เครื่องกั้น

 
nattawan
วันที่  22 มิ.ย. 2568
หมายเลข  50228
อ่าน  237

ใครก็ตามที่ไม่ได้สะสมศรัทธาและฉันทะมาที่จะรู้และเข้าใจความจริงในสิ่งที่กำลังปรากฎในขณะนี้ ก็จะไม่ฟังและศึกษาพระธรรม ก็เป็นเรื่องธรรมดา เพราะทั้งหมดคือความเป็นธรรมดา แต่ถ้าได้ศึกษาและสะสมมาที่จะเข้าใจในสิ่งที่กำลังปรากฏในขณะนี้ ศึกษาพระธรรมแล้วก็จะมีความตั้งมั่นเกิดขึ้น

การศึกษาธรรมะเพื่อให้เข้าใจความจริงว่าไม่ทีใครสามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้เลย เพราะมีเพียงสิ่งที่มีจริง ไม่ใช่เรา รู้อย่างนี้จึงมีปัญญาที่จะอบรมและสะสมเพื่อให้เกิดความรู้แจ้งในอริยสัจธรรม

เพียงแค่ไม่ฟังธรรมก็เป็น เครื่องกั้น แล้ว

ทั้งหมดคือธรรมดาที่กำลังปรากฏขณะนี้ เป็นธรรมะ เป็นอนัตตา


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
nattawan
วันที่ 22 มิ.ย. 2568

คนที่ประมาทในการเจริญสติ วันหนึ่งๆ ชีวิตก็ผ่านไป ด้วยการที่เพลิดเพลินไปทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ หลงยึดถือเป็นไปกับการเป็นตัวตน แต่ว่าผู้ที่เห็นโทษเห็นภัย ย่อมระลึกได้ สติอาจจะเกิดน้อยในตอนต้น อาจจะวันละนิดวันละหน่อย ก็ยังดีกว่าที่สติไม่เคยเกิดเลย ไม่เคยพิจารณาลักษณะของนามและรูปเลย

แนวทางเจริญวิปัสสนา ครั้งที่ 74

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
nattawan
วันที่ 22 มิ.ย. 2568

ธรรมของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อผู้ใดศึกษาเข้าใจและปฏิบัติ ก็ย่อมจะทำให้คลายความทุกข์ คลายความกังวลได้ ไม่ว่าจะอยู่ในที่ใด เป็นผู้ที่ไม่เหงา เป็นผู้ที่ไม่ตรึกไปในสิ่งที่ไร้สาระ แต่ว่ามีสติพิจารณาธรรม พร้อมกันนั้น เมื่อได้ความเข้าใจแล้ว ก็ระลึกรู้ลักษณะของนามและรูปที่ดำลังปรากฏ

แนวทางเจริญวิปัสสนา ครั้งที่ 73

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
nattawan
วันที่ 22 มิ.ย. 2568

คุณของสติ คือ การระลึกได้ มีอุปการะที่ว่า ถ้าผู้ใดเจริญสติเนืองๆ บ่อยๆ เวลาที่สติเกิดขึ้น ก็สามารถที่จะเป็นผู้ที่ละอกุศลธรรมในขณะนั้น ตามขั้นของสติ ถ้าเป็นผู้ที่เจริญสติปัฏฐานเนืองๆ บ่อยๆ เวลาที่อกุศลธรรมนั้นๆ เกิดขึ้น สติก็ระลึกรู้ลักษณะของนามและรูปในขณะนั้น แล้วก็ถึงที่ดับของกิเลสได้แน่นอน

แนวทางเจริญวิปัสสนา ครั้งที่ 72

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
nattawan
วันที่ 22 มิ.ย. 2568

เวลาที่โกรธ บางคนก็หมดไปโดยง่าย แต่ว่าบางคนยังผูกโกรธ คือ ความโกรธนั้นรัดรึงใจไว้บ่อยๆ เดี๋ยวนึกขึ้นมาก็โกรธอีกแล้ว เดี๋ยวก็โกรธ ทำไมเรื่องนั้นนิดเดียว แต่โกรธต่อไปอีกได้ตั้งนาน นั่นเป็นความผูกโกรธ แต่ว่า ผู้มีสติ ระลึกได้อีกแล้ว เพราะฉะนั้น สติเป็นสิ่งที่มีอุปการะคุณมาก ไม่ได้เป็นโทษเป็นภัยอะไรเลย

แนวทางเจริญวิปัสสนา ครั้งที่ 72

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
nattawan
วันที่ 22 มิ.ย. 2568

ถ้าเป็นผู้สามารถจะเข้าใจคำเพียงที่ตรัสไว้ว่า “ธรรมทั้งหลายเป็น
อนัตตา” ได้จริงๆ ธรรมทั้งหลายย่อมเกิดจากเหตุปัจจัยได้จริงๆ เมื่อดับเหตุปัจจัยนั้น ธรรมนั้นก็ย่อมดับด้วย ถ้าเข้าใจจริงๆ แล้ว ก็เป็นอันว่าเหมือนกับได้ศึกษาพระธรรมทั้งหมดที่ได้ทรงแสดง

แนวทางเจริญวิปัสสนา

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
chatchai.k
วันที่ 22 มิ.ย. 2568

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในกุศลจิตครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ