จะทราบว่าปัญญาเกิดได้อย่างไร

 
chatchai.k
วันที่  2 ต.ค. 2567
หมายเลข  48592
อ่าน  57

ชีวิตแต่ละคนดำรงอยู่ได้ก็เพียงชั่วขณะจิตเดียว ฉะนั้น ในขณะที่เห็นไม่ใช่ขณะที่ได้ยิน ต้องมีความรู้ซึ่งเกิดจากการฟัง จนกระทั่งสามารถที่จะเป็นปัจจัยให้สติเกิดระลึกได้ในขณะที่กำลังเห็นในขณะนี้ตามปกติตามความเป็นจริง มิฉะนั้นแล้ว ก็จะมีแต่สมาธิ และไม่รู้ว่าปัญญานั้นรู้อะไร แต่ก่อนอื่นก็ต้องรู้ว่า ปัญญารู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง ในชีวิตประจำวันทุกขณะ ตั้งแต่ตื่นจนหลับ ไม่ว่าจะเป็น เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส รู้สิ่งกระทบสัมผัส คิดนึก

ถ. จะทราบว่าปัญญาเกิดได้อย่างไร

สุ. ต้องทราบว่าปัญญารู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏในขณะนี้ จึงจะเป็นปัญญาที่สามารถจะดับกิเลสได้ เพราะว่าขณะนี้ที่กำลังเห็น ก็ยึดถือว่าเป็นเราเห็น แต่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงว่า ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา ไม่ใช่คน สัตว์ บุคคล เพราะฉะนั้น กำลังเห็นเดี๋ยวนี้ ต้องไม่ใช่เรา แล้วก็ไม่ใช่ตัวตนด้วย เป็นเพียงจิตประเภทหนึ่งซึ่งเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย คือเมื่อมีจักขุปสาท และมีสิ่งที่ปรากฏกระทบตา มีการเห็นเกิดขึ้นแล้วก็ดับไปเพราะเหตุว่า จิตที่เห็น ไม่ใช่จิตที่ได้ยิน นี่แสดงให้เห็นความต่างกันว่า คนหนึ่งจะมีจิตซ้อนกัน ๒ - ๓ ขณะไม่ได้ ชีวิตดำรงอยู่แต่ละคนก็เพียงชั่วขณะจิตเดียว เพราะฉะนั้น ในขณะที่เห็น ไม่ใช่ในขณะที่ได้ยิน ด้วยเหตุนี้ จึงต้องรู้ความต่างกันก่อนว่าขณะที่เห็นนี้เป็นอนัตตา เป็นนามธรรม เป็นสภาพรู้ ขณะที่ได้ยินก็เป็นอนัตตาเป็นนามธรรม ต้องมีความรู้ซึ่งเกิดจากการฟังจนกระทั่งสามารถที่จะเป็นปัจจัยให้สติมีการระลึกได้ ในขณะที่กำลังเห็นในขณะนี้ตามปกติตามความเป็นจริง มิฉะนั้นแล้ว ก็จะมีแต่สมาธิแล้วก็ไม่รู้ว่า ปัญญานั้นรู้อะไร แต่ก่อนอื่น เมื่อปัญญาเป็นสภาพที่รู้ถูกต้อง คือเริ่มจากความเข้าใจถูก ในลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ ก็จะต้องรู้ว่า ปัญญาไม่ใช่รู้อื่น แต่เป็นปัญญาที่สามารถที่จะรู้ชีวิตประจำวันทุกขณะ ตั้งแต่ตื่นจนหลับ ไม่ว่าจะเป็นเห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส รู้สิ่งกระทบสัมผัส คิดนึก

ที่มา และ ขอเชิญรับฟัง

แนวทางเจริญวิปัสสนา ครั้งที่ 11


เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ