สิ่งที่วัดไม่ได้ ! [อรรถกถา พรหมมายุสูตร]

 
แล้วเจอกัน
วันที่  29 ก.ย. 2550
หมายเลข  4961
อ่าน  1,049

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ เล่ม ๒ ภาค ๒ - หน้าที่ 364

ข้อความบางตอนจาก อรรถกถา พรหมมายุสูตร

ได้ยินมาว่า พราหมณ์คนใดคนหนึ่งในกรุงราชคฤห์ฟังมาว่า เขาเล่าลือกันว่า ใครๆ

ไม่สามารถวัดประมาณ (ขนาด) ของพระสมณโคดมได้ จึงในเวลาที่พระผู้มีพระภาค

เจ้าเสด็จเข้าไปบิณฑบาต เขายืนถือไม่ไผ่ยาวหกสิบศอก .อยู่ภายนอกประตูเมือง

พอพระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จถึง จึงถือไม้ไผ่ยืนอยู่ใกล้ๆ . ไม้ไผ่ยาวเพียงพระ

ชานุของพระผู้มีพระภาค. วันรุ่งขึ้น เขาเอาไม้ไผ่ต่อเข้า ๒ ลำ แล้วได้ยืน

เทียบอยู่ในที่ใกล้ๆ . พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่าพราหมณ์ ท่านทำอะไรปรากฏแต่เพียงไม้ไผ่ ๒ ลำ (ต่อ) บนไม้ไผ่ ๒ ลำ.

พ. ข้าพระองค์จะวัดขนาดของพระองค์.

ภ. พราหมณ์ แม้หากว่าท่านเอาไม้ไผ่มาต่อจนเต็มห้องจักรวาลทั้ง

สิ้นแล้ว ยืนเทียบอยู่ในที่ใกล้ ท่านก็ไม่อาจวัดขนาดของเราได้ เพราะเราบำเพ็ญ

บารมีมาสิ้นสี่อสงไขยแสนกัป โดยประการที่คนอื่นจะพึงวัดขนาดของเรานั้นหา

มิได้ พระตถาคตนับคำนวณไม่ได้ ประมาณไม่ได้ ดังนี้แล้วตรัสพระคาถาใน

พระธรรมบท. ในเวลาจบพระคาถา สัตว์แปดหมื่นสี่พันดื่มน้ำอมฤตแล้ว.


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 29 ก.ย. 2550

พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ เล่ม ๒ ภาค ๒ - หน้าที่ 364

ข้อความบางตอนจาก อรรถกถา พรหมมายุสูตร

ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง. เขาว่า ท้าวอสุรินทราหูสูงถึงสีพันแปดร้อยโยชน์ระหว่าง

แขนกว้างหนึ่งพันสองร้อยโยชน์. ฝ่ามือฝ่าเท้ากว้างสามร้อยโยชน์. ข้อนิ้วมือห้าสิบ

โยชน์. ระหว่างคิ้วกว้างห้าสิบโยชน์. หน้าผากกว้างสามร้อยโยชน์.ศีรษะเก้าร้อย

โยชน์. ท้าวราหูนั้นไม่มาเฝ้าด้วยคิดว่า เราสูง ไม่อาจก้มดูพระศาสดา. วันหนึ่ง

ได้ฟังการพรรณนาคุณของพระผู้มีพระภาคเจ้า จึงเสด็จมาเฝ้าด้วยความคิดเสียว่า

จักดูตามแต่จะดูได้

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 29 ก.ย. 2550

พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบอัธยาศัยของท้าวเธอ จึงทรงพระดำริว่า เราจักแสดงโดย

อิริยาบถไหนในบรรดาอิริยาบถทั้ง ๔ แล้ว ทรงดำริสืบไปว่า ธรรมดาคนยืนแม้จะต่ำ

ก็ปรากฏเหมือนว่าสูง เราจักนอนแสดงตนแก่ท้าวเธอ ดังนี้แล้ว ตรัสว่า อานนท์

เธอจงลาดเตียงน้อย ณ บริเวณพระคันธกุฎี แล้วทรงสำเร็จสีหไสยาสน์บนเตียง

น้อยนั้น.ท้าวราหูเสด็จมา แล้วชะเง้อคอมองดูพระผู้มีพระภาคเจ้าที่ทรงบรรทมอยู่.

เหมือนแหงนคอดูพระจันทร์เพ็ญในท่ามกลางนภากาศ ฉะนั้น. และเมื่อพระผู้มีพระ

ภาคเจ้าตรัสว่า นี้อะไรกัน จอมอสูรก็กราบทูลว่า ข้าพระองค์ไม่มาเฝ้าด้วยคิด

ว่า ข้าพระองค์ไม่อาจก้มดูพระผู้มีพระภาคเจ้า. พระศาสดาตรัสว่า จอมอสูร เรา

มิได้บำเพ็ญบารมี เหมือนอย่างก้มหน้า เราให้ทานกระทำให้มีผลเลิศ ชั้นสูงทั้ง

นั้น. วันนั้น ท้าวราหูได้ถึงสรณะ. พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงมีโอกาสมิใช่น้อยที่จะ

ได้เห็นด้วยประการอย่างนี้.

ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 30 ก.ย. 2550

สิ่งที่วัดไม่ได้ คือ อวิชชาที่ทำให้เราวนเวียนอยู่ในสังสารวัฏฏ์ที่ยาวนาน หาเบื้องต้น เบื้องปลายไม่มีที่สุด

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
wannee.s
วันที่ 30 ก.ย. 2550

พระพุทธเจ้าทรงแสดงสติปัฏฐานเพื่อให้รู้จักโลกทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
ครูโอ
วันที่ 30 ก.ย. 2550

บารมีไหนก็ให้ผลอยู่ในวัฏฏะ...แต่บารมีของพระพุทธเจ้านำไวไนยสัตว์ออกจากวัฏฏะโดยแท้ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
อิสระ
วันที่ 30 ก.ย. 2550

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
natthaset
วันที่ 30 ก.ย. 2550

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
Komsan
วันที่ 30 ก.ย. 2550

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
ตุลา
วันที่ 1 ต.ค. 2550

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
orawan.c
วันที่ 3 ต.ค. 2550

ขออนุโมทนา

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ