ผลชั่วคราว ผลอันเห็นเอง
ผลชั่วคราว คือ ขณะที่สติระลึกแล้วรู้ แล้วก็หมด แล้วก็หลงลืมสติอีก ส่วนผลอันเห็นเอง คือ ปัญญารู้สภาพธรรมที่ปรากฏถูกต้องตามความเป็นจริง จึงชื่อว่าเห็น เวลานี้ใครจะเห็นเป็นรูป เป็นเสียง เป็นกลิ่น เป็นรส เป็นโผฏฐัพพะ เป็นสัตว์ เป็นบุคคล เป็นทรัพย์สมบัติต่างๆ ชื่อว่าท่านเห็นหรือยัง
รับฟัง ...
สังยุตตนิกาย สคาถวรรค
ใน ตติยวรรคที่ ๓ สัมพหุลสูตร ที่ ๑ (ข้อความบางตอน)
มารผู้มีบาปเนรมิตเพศเป็นพราหมณ์มุ่นชฎาใหญ่ นุ่งหนังเสือ กล่าวแก่ภิกษุเหล่านั้นว่า
ท่านบรรพชิตผู้เจริญทั้งหลาย ล้วนแต่เป็นคนหนุ่มกระชุ่มกระชวย มีผมดำประกอบด้วยความหนุ่มแน่น ยังไม่เบื่อในกามารมณ์ทั้งหลายด้วยปฐมวัย ขอท่าน จงบริโภคกามอันเป็นของมนุษย์ อย่าละผลอันเห็นเอง วิ่งไปสู่ผลชั่วคราวเลย
ภิกษุเหล่านั้นตอบว่า
ดูกร พราหมณ์ พวกเราย่อมไม่ละผลอันเห็นเอง วิ่งไปสู่ผลชั่วคราว แต่เราทั้งหลายละผลชั่วคราว วิ่งไปสู่ผลอันเห็นเอง
ดูกร พราหมณ์ เพราะว่ากามทั้งหลาย พระผู้มีพระภาคตรัสว่า เป็นของชั่วคราว มีทุกข์มาก มีความคับแค้นมาก โทษในกามทั้งหลายมีโดยยิ่ง ธรรมนี้มีผลอันเห็นเอง ให้ผลไม่จำกัดกาล เป็นของควรเรียกกันมาดู ควรน้อมมาไว้ในตน อันวิญญูชนทั้งหลายพึงรู้ได้เฉพาะตน
โดยมากชาวโลกคิดว่า ผลที่ได้รับ คือ ทรัพย์สมบัติ เงินทอง รูป เสียง กลิ่นรส โผฏฐัพพะ อิฏฐารมณ์ที่ประณีต ที่น่าพอใจ เป็นผลที่เห็นกันอยู่ในโลกนี้เพราะฉะนั้น มารจึงกล่าวกับภิกษุเหล่านั้นว่า อย่าละผลอันเห็นเอง วิ่งไปสู่ผลชั่วคราวเลย
ผลชั่วคราว คือ ขณะที่สติระลึกแล้วรู้ แล้วก็หมด แล้วก็หลงลืมสติอีก มารเห็นว่าเป็นผลชั่วคราว เพราะเหตุว่าสติระลึกเมื่อไร ก็ได้ผล หรือรู้ผลเมื่อนั้น เพราะฉะนั้น เป็นผลชั่วคราวที่นานๆ จะเกิด ส่วนผล คือ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะที่ชาวโลกปรารถนา ต้องการ เป็นอิฏฐารมณ์ที่ประณีตต่างๆ ชาวโลกมีความปรารถนาว่า เป็นผลที่ต้องการกันนัก เพราะฉะนั้น มารก็กล่าวกับท่านพระภิกษุเหล่านั้นว่า อย่าละผลอันเห็นเอง ในขณะนี้ที่เป็นรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะที่ประณีตนี้เลย อย่าได้วิ่งไปสู่ผลชั่วคราว เพราะเห็นว่าการที่สติจะระลึกรู้ลักษณะของนามธรรมและรูปธรรมในบางขณะนั้น เป็นเพียงผลชั่วคราวเท่านั้น
ผลอันเห็นเอง คือ ปัญญารู้สภาพธรรมที่ปรากฏถูกต้องตามความเป็นจริง จึงชื่อว่าเห็น เวลานี้ใครจะเห็นเป็นรูป เป็นเสียง เป็นกลิ่น เป็นรส เป็นโผฏฐัพพะ เป็นสัตว์ เป็นบุคคล เป็นทรัพย์สมบัติต่างๆ ชื่อว่าท่านเห็นหรือยัง ยังไม่เห็น และสิ่งที่เป็นรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะที่น่าปรารถนา ที่คิดว่าเป็นผลนี้ ก็ชั่วคราวเหลือเกิน คือ ปรากฏเพียงนิดเดียวแล้วก็หมดไป ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์ที่ประณีตสักเท่าไรที่ท่านได้รับ ที่ท่านกำลังยินดีพอใจอย่างยิ่ง ก็หมดไปทางตาบ้าง ทางหูบ้าง ทางจมูกบ้าง ทางลิ้นบ้าง ทางกายบ้าง ทางใจบ้าง เพราะฉะนั้น ผลอย่างนี้ต่างหากที่เป็นผลชั่วคราว ไม่ยั่งยืน ไม่ใช่เป็นปัญญาที่รู้จริงและรู้แจ้งในสภาพธรรมที่ปรากฏตามความเป็นจริง [ตอนที่ 294]
รับฟัง ... สัมพหุลสูตร

