วันหนึ่งก็สามารถรู้ได้
พระผู้มีพระภาคทรงแสดงหนทางที่สามารถที่จะรู้จักตัวธรรมจริงๆ ในขณะนี้ ซึ่งวันหนึ่งก็สามารถรู้ได้ หรือในขณะนี้เอง สติคือธรรมดา ไม่ได้ต่างกับขณะนี้ เพียงแต่ว่าปกติธรรมดาเห็นแล้ว ไม่รู้ มีแข็งปรากฏแล้ว ไม่รู้
มีสิ่งที่ปรากฏทางตาแล้ว ไม่รู้ แต่สติสัมปชัญญะซึ่งเป็นสติปัฏฐาน คือ ของธรรมดาอย่างนี้ ปกติอย่างนี้ แต่รู้ ค่อยๆ รู้ ไม่ได้เปลี่ยนลักษณะของสิ่งนั้นเลย อย่างแข็งเกิดแล้ว ธาตุที่รู้แข็ง มีแน่ ไม่ใช่เรา เป็นกายวิญญาณซึ่งต้องอาศัยกายปสาท จึงสามารถจะรู้แข็งที่กระทบกายปสาท และยังไม่ดับ
ทุกคำเป็นคำจริง กายปสาทต้องยังไม่ดับ เย็น ร้อน อ่อน แข็งที่ปรากฏ ต้องยังไม่ดับ แต่เป็นปัจจัยให้จิตเกิดขึ้นรู้ แล้วก็ดับอย่างเร็วมาก บางคนก็บอกว่า ไม่รู้ธรรม เพราะว่าธรรมเกิดดับเร็วมาก
ใครเป็นคนบอกว่าธรรมเกิดดับเร็วมาก ผู้รู้ แล้วผู้ไม่รู้จะไปบอกว่า ธรรมเกิดดับเร็วมาก ในขณะนี้ พูดตาม แต่ยังไม่รู้การเกิดดับของธรรมเลย เพราะปัญญาเท่านั้นจึงสามารถรู้ได้ ถ้าเข้าใจว่า ปัญญาคือความเห็นถูกต้องตามความเป็นจริงของสภาพธรรม เพราะได้ฟัง เข้าใจถูก เห็นถูกว่า ความจริงเป็นอย่างนี้ แล้วรู้ด้วยว่า สภาพธรรมแม้แต่อ่อน หรือแข็งที่ปรากฏ โดยที่สติสัมปชัญญะไม่เกิด ก็ดับแล้ว
ใครจะยับยั้งไม่ให้จิตเกิดสืบต่อไปอีกเรื่อยๆ ในสังสารวัฏฏ์ แล้วแต่จิตที่เกิดดับสืบต่อปรุงแต่งโดยสภาพธรรมอะไร ฝ่ายกุศล หรือฝ่ายอกุศล ที่ค่อยๆ สะสมไป มีความเข้าใจถูกเมื่อไร แข็งปรากฏ กำลังรู้แข็งที่ปรากฏแล้วได้ไหม เห็นไหม ของธรรมดา แต่ว่าหลงลืม

