ภิกษุณี

 
WS202398
วันที่  7 ก.ย. 2550
หมายเลข  4759
อ่าน  1,851

มีภิกษุณี กล่าวในรายการทีวีว่า ในการสังคายนาครั้งที่หนึ่ง พระมหากัสสป กล่าวตำหนิพระอานนท์ ที่ทำให้ผู้หญิงได้บวชจริงหรือไม่ พระมหากัสสป คือ รูปเดียวกับที่อยู่ป่าเป็นประจำ ถือธุดงค์และเป็นพระผุ้ใหญ่ เป็นพระอรหันต์ ใช่หรือไม่
มีนักวิชาการระดับดอกเตอร์ ที่ร่วมรายการทีวี คนเดียวกันคนที่เคยกล่าวว่าปาฏิหาริย์ต้องตีความนั้น กล่าวว่า พระไตรปิฏกมีการถูกแต่งเติมเข้าไป เพราะอ้างว่าพระไตรปิฏก ถูกจารึกเป็นตัวอักษร หลังพุทธกาลถึง ๓๐๐ ปี กล่าวเช่นนี้จะชอบหรือครับ เพราะเวลาเห็นด้วย ก็กล่าวอ้างพระไตรปิฎก เวลาไม่เห็นชอบ ก็บอกว่าพระไตรปิฎกจารึกคลาดเคลื่อน กล่าวเช่นนี้ ผมเห็นว่าเป็นอันตรายมาก เพราะคนที่ไม่มีความรู้ ไม่ได้ศึกษา ชาวบ้านธรรมดา อาจสงสัยในพระไตรปิฎกได้ และอ้างผลการวิจัยทางวิชาการ แต่ประชาชนทั่วไปก็มิได้รู้ด้วย ความเห็นส่วนตัวของผม ความคลาดเคลื่อนไม่น่าจะเป็นไปได้ ถ้ามิได้ตั้งใจจะทำให้คลาด เพราะได้ยินว่า มีสามเณรในพม่า สามารถท่องพระไตรปิฎกได้หมด สมัยก่อนการบันทึก มีการแบ่งกันท่องตามสำนักต่างๆ เวลาแค่ ๓๐๐ ปี ไม่นาจะเป็นปัญหา

ภิกษุณี ตามพระธรรมวินัย ภิกษุบวชให้ได้หรือไม่ ภิกษุณีในประวัติศาสตร์ ขาดตอนหรือไม่ (ในระดับโลก)


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
study
วันที่ 7 ก.ย. 2550

ในสมัยสังคายนาครั้งแรก ท่านพระอานนท์ ถูกพระมหากัสสป และคณะสงฆ์ กล่าวโทษ เรื่องท่านนำพา ให้ผู้หญิงบวชในพระธัมมวินัยจริง ตามอ้าง พระไตรปิฎก เป็นคัมภีร์ที่เป็นที่ยอมรับกันมากที่สุดสำหรับการอ้างหลักฐานที่มา ผู้ที่ศึกษาพระไตรปิฎกอย่างละเอียด และเข้าใจ ย่อมเกิดความศรัทธาในพระรัตนตรัยเป็นอย่างยิ่ง และไม่สงสัยในคุณของพระพุทธเจ้าผู้ตรัสรู้ คุณของพระธรรม ที่พระพุทธเจ้า ตรัสไว้ดีแล้ว คุณของพระสงฆ์ ผู้ปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้า ไม่สงสัยในคำสอน ที่กล่าวถึงอิทธิปาฏิหาริย์ การบวชพระภิกษุณี ต้องอาศัยการบวชสงฆ์ทั้งสองฝ่าย คือ ภิกษุสงฆ์ และภิกษุณีสงฆ์ ยังไม่พบหลักฐานที่ชัดเจน เรื่องการขาดตอนของพระภิกษุณีตามพระธรรมวินัย

ขอเชิญคลิกอ่านได้ที่ ... ปรับอาบัติทุกกฏแก่พระอานนท์

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
wannee.s
วันที่ 7 ก.ย. 2550

ถึงแม้ว่ายุคสมัยนี้ จะไม่มีภิกษุณี แต่พระธรรมคำสอนก็ยังอยู่ ผู้หญิงก็สามารถอบรมปัญญา เจริญสติปัฏฐานได้ค่ะ ปัญญาไม่จำกัดเพศ วัย อายุ ฯลฯ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
ไรท์แจกแล้วไง
วันที่ 8 ก.ย. 2550

ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ใครก็ตามที่สนใจและศึกษาพระธรรม ควรพิสูจน์ด้วยปัญญาเพราะข้อความพระไตรปิฎกต้องสอดคล้องกันทั้งหมด ไม่ค้านกันเลย ถ้ามีใครกล่าวว่าถูกแต่งเติมเข้าไป เขาต้องบอกได้ว่า ส่วนไหนถูกแต่งเติม ข้อความเป็นอย่างไร และที่เขาบอกว่าถูกแต่งเติม แสดงว่าเขาต้องรู้ว่า ที่ถูกคืออย่างไร ต้องพิสูจน์ให้ชัดเจน อย่ามากล่าวลอยๆ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 8 ก.ย. 2550

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
๑. เพราะว่า เมื่อเพศหญิงบวชในธรรมวินัยใด ธรรมวินัยนั้น ย่อมตั้งอยู่ไม่ได้นาน (นอกจากยอมรับครุธรรม ๘ ประการ) ดังนั้น การขวนขวายให้หญิงบวชในธรรมวินัยก็อาจทำให้ธรรมวินัยไม่ตั้งอยู่นานได้ ถ้าไม่มีการบัญญัติครุธรรม ดังนั้นพระมหากัสสปะจึงปรับอาบัติทุกกฎ (ดังข้อความในพระไตรปิฎก ความเห็นที่ 5)
๒. การจะตัดสินสิ่งใดว่าจริงหรือไม่จริงนั้น ต้องศึกษาพิสูจน์จากการอ่านและศึกษาในพระไตรปิฎกจริงๆ ไม่ใช่เชื่อเพราะสืบต่อๆ กันมา หรือตามที่เขาบอก ต้องเป็นปัญญาของตนเอง จึงจะรู้ว่าสิ่งใดจริงและไม่จริง เช่นในพระไตรปิฎกแสดงว่า โลภะ มีโทษ จริงหรือเปล่า พิจารณาด้วยปัญญาว่า จริงหรือไม่จริง ด้วยความเข้าใจ จึงเชื่อครับ
๓. การบวชภิกษุณี ต้องอาศัยสงฆ์ทั้งสองฝ่าย ส่วนเรื่องการเสื่อมไปนั้น ก็เป็นธรรมดา เป็นไปตามเหตุปัจจัย และการดำรงในเพศบรรพชิตเป็นของยาก แม้ของเพศสตรี และมีพระวินัยมากมายหลายข้อมากกับภิกษุณี ดังนั้นการดำรงในเพศบรรพชิตของภิกษุณี จึงเป็นของยากครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 8 ก.ย. 2550

ขอเชิญคลิกอ่านได้ที่...พรหมจรรย์ไม่ตั้งอยู่นาน

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
Anutta
วันที่ 25 ก.ย. 2550

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
yu_da2554hotmail
วันที่ 30 มิ.ย. 2566

ยินดีในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ