การอุทิศบุญทันทีหลังจากให้ทาน

 
Atom
วันที่  25 ก.ย. 2550
หมายเลข  4919
อ่าน  1,549

ผมมีเรื่องเล่าที่น่าแปลกใจ เพราะในปัจจุบันก็มีหลายกลุ่มที่เริ่มสนใจและก็เริ่มใฝ่ธรรมะกันมากขึ้นครับ เรื่องมีอยู่ว่าผมได้รู้และได้ยินมาจากพระรูปหนึ่ง (ไม่ขอเอ่ยนามนะครับ เพราะผมก็มีความเคารพท่านอยู่ เพราะท่านได้อ่านและศึกษาพระไตรปิฏกเหมือนกันและเป็นที่เคารพแก่คนทั่วไปที่เข้าไปหาครับ)

๑.เรื่องเกี่ยวกับการอุทิศบุญ โอนบุญ ท่านบอกว่าการให้ทานทำบุญแก่พระให้รีบอุทิศบุญทันที่อย่ารอช้า โดยเฉพาะอย่ารอพระกล่าว ยถา..........เพราะบุญเราจะหายไปรออยู่ที่เทวโลกครับ ไม่รู้ว่าในพระไตรปิฏกมีกล่าวไว้หรือเปล่าครับ

๒.การอุทิศบุญ โอนบุญให้แก่ญาติ เทวดาที่รักษา ก็เช่นกันท่านบอกว่าเป็นปัตติทานมัยบุญกริยาวัตถุ ๑๐ ข้อที่ 6 คือการทำบุญด้วยบุญ หรือแบ่งส่วนบุญ ที่น่าสนใจ คือท่านบอกว่าสามารถโอนบุญได้วันละหลายๆ ครั้ง เป็นพัน หรือหมื่นครั้งก็ได้ บุญไม่หมดครับ เป็นการโอนบุญที่เรามีมากมายในเทวโลกที่มีอยู่ ที่เราทำไว้แสนโกฏชาติมีมากมายเท่าขุนเขา ไม่รู้ว่าในพระไตรปิกกมีกล่าวไว้ไหมครับ เพราะผมเข้าใจว่าน่าจะเป็นวิธีที่เราทำบุญแล้วแบ่งบุญนี้น่าจะเป็นปัตติทานมัยมากกว่าครับ สงสัยครับพอดีมีเวลาอ่านพระไตรปิฏกน้อยครับ รบกวนผู้รู้ช่วยไขข้อข้องใจหน่อยนะครับ

ขอบคุณครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
study
วันที่ 25 ก.ย. 2550

๑.ไม่พบข้อความดังกล่าวในพระไตรปิฎกและอรรถกถา ๒.ไม่พบข้อความดังกล่าวในพระไตรปิฎกและอรรถกถา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
Atom
วันที่ 25 ก.ย. 2550

อย่างนี้แสดงว่าผู้ที่แสดงวิธีการนี้และก็สอนให้ผู้อื่นทำตามนี้เป็นมิจฉาทิฏฐิในเรื่องการอุทิศบุญ โอนบุญ ใช่ไหมครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
ครูโอ
วันที่ 25 ก.ย. 2550

บุญ บาป สั่งสมที่จิตใครก็ย่อมจะติดตามให้ผลกับผู้นั้นเท่านั้น แต่การอุทิศส่วนกุศล คือ การบอกบุญในทานที่ตนได้กระทำให้ผู้อื่นได้รู้ แล้วเขามีใจยินดีที่จะอนุโมทนาได้ เมื่อนั้นจึงจะเป็นบุญของเขาเอง โอนให้กันไม่ได้ครับ
ถ้าคุณ atom มีโอกาสที่จะสามารถเกื้อกูลผู้ที่เข้าใจผิดด้วยพระธรรม ในวิธีต่างๆ ได้ เช่นการให้ซีดีธรรม การแสดงธรรม การแนะนำให้ฟังธรรมที่ถูกต้องแล้วผู้นั้นสามารถไตร่ตรองพิจารณาธรรมอย่างป็นเหตุเป็นผล ก็ควรจะได้กระทำครับ แต่ถ้าผู้นั้นปฏิเสธก็ควรมีจิตคิดเมตตา และไม่คิดเพ่งโทษครับ ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
PUM
วันที่ 26 ก.ย. 2550

ตามความเข้าใจส่วนตัวครับ

๑.บุญไม่หายไปไหนครับ แต่กุศลจิตครับมีเกิดมีดับ เพราะฉะนั้น การอุทิศส่วนบุญกุศลหลังจากการเจริญกุศลสำเร็จใหม่ๆ ย่อมให้ผลดีกว่าปล่อยให้จิตตกจากุศล หรือมีอกุศลมากขั้น

๒.การอุทิศบุญนั้น ผู้ที่เราอุทิศให้จะได้รับหรืออนุโมทนาด้วยหรือเปล่าเราไม่รู้ แต่ทุกครั้งที่เราตั้งใจอุทิศบุญ ก็เท่ากับเราได้สะสมกุศลจิต เมื่อสะสมกุศลจิตบ่อยๆ มากๆ อกุศลจิตก็จะเกิดได้น้อยลง

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
wannee.s
วันที่ 26 ก.ย. 2550

ขอเชิญคลิกอ่านได้ที่...

การให้ส่วนบุญ [คาถาธรรมบท]

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 26 ก.ย. 2550

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

๑.บุญไม่หายไปไหนนะ อกุศลก็เช่นกัน สะสมอยู่ที่จิต แต่วิบากที่เป็นกุศลที่ได้ทำย่อมสามารถให้ผล เป็นวิมานในเทวโลกครับ จึงต้องแยกระหว่างกุศลจิต กับกุศลวิบากครับ

๒.ทำกุศลบ่อยๆ อุทิศบ่อยๆ ดีกว่านะ เชิญคลิกอ่านที่นี่ครับ ... บ่อยๆ

ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
yu_da2554hotmail
วันที่ 20 มี.ค. 2566

ยินดีในกุศลจิตค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ