ได้ฟังมาอย่างนี้ว่า .......

 
DEEPKUNG
วันที่  6 ต.ค. 2550
หมายเลข  5029
อ่าน  959

เมตตา ===>มีความเป็นมิตร เท่ากันเสมอกัน

กรุณา ===> เข้าใจ และ เห็นใจ

มุทิตา ===> พลอยยินดี เมื่อใครๆ รับ ผลของกุศล

อุเบกขา==> วางเฉย เมื่อ ใครๆ รับผลของอกุศล

สองรายการสุดท้ายคิดเอง อะครับ :)

ขอนอบน้อม พระปัญญาคุณ

ขอคารวะ ธรรมะที่อาจารย์ อดทนสั่งสอนครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
study
วันที่ 8 ต.ค. 2550

เชิญคลิกอ่านได้ที่...

พรหม [ท่านผู้ประเสริฐสุด]

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
ครูโอ
วันที่ 8 ต.ค. 2550

พรหมวิหาร ๔ คือ ธรรมอันเป็นที่ตั้งของผู้ประเสริฐ ถ้าเป็นความเข้าใจในชื่อ เราก็คงเคยอ่านเจอในหนังสือต่างๆ หรือรู้ความหมายมาบ้างแล้ว แต่ในความเป็นจริง พรหมวิหาร ๔ นั้น เป็นกุศลขั้นสูงที่ปุถุชนผู้ที่มีกิเลสเยอะอย่างเราเจริญได้ยากมากๆ ท่านผู้ที่จะอบรมเจริญพรหมวิหาร ๔ ได้จะต้องอาศัยการสั่งสมปัญญามา ที่จะเห็นโทษภัยของอกุศลที่เกิดแม้ประมาณน้อย และจะต้องเป็นผู้ที่มีสติระลึกรู้โดยละเอียดจริงๆ ว่า อกุศลเกิดมากมายแค่ไหนในแต่ละวัน แล้วจึงจะเริ่ม เจริญกุศลฌาณในแต่ละขั้นให้เกิดมากขึ้น แทนการเกิดของอกุศลได้ แต่จะสามารถบรรลุอรหัตมรรคได้ ก็ต่อเมื่อได้เจริญฌาณในสมถวิปัสสนาที่ควบคู่ไปกับการเจริญวิปัสสนาญาณที่จะทำให้สามารถประจักษ์แจ้งแทงตลอดในสภาพจริงของปรมัตถธรรมโดยละเอียดครับ

เชิญคลิกอ่านได้ที่...

พรหมวิหาร ๔ [อรรถกถาเมตตาสูตร]
ถ้าเราได้ศึกษาโดยละเอียดขึ้น เราก็จะเริ่มรู้จักตัวเองตามความเป็นจริงว่าเราสามารถที่จะอบรมเจริญพรหมวิหาร ๔ ในชีวิตประจำวันได้หรือไม่ ปกติเราเห็นประโยชน์ของกุศลทุกประการจริงๆ หรือยัง เมื่อเราเห็นว่า ต้องเป็นผู้ที่มีปัญญาขั้นสูงที่สั่งสมมาที่จะเห็นโทษของอกุศล ที่ไม่ใช่แค่เพียงโทษของโทสะที่เกิดกับจิต แต่รวมไปถึงโทษของโลภะที่ทำให้เกิดการติดข้อง ชอบพอ ในทุกๆ สิ่งด้วย เราก็จะไม่ฝืนไปอบรมในสิ่งที่เรายังทำไม่ได้ แต่จะเปลี่ยนเป็น การเริ่มอบรมเจริญปัญญาให้เกิดความเห็นถูกในพระธรรมคำสอนของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าก่อนครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
chatchai.k
วันที่ 30 พ.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ 

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
yu_da2554hotmail
วันที่ 1 มี.ค. 2566

ยินดีในกุศลจิตค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ