ณ กาลครั้งหนึ่ง ที่ โรงพยาบาลตำรวจ ๔ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
เมื่อวันอังคารที่ ๔ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ประธานกรรมการมูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา และ คณะอาจารย์ มศพ. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ อรรณพ หอมจันทร์ อาจารย์วิชัย เฟื่องฟูนวกิจ อาจารย์คำปั่น อักษรวิลัย ได้รับเชิญจากคณะกรรมการแผ่นดินธรรมแผ่นดินทอง โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อไปสนทนาธรรม ณ ห้องประชุมชัยจินดา ๑ อาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ (มภร) ชั้นที่ ๒๐ โรงพยาบาลตำรวจ ระหว่างเวลา ๑๓.๐๐ น. - ๑๕.๓๐ น.
ในการนี้ พลตำรวจโท ไพบูลย์ เจียมอนุกูลกิจ นายแพทย์ สบ 8 โรงพยาบาลตำรวจ ที่ปรึกษาคณะกรรมการแผ่นดินธรรมแผ่นดินทอง โรงพยาบาลตำรวจ สมาชิกชมรมบ้านธัมมะ มศพ. ลำดับที่ ๕๔๙๐ พลตำรวจตรีหญิง พันวดี รัตนสุมาวงศ์ นายแพทย์ สบ 7 ประธานคณะกรรมการแผ่นดินธรรมแผ่นดินทอง โรงพยาบาลตำรวจ พร้อมด้วยคณะทำงาน ให้การต้อนรับ
ข้อความบางตอนจากการสนทนา :
ท่านอาจารย์ : เป็นอีกวันหนึ่ง ที่มีโอกาสจะปลาบปลื้มยินดีในกุศล ที่มีโอกาสได้ฟัง ซ้ำแล้ว ซ้ำอีก "พระรัตนตรัย" ไตรคือสาม รัตนะ - สิ่งที่ประเสริฐที่สุด ทุกคำมีความหมาย ประเสริฐที่สุดคือที่สุด เหนือสิ่งอื่นสิ่งใดทั้งสิ้น!!
เพราะฉะนั้น "พระรัตนตรัย" เพียงแค่ได้ฟังก็เบิกบาน เพราะมีโอกาสจะได้รู้สิ่งที่ประเสริฐที่สุด ไม่ใช่เฉพาะเดี๋ยวนี้ (แต่) ในสังสารวัฏ ทั้งในอดีต ขณะนี้ และต่อไป ถ้าไม่เห็นคุณค่าสูงสุด สิ่งนั้นจะเป็นรัตนะไม่ได้!!
แต่เมื่อรู้คุณสูงสุดในสังสารวัฏ ทำให้เบิกบานใจ ที่ได้มีผู้ที่ทำให้ จากความไม่รู้ ความติดข้อง ความทุกข์ ความไม่เที่ยง ทุกอย่างมี แล้วก็หามีไม่ เกิดมานี่เกิดแล้ว แต่จะจากโลกนี้ไปเมื่อไหร่ ไม่มีใครรู้ และก่อนจะจากไป เกิดมาเพื่ออะไร? ซ้ำแล้ว ซ้ำอีก ตั้งแต่เกิดจนตาย
เกิดมา "เห็น" เกิดมา "ได้ยิน" เกิดมา "ได้กลิ่น" เกิดมา "ลิ้มรส" เกิดมา "รู้สิ่งที่กระทบสัมผัสกาย" แล้ว "คิดนึก" เท่านั้นเอง ใช่ไหม? แล้วก็ผ่านไป!! เห็นก็ผ่านไป ได้ยินก็ผ่านไป ทุกขณะเป็นความจริง ซึ่งทำให้รู้ว่า จะอยู่ในโลกนี้อีกไม่นาน ไม่มีใครที่จะอยู่ตลอดไป แม้พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระรัตนะที่หนึ่ง พระสาวก รัตนะที่สาม
ส่วนพระธรรม มีจริง แต่ไม่มีใครเห็นความเป็นรัตนะ เพราะเหตุว่า ถ้าไม่มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แม้ได้ยินคำว่า "ธรรมะ" เป็นคำในภาษาที่ชาวมคธีใช้ แต่ว่าคำนี้ก็ไปในทุกภาษา ที่มีการได้ยินได้ฟังคำว่า "พุทธศาสนา" แต่ว่าทุกคำ ถ้าจะเข้าใจความลึกซึ้ง เมื่อปัญญาค่อยๆ เข้าใจ จะเห็นค่ามหาศาล
ปัญญาคือความรู้ แต่ความรู้มีหลายขั้น ถ้าไม่ใช่ความรู้ที่เป็นประโยชน์ จะป็นปัญญาได้ไหม? เพราะฉะนั้น ความรู้ที่เป็นประโยชน์เหนือสิ่งใดทั้งสิ้น คือ สิ่งที่มีจริงเดี๋ยวนี้!! แล้วใครรู้ความจริง? ต้องเป็นผู้ที่ประเสริฐแน่ ถ้าไม่ได้ยินคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะไม่รู้เลยว่า เดี๋ยวนี้ สิ่งที่กำลังปรากฏ ถ้าพระองค์ไม่ทรงตรัสรู้ ไม่ทรงแสดง ใครก็ไม่สามารถจะรู้ความจริงได้
เพราะฉะนั้น ใครก็ตาม ที่มีโอกาสได้ฟัง ไม่เผิน ฟังแล้วไตร่ตรองทุกคำ มีประโยชน์ทุกคำ อาจจะคิดว่าเป็นคำเล็กๆ น้อยๆ ธรรมดา แต่ทุกคำคือสิ่งที่มีจริง ในทุกชีวิต ไม่ว่าชีวิตนั้นจะสุขจะทุกข์ประการใด สิ่งที่มีจริงขณะนั้น ถ้าไม่มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้และทรงแสดง ใครจะรู้ความจริงได้
พิสูจน์ได้เลย เดี๋ยวนี้!! เหมือนทุกคนกำลังนั่งอยู่ที่นี่ ทั้งเห็น ทั้งได้ยิน แล้วพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตรัสว่าอย่างไร? ถ้าไม่ได้ฟังไม่มีทางรู้เลย!! สิ่งที่ดูเหมือนธรรมดา เกิดมาก็ทุกวัน เดี๋ยวก็กิน เดี๋ยวก็นอน เดี๋ยวก็ทำงาน เดี๋ยวก็สนุกสนาน เดี๋ยวก็เป็นทุกข์ แล้วก็หมดไป!! ไม่มีอะไรเหลือเลย!! ต้องรอจนถึงวันตายเท่านั้นหรือ? จึงจะรู้ว่าทุกสิ่งหมดไป!!
ซึ่งตามความเป็นจริง แม้ "เห็น" เดี๋ยวนี้ก็หมดไปแล้ว!! "ได้ยิน" เมื่อกี้นี้ก็หมดไปแล้ว!! "คิด" เมื่อกี้นี้ก็หมดไปแล้ว!! ไม่มีอะไรไม่หมดไปเลย แต่ไม่ปรากฏ เพราะลึกซึ้ง!!
เพราะฉะนั้น ต้องฟังคำของผู้ที่ได้ทรงตรัสรู้ แล้วรู้ว่า ถ้าพระองค์ไม่ทรงแสดงความจริง ไม่มีใครสามารถจะรู้ความจริงนี้ได้เลย เป็นพระมหากรุณาอย่างยิ่ง คนที่ได้ฟังแล้วรู้ว่าเป็นสิ่งซึ่งคิดไม่ถึง จนกระทั่งเหลือเชื่อ ไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่ผู้ที่ได้ประจักษ์ความจริงนั้น ได้ทรงประจักษ์แล้ว
เพราะฉะนั้น เริ่มฟังทุกคำ ด้วยความเคารพสูงสุด จึงมีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง!!
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 215
"..ทรัพย์เครื่องปลื้มใจอย่างใดอย่างหนึ่ง ในที่นี้ หรือในโลกอื่น หรือรัตนะใดอันประณีตในสวรรค์ ทรัพย์เครื่องปลื้มใจและรัตนะนั้นที่เสมอด้วยพระตถาคต ไม่มีเลย แม้อันนี้เป็นรัตนะอันประณีตในพระพุทธเจ้า ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดีจงมี ... "
กราบเท้าบูชาคุณ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
ยินดีในกุศลของทุกๆ ท่าน
- ขอเชิญติดตามบันทึกการสนทนาธรรมในครั้งนี้ ได้ที่ลิงก์ด้านล่าง :
ขอเชิญติดตามบันทึกการสนทนาที่เกี่ยวข้อง ได้ที่ลิงก์ด้านล่าง :
- ณ กาลครั้งหนึ่ง ที่ โรงพยาบาลตำรวจ ๑๐ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๖
- ณ กาลครั้งหนึ่ง ที่ โรงพยาบาลตำรวจ ๑๕ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
- ณ กาลครั้งหนึ่ง ที่ โรงพยาบาลตำรวจ ๓๐ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
- ณ กาลครั้งหนึ่ง ที่ โรงพยาบาลตำรวจ ๒๔ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ : เฉลิมพระเกียรติ ๗๒ พรรษา
- ณ กาลครั้งหนึ่ง ที่ อาคารศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาบุคคลากรและสวัสดิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ๙ ตุลาคม ๒๕๖๗