ก็มีลักษณะของการรู้ธรรมไปหมด เข้าใจธรรมะไปหมด มีความคิดลอยมาว่าได้บรรลุธรรม แต่สังเกตและระลึกได้จากการฟังธรรมว่าไม่ใช่อย่างแน่นอน ไปค้นคว้าและอ่านพบว่าเป็นวิปัสสนู
ขอเรียนถาม เนื่องจากการที่จิดไปจับลมหายใจแม้ว่าจะเข้าใจว่าไม่ให้ทำจากการฟังธรรม แต่บังคับจิตไม่ได้เลย เหมือนจิตไปจับลมหายใจเองทุกครั้ง และไม่ยอมถอน และไม่ยอมหลับ คือ จับลมหายใจไปเรื่อยๆ หลายชั่วโมง ลุกมาทำอย่างอื่นเพื่อเปลี่ยนอิริยาบถ เมื่อลงไปนอนจะไปจับลมหายใจตลอด และทราบว่ามีวิปัสสนูปกิเลสเกิด ไม่ทราบว่ามีแนวทางแก้ไขหรือไม่อย่างไร
ก่อนหน้านี้เคยมีลักษณะแบบนี้เกิดขึ้นมาก่อน แต่ไม่ทราบว่าเป็นวิปัสสนู และไม่มีสติควบคุมทำให้จิตเลื่อนลอยเกือบวิปลาส และต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเกือบเดือน ครั้งนี้ได้ฟังธรรมก็มีความเข้าใจว่าไม่ให้ทำอะไรอย่างที่ท่านอาจารย์สอน แค่ระหว่างวัน พิจารณากุศล อกุศลที่เกิด บางครั้งทราบถึงสภาวะที่มีสติระลึกได้ กับหลงลืมสติ อย่างไรก็ตามช่วงนี้มีอาการจิตไปจับลมหายใจมากทุกคืน จนรู้สึกว่าเริ่มเกิดวิปัสสนู ทราบแต่ จิตไม่ปล่อยเลยค่ะ มีทางแก้ไขอย่างไรบ้างหรือไม่ ขออนุญาตเรียนถามค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
พระธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนา พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงไว้โดยละเอียดโดยประการทั้งปวง รวมถึงเรื่องสมาธิด้วย แต่ไม่ได้สอนให้ไปทำ หรือไปฝึกสมาธิ แต่ทรงแสดงธรรมตามความเป็นจริงเนื่องจากว่า สมาธิ มีทั้งสัมมาสมาธิ และมิจฉาสมาธิ มีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เพราะเมื่อว่าโดยสภาพธรรมแล้ว สมาธิเป็นเอกัคคตาเจตสิก เป็นสภาพธรรมที่ตั้งมั่นในอารมณ์ ขึ้นอยู่กับว่าจะเกิดกับจิตประเภทใด
ถ้าไม่ฟัง ไม่ได้ศึกษาพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ย่อมไม่มีความเข้าใจถูกเห็นถูก มีแต่ความเห็นผิดคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง แต่สำคัญผิดว่าเป็นสิ่งที่ถูก ก็สอนในสิ่งผิดๆ ให้กับผู้อื่นเป็นการเผยแพร่ความเห็นผิด ทำให้คนอื่นประพฤติผิดตามไปด้วย เป็นอันตรายอย่างยิ่ง เพราะฉะนั้นแล้ว ที่ดีที่สุด ควรที่จะได้ตั้งต้นที่การฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมให้เข้าใจ ไม่ควรไปทำอะไรตามใครด้วยความไม่รู้ ดังนั้น พฤติกรรมทั้งหมดที่ปรากฏในประเด็นคำถาม คือ ความไม่รู้เป็นหลักสำคัญเลย เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว สิ่งที่ผิด ขอให้ทิ้งไปได้เลยไม่ต้องไปเสียดาย เพราะไม่ทำให้เกิดความเข้าใจอะไรเลย แล้วมาฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมด้วยความเคารพละเอียดรอบคอบ สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปทีละเล็กทีละน้อย ครับ
... ยินดีในกุศลของคุณ s.anantanond และทุกๆ ท่านด้วยครับ ...
ถ้าไม่ฟัง ไม่ได้ศึกษาพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ย่อมไม่มีความเข้าใจถูกเห็นถูก มีแต่ความเห็นผิดคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง แต่สำคัญผิดว่าเป็นสิ่งที่ถูก ก็สอนในสิ่งผิดๆ ให้กับผู้อื่นเป็นการเผยแพร่ความเห็นผิด ทำให้คนอื่นประพฤติผิดตามไปด้วย เป็นอันตรายอย่างยิ่ง
ยินดีในกุศลจิตครับ


