สังขารเกิดดับสืบต่อเร็วสุดที่จะประมาณ [อรรถกถาชวนหังสชาดก]
[เล่มที่ 60] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก เล่ม ๓ ภาค ๖ - หน้า 234
อรรถกถาชวนหังสชาดก
พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร ทรงพระปรารภพระเทศนาทัฬหธัมมธนุคคหสูตร ตรัสพระธรรมเทศนานี้ มีคำเริ่มต้นว่า "อิเธว หํส นิปต" ดังนี้.
ความพิสดารว่า จำเดิมแต่วันที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสพระสูตรนี้ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนนายขมังธนูมีธรรมมั่นคง ๔ นาย ฝึกฝนดีแล้ว มีมือได้ฝึกปรือแล้ว ยิงแม่นยำ ยืน ๔ ทิศ ลำดับนั้น บุรุษคนหนึ่งมา เขาจักจับลูกศรของนายขมังธนูผู้มีธรรมมั่นคง ๔ นายเหล่านี้ ที่ฝึกฝนดีแล้ว มีมือได้ฝึกปรือแล้ว ยิงแม่นยำ ยิงไปทั้ง ๔ ทิศไม่ทันตกถึงดินเลย แล้วนำมาให้ได้ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พวกเธอจะสำคัญความข้อนั้นเป็นอย่างไร บุรุษผู้วิ่งไปด้วยความเร็ว ต้องประกอบด้วยความเร็วอย่างยอดเยี่ยม เมื่อภิกษุทั้งหลาย กราบทูลรับว่า อย่างนั้นพระเจ้าข้า จึงตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความเร็วของบุรุษจะเป็นปานใด ความเร็วของดวงจันทร์ดวงอาทิตย์ยังเร็วกว่านั้น ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความเร็วของบุรุษนั้นจะเร็วปานใดเล่า อนึ่งเล่า ฝูงเทวดาย่อมเหาะไปข้างหน้าดวงจันทร์ดวงอาทิตย์ ความเร็วของหมู่เทวดานั้น เร็วยิ่งกว่าความเร็วของดวงจันทร์ดวงอาทิตย์ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความเร็วของบุรุษนั้น ความเร็วของหมู่เทวดาเหล่านั้นปานใด อายุสังขารย่อมสิ้นไปเร็วกว่านั้น ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะเหตุนั้น เธอทั้งหลายพึงสำเหนียกในข้อนั้น อย่างนี้ว่า พวกเราต้องละความกระหายด้วยอำนาจความกำหนัดในกามทั้งหลาย ที่บังเกิดแล้วเสียให้ได้ อนึ่ง จิตของพวกเราต้องไม่ตั้งยึดความกระหายด้วยอำนาจความกำหนัดในกามทั้งหลายไว้เลย พวกเราต้องเป็นผู้ไม่ประมาท