สิ่งที่เป็นที่สุดในโลกคืออะไร?

 
สามารถ
วันที่  7 ต.ค. 2550
หมายเลข  5038
อ่าน  2,207

สิ่งที่เป็นที่สุดในโลก คืออะไรครับสิ่งที่เป็นที่สุดเมื่อมีโลกเกิดขึ้นแล้ว คืออะไรครับสิ่งที่ตั้งอยู่เป็นหัวใจของโลก คืออะไรครับ


Tag  โลก  
  ความคิดเห็นที่ 1  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 7 ต.ค. 2550

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

ก่อนอื่น ต้องเข้าใจก่อนครับว่า โลกคืออะไร โลก มี ๓ อย่างคือ สังขารโลก โอกาสโลก สัตวโลก

สังขารโลกคือ สภาพธัมมะที่มีจริง ในขณะนี้คือ รูปธรรมและนามธรรม เช่น ธาตุดิน น้ำ ไฟ ลม จิต เจตสิก เป็นต้น

โอกาสโลก ก็คือจักรวาลต่างๆ เป็นต้น

สัตวโลก ก็คือ หมู่ สัตว์ต่างๆ

เมื่อพิจารณาจะเห็นได้ว่า ถ้าไม่มีสภาพธัมมะที่มีจริง (สังขารโลก) เช่น ธาตุ ดิน น้ำ ไฟ ลม หรือ จิต เป็นต้น จะมีจักรวาล สิ่งต่าง วัตถุต่างๆ ไหม ไม่ได้เลยครับ ถ้า ไม่มีจิต จะมีมนุษย์ไหม จะมีสัตว์ได้หรือไม่ ก็ไม่ได้เช่นกัน

ดังนั้นโลกที่ควรรู้จักตามความเป็นจริงคือ สังขารโลก (สภาพธัมมะที่มีจริงในขณะนี้) ที่เราหลงยึดถือว่า เป็นเรา หลงว่าเป็นเราที่เห็น ทั้งๆ เป็นจิตเห็น เป็นต้น ดังนั้น สิ่งที่เป็นที่สุดของโลก คือการรู้ โลกตามความเป็นจริง (สังขารโลก) ว่าเป็นธรรม ไม่ใช่เรา จนสามารถดับกิเลสหมดไม่เหลือ ไม่ต้องเกิดอีก (โลกไม่เกิดอีก) นี่คือสิ่งที่เป็นที่สุดของโลก เพราะเมื่อดับกิเลสหมดก็ไม่ต้องเกิดอีก ก็คือสิ้นสุดโลกที่จะต้องเกิดขึ้นและดับไปอีกนั่นเองครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 7 ต.ค. 2550

ดังนั้น การจะถึงความเป็นที่สุดของโลก ไม่ใช่ด้วยการเดินทางไปตามจักรวาล เพราะก็ต้องเกิดตายอีกไม่สิ้นสุดโลก แต่การเข้าใจความจริงของสภาพธัมมะที่มีในขณะนี้ (สติ ปัฏฐาน) เป็นหนทางไปสู่การสิ้นที่สุดโลก คือดับกิเลสหมดด้วยพระนิพพานครับ

ส่วนคำถามที่ว่า สิ่งที่ตั้งอยู่เป็นหัวใจของโลก คืออะไรนั้น ถ้าไม่มีสิ่งที่เกิดขึ้น คือสภาพธัมมะที่มีจริงในขณะนี้ จะมีอะไรตั้งอยู่ ดังนั้น เมื่อเกิดขึ้นจึงมีสิ่งที่ตั้งอยู่ อะไรเกิดขึ้นหละ ก็สภาพธัมมะที่มีจริงในขณะนี้เองครับ นั้นก็คือ ปรมัตถธรรม ที่เป็นนามธรรมและรูปธรรมที่มีปัจจัยปรุงแต่ง จึงเกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไปครับ เชิญอ่านข้อความในพระไตรปิฎกครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 7 ต.ค. 2550
 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 7 ต.ค. 2550

เรื่อง อะไรเกิดขึ้น โลกจึงเกิดขึ้นก็คือสภาพธัมมะที่มีจริงเกิดขึ้น โลกจึงเกิดขึ้นและตั้งอยู่และดับไป บุคคลผู้มีปัญญาน้อย ย่อมไม่รู้ตามความเป็นจริงว่าเป็นธรรม ไม่ใช่เรา ก็ยึดถือว่าเป็นเรา เป็นสัตว์บุคคล ก็ย่อมเดือดร้อนเพราะความแปรปรวนเป็นธรรมดาครับ

...เชิญคลิกอ่าน...

โลกสูตรขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
ครูโอ
วันที่ 7 ต.ค. 2550

...เชิญคลิกอ่าน...

ข้อความบางตอนจาก...

ความหมายของโลก [อรรถกถาโลกสูตร]

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
ครูโอ
วันที่ 7 ต.ค. 2550

ตามความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ

๑. ที่สุดของโลก (สุดหนทางแห่งการเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะ) คือปรินิพพานของพระอรหันต์ ซึ่งไม่ต้องกลับมารับผลของวิบากกรรมอีก จึงได้พบสุขที่เที่ยง เป็นสุข สิ้นทุกข์ทั้งปวง

๒. สิ่งที่เป็นที่สุดเมื่อมีโลกเกิดขึ้นแล้วคือทุกข์ เช่นเมื่อโลกทางตาเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป สูญหมดแล้ว เป็นธรรมที่มีสภาพที่บีบคั้นตัวเอง จึงทุกข์ เพราะไม่สามารถจะดำรงอยู่ได้ตลอด ยิ่งไปกว่านั้นที่เป็นทุกข์ตามมามากขึ้นก็เพราะความไม่รู้ จึงไม่สามารถจะประจักษ์แจ้งอริยสัจธรรม หลงไปยึดขันธ์ ๕ เอาไว้ เช่น ยึดสิ่งที่เกิดทางตาว่าเป็น ของๆ ตน (อุปาทานขันธ์) แล้วก็สั่งสมอกุศลให้มากขึ้นจากอารมณ์ที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจของโลกที่เกิดทางทวาร ต่างๆ ไว้ในจิตอีกไม่รู้จบ

๓. ตามข้อ ๒ ไม่มีธรรมใดตั้งอยู่ได้ตลอด แต่หัวใจของโลกคือ สิ่งที่มีลักษณะความเป็นจริงที่เป็นไปอย่างเดียวกันทุกโลก ตั้งแต่โลกทางตา......โลกทางใจ จะไม่พ้น ไปจากพระไตรลักษณะ อันได้แก่ "ความไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และการมีสภาพที่ว่างจาก ตน" ครับ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
wannee.s
วันที่ 9 ต.ค. 2550

ที่สุดของโลก คือการพ้นจากโลก ไม่เกิดอีกเลย

ขออนุโมทนา

 

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
orawan.c
วันที่ 9 ต.ค. 2550

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
สามารถ
วันที่ 10 ต.ค. 2550

ขอบพระคุณครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
arin
วันที่ 11 ต.ค. 2550

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
พุทธรักษา
วันที่ 20 ต.ค. 2550

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
chatchai.k
วันที่ 30 พ.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ 

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
yu_da2554hotmail
วันที่ 1 มี.ค. 2566

ยินดีในกุศลจิตค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ