ไม่ใช่มีแต่ทุกข์
ไม่ใช่ว่าผู้ที่เจริญสติปัฏฐานจะรู้แต่ทุกข์ ถ้าเป็นอย่างนั้นจะถูกหรือผิด เพราะเวทนามีถึง ๓ บางครั้งก็เฉยๆ เป็นอุเบกขาเวทนา บางครั้งก็เป็นโสมนัสเวทนา หรือสุขเวทนา และบางครั้งก็เป็นทุกขเวทนา ให้ทราบว่า ธรรมทั้งหลายเป็นปกติ เป็นธรรมดา เป็นสิ่งที่มีจริง เป็นสิ่งที่มีหนทางจะปฏิบัติให้รู้ความจริงของธรรมนั้นๆ ได้
ใน สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค ชัมพุขาทกสังยุต
ชัมพุขาทกปริพาชกได้สนทนากับท่านพระสารีบุตร กล่าวถึงหนทางใดที่ทำให้รู้ธรรมได้ อย่างเวทนา ๓ ได้แก่ สุขเวทนา ทุกขเวทนา อุเบกขาเวทนา เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องมี ความสุขทุกคนก็ต้องมี อุเบกขาก็ต้องมี ทุกขเวทนาก็ต้องมี ไม่ใช่ว่ามีแต่ทุกข์
ไม่ใช่จะมีแต่ทุกข์ที่สติจะต้องระลึกรู้ แต่ไม่ว่าขณะใดบุคคลใดมีเวทนาใดสติก็ระลึกรู้ได้ เมื่อสติระลึกรู้ลักษณะของสิ่งที่กำลังปรากฏในขณะนั้น ก็สามารถรู้ลักษณะของความรู้สึกในขณะนั้นตามความเป็นจริงได้ ไม่ว่าจะเป็น สุขเวทนา สติก็ระลึกรู้ตามความเป็นจริงว่า ไม่ใช่ตัวตน เป็นแต่เพียงสภาพนามธรรมที่เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยเท่านั้น หรือในขณะใดที่เป็นทุกข์ โทมนัส ในขณะนั้นก็เป็นแต่เพียงสภาพความรู้สึกชนิดหนึ่ง ซึ่งเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยเท่านั้น หรือในขณะที่เป็นอุเบกขาก็เหมือนกัน
ให้ทราบว่า ธรรมทั้งหลายเป็นปกติ เป็นธรรมดา เป็นสิ่งที่มีจริง เป็นสิ่งที่มีหนทางจะปฏิบัติให้รู้ความจริงของธรรมนั้นๆ ได้ ผู้ที่เจริญสติปัฏฐานสามารถรู้ลักษณะของเวทนา หนทางซึ่งเป็นปฏิปทาที่จะให้รู้เวทนา ๓ นั้น คือ มรรคมีองค์ ๘ นั่นเอง [ตอนที่ 78]
เปิดฟัง ...
ชัมพุขาทกปริพาชกสนทนากับพระสารีบุตร

สนทนาธรรมเกิดขึ้น กุศลมี ฟังธรรมะในดิถี ถูกต้อง อาจารย์สุจินต์ศรี เป็นหลัก จิตเจตสิกรูปสอดคล้อง มั่นแฟ้นคำจริง



