ผู้ที่สอนสิ่งที่ไม่จริง เป็นมุสาวาท

 
nattawan
วันที่  5 เม.ย. 2568
หมายเลข  49698
อ่าน  187

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

สุ. ข้อความตอนหนึ่งในอรรถกถามีว่า ผู้ที่สอนสิ่งที่ไม่จริง เป็นมุสาวาท มุสาวาทในที่นี้หมายความว่า คำที่สอนทั้งหมดเป็นสิ่งที่ไม่จริง ไม่เป็นเหตุ ไม่เป็นผล ไม่เป็นหนทางที่แท้จริงที่จะให้เกิดปัญญาได้ เพราะฉะนั้น คำสอนนั้นๆ ทั้งหมด เป็นมุสาวาท แต่ถ้าเป็นพระธรรมเทศนาที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดง เป็นความจริงทั้งหมด ไม่ตรัสมุสาวาทเลย

ผู้ฟังต้องเป็นผู้ที่พิจารณาด้วยเหตุผล โดยมีพระธรรมเป็นสรณะ และเป็นผู้ที่สามารถคิดพิจารณาด้วยตนเองได้ ถ้ามีใครบอกว่า ให้ละกิเลส กิเลสอะไร มีสิทธิ์ที่จะถามได้ ขอความรู้ว่า กิเลสอะไร และขณะนี้มีกิเลสไหม ถ้าขณะนี้มีกิเลส จะละกิเลสขณะนี้ได้อย่างไร และสภาพธรรมใดเป็นสภาพธรรมที่ละกิเลส

ทาน ละกิเลสได้ไหม อโลภะ ละกิเลสได้ไหม อโทสะ ดับกิเลสได้ไหม หรือ ต้องเป็นปัญญาจึงจะละอวิชชาได้ เพราะว่ากิเลสทั้งหลายมีอวิชชาเป็นมูล ถ้าไม่มีอวิชชา กิเลสทั้งหมดเกิดไม่ได้เลย และการที่จะมีวิชชาซึ่งตรงกันข้ามกับอวิชชา ต้องรู้ว่า ขณะนี้ไม่รู้อะไร และขณะนี้มีกิเลสอะไร ถ้าไม่รู้ในขณะนี้จะไปละกิเลส กันที่ไหน ก็ขณะนี้กำลังมีกิเลสแต่ไม่ละ จะไปละกิเลสอะไร ขณะหน้าก็ยังไม่มาถึง แต่ขณะที่กำลังเห็นทางตาในขณะนี้ ถ้าไม่เข้าใจ หรือสติสัมปชัญญะไม่เกิด สติปัฏฐานไม่เกิด ทันทีที่เห็น อกุศลจิตก็เกิดแล้ว รวดเร็วอย่างนั้น แต่ไม่รู้

ขณะนี้ที่เห็น และมีกิเลสเป็นโลภมูลจิตบ้าง โทสมูลจิตบ้าง หรือโมหมูลจิตบ้าง จะละกิเลสในขณะนี้ได้อย่างไร ถ้าขณะนี้ไม่ละกิเลส ขณะหน้าก็ยังไม่มาถึง จะละกิเลสได้อย่างไร ต้องเป็นผู้ที่มีเหตุผล ถ้าขาดเหตุผลก็เป็นมุสาวาท คือ เป็นคำไม่จริง เพราะฉะนั้น ต้องเข้าใจทั้งสมมติและปรมัตถ์ ไม่ใช่เข้าใจสมมติอย่างเดียว และจะรู้แจ้งอริยสัจจธรรมได้

ที่มา และ รับฟังเพิ่มเติม ...

แนวทางเจริญวิปัสสนา ครั้งที่ 1951

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
chatchai.k
วันที่ 5 เม.ย. 2568

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในกุศลจิตครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ