เมตตา ไม่มีประมาณ : ขันติ กับการทำงาน
บันทึกการสนทนาธรรม (บางตอน) โดย ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์ รัชตะ รัชตะนาวิน กับ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่ Maison Mystique เขาใหญ่ ๑ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๘
- เขาร้ายสักเท่าไหร่ เพราะเขาไม่รู้ และ ถ้าเขารู้ เขาไม่ร้ายอย่างนั้น!!
- เพราะฉะนั้น เราจะรู้ประโยชน์จริงๆ ว่า อะไรล่ะ ที่จะเป็นประโยชน์ ความเข้าใจถูกต้องตามความเป็นจริงจะเป็นไปเอง ไม่ว่าเจอใครเราก็รู้ว่า..แค่เห็น.. คนที่ไม่รู้จักก็เป็นธรรม รักสุขเกลียดทุกข์กันทั้งนั้น ไม่มีใครอยากทำชั่ว แต่ทำ เพราะไม่รู้!!
- ถ้ารู้ว่าเขากำลังว่าเรา เพราะเขาไม่รู้ จะโกรธไหม? ถ้าโกรธเมื่อไหร่ เราไม่รู้ว่าโกรธนั้นเป็นทุกข์ เกิดแล้วกับเรา ทำร้ายเรา!!
- ใครพูดร้ายแต่เราพูดดี ใครก็รู้ว่าอะไรดี แล้วเราก็รู้ ใช่ไหม? ขณะนั้นพูดดี เพราะไม่โกรธ พูดดีเพราะเข้าใจ พูดดีเพราะเห็นใจ
- เพราะฉะนั้น ได้ฟังคำเดียวว่า "เมตตา" เข้าใจความจริงหรือเปล่าว่า เมตตาคือความเป็นมิตร เป็นมิตรคือไม่ทำร้ายมิตร ถ้ามีเพื่อนหลายคนแล้วเราคิดทำร้ายคนนั้น คนนี้ เราไม่ได้เมตตา ไม่ได้เป็นมิตรกับเขาเลย
- เพราะฉะนั้น มิตรไม่ทำร้ายมิตร ไม่ทำร้ายใครเลยทั้งสิ้น!!
- "ความเมตตา ไม่มีประมาณ" เป็นคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ใช่ให้เมตตาเฉพาะคนดี เพราะว่า เมตตาคนไม่ดี อดทนไหม? ด้วยปัญญาที่รู้ความจริง ไม่ใช่ด้วยเรา พยายามจะไปอดทน!! นั่นคือเข้าใกล้ความเป็นจริงว่าเป็นธรรม มั่นคงในความดีว่า ความดี ก็ให้ผลที่ดี ความไม่ดี ความไม่รู้ จะให้ผลที่ดี ไม่ได้!!
- ถ้าเป็นมิตร อภัยไหม? ถ้ามิตรทำผิด หรือ พูดไม่ดีกับเรา!! และนอกจากมิตร คนอื่นที่ร้าย พูดไม่ดีกับเรา อภัยไหม? "อภัย" คือ ใจที่ไม่เป็นโทษกับเขา ไม่ทำอะไรสักอย่าง ทั้งกาย ทั้งวาจา ที่จะเป็นโทษกับคนนั้น ใจขณะนั้นก็สบาย วาจาก็ดี กายก็ดี ไม่ต้องไปคิดว่าจะอดทน ต่างกันแล้วใช่ไหม กับความไม่รู้และ "เป็นเรา" ที่จะอดทน!!
ขอเชิญติดตามบันทึกการสนทนาฉบับเต็ม (ต้นฉบับ) ได้ที่ลิงก์ด้านล่าง :
ขอเชิญติดตามเรื่องที่เกี่ยวข้อง ได้ที่ลิงก์ด้านล่าง :
- ณ กาลครั้งหนึ่ง ที่ Maison Mystique เขาใหญ่ ๓๑ มกราคม - ๑ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๘