จงฟัง จงใส่ใจให้ดี

 
nattawan
วันที่  6 ก.พ. 2567
หมายเลข  47366
อ่าน  243

มั่นใจไหมว่า "ธรรมะเกิดดับ"

อ.พีท : มั่นใจว่าธรรมะเกิดดับในขั้นการฟัง

อ.กุลวิไล : อาศัยพระธรรมที่แสดงความเป็นจริงของธรรมะแต่ละหนึ่งว่า ขณะเห็นไม่ใช่ขณะได้ยิน เพราะฉะนั้นสิ่งที่เกิดแล้วต้องดับ

อ.วิชัย : เป็นความรู้ความเข้าใจขั้นจากการได้ยินได้ฟังและไตร่ตรองว่า ธรรมะที่เกิดขึ้นแต่ละเสียงต่างกัน แสดงว่าต้องดับ มิเช่นนั้นธรรมะต้องตั้งอยู่ตลอดไป

อ.ชุมพร : จากการฟังมีความเข้าใจระดับหนึ่งว่า ธรรมะเกิดดับแน่ๆ แต่ในขั้นการฟังยังไม่มั่นคงและไม่มั่นใจขณะที่สภาพธรรมะเกิดดับ

ทอจ : มั่นใจว่าธรรมะเกิดดับในขั้นการฟังและพิจารณามาพอสมควร ... พอไหม? ไม่พอ เคารพพระสัมมาสัมพุทธเจ้าระดับไหน เข้าใจเพียงธรรมะเกิดดับเท่านั้นหรือ?

ตลอด 45 พรรษาทรงแสดงพระธรรมให้ความเข้าใจเกิดขึ้นตามลำดับ เห็นความละเอียดลึกซึ้งของธรรมะเพิ่มขึ้นว่า ไม่ใช่เรา มีลักษณะเฉพาะแต่ละหนึ่ง แค่เข้าใจยังไม่พอ ทุกคำเป็นความจริงแต่ยังไม่ประจักษ์แจ้งตามที่ได้ยิน เพราะฉะนั้นต้องตรง ทรงแสดงหนทางที่จะให้ประจักษ์แจ้งความจริง สามารถรู้แจ้งได้

รู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเพิ่มขึ้นเมื่อเข้าใจธรรมะมากขึ้น แต่ละคำลึกซึ้ง ต้องเข้าใจจนกระทั่งไม่สงสัยเลยว่า ธรรมะทั้งปวงเป็นอนัตตา ... ไม่ใช่เรา สามารถรู้ได้ด้วยการฟังต่อไป เป็นบารมีที่มั่นคง ทำให้เข้าใจจนกว่าจะไม่ใช่เรา ... เห็นเป็นจริงอย่างไร ... เห็นไม่ใช่เราอย่างไร?? ฟังจนกว่าจะค่อยๆ มั่นคงขึ้นตามลำดับในขั้นปริยัติและปฏิบัติ จนประจักษ์แจ้งความจริง ปัญญาสามารถเข้าใจจริงๆ (ปฏิเวธ)

ดูกรภิกษุทั้งหลาย จงฟัง จงใส่ใจให้ดี เราจักกล่าว

(สุณาถ สาธุกํ มนสิกโรถ ภาสิสฺสามิ พวกเธอจงฟัง จงใส่ใจให้ดี เราจักกล่าว)

รู้ไหมว่าทุกคำที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสเพื่อให้เข้าใจความจริงของสิ่งที่กำลังมี ฟังดีๆ และไตร่ตรองให้มั่นคง มิฉะนั้นแล้วก็เลื่อนลอย ไม่เข้าใจความจริงของเห็นที่กำลังมี เพราะฉะนั้นทุกคำของพระองค์ตรัสถึงสิ่งที่กำลังมีเดี๋ยวนี้จริงๆ เพื่อให้รู้ว่าไม่ใช่เราจริงๆ บ่งไปถึงสิ่งที่มีจริงทุกขณะเพื่อให้รู้ความจริงของสิ่งที่กำลังมี ซึ่งไม่เคยรู้เลย!!

ขณะนี้กำลังมี แต่ลึกซึ้งจนไม่เข้าใจสิ่งที่กำลังมี ไม่ใช่ขณะอื่นเลยแต่ให้เข้าใจความจริงซึ่งเป็นจริงเพราะว่ากำลังมีเดี๋ยวนี้ แต่ไม่รู้เลยจนกว่าจะได้ฟังและค่อยๆ เข้าใจความจริงซึ่งลึกซึ้งมาก เพราะฉะนั้นจงใส่ใจให้ดี พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสถึงเห็นว่าอย่างไร?? ต้องรู้จริงๆ ว่าเห็นมีแต่ไม่เข้าใจความจริงว่าเห็นเป็นอะไร?? เมื่อไหร่จะรู้จักธาตุรู้ที่กำลังเห็น?? เมื่อไหร่จะรู้ว่าไม่ใช่เราเห็น?? เพราะฉะนั้นอวิชชาสว่างในเห็นใช่ไหม?? สักคำก็ผ่านไม่ได้เพราะลึกซึ้งอย่างยิ่ง

ประมาทในการจะรู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไหม เพราะคิดเอาเองทั้งนั้น ถ้าไม่เข้าใจจริงๆ คิดเองจะผิดไหม?? ไม่สามารถเข้าใจธรรมะด้วยความอยากจ ะรู้ความจริงได้อย่างไรถ้าไม่มีการตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จงใส่ใจให้ดี จงฟังให้ดี เพื่อเข้าใจจนมั่นคง เคารพสูงสุดว่า ใส่ใจดีไหมในความลึกซึ้ง ความละเอียดซึ่งไม่สามารถรู้ได้เลยถ้าพระองค์ไม่ทรงแสดง จะไม่เข้าใจได้เลยถ้าไม่ใส่ใจในคำของพระองค์ ประโยชน์สูงสุดคือไม่เห็นผิดและเข้าใจว่าไม่รู้ ถ้าเข้าใจคือกำลังละความไม่รู้และความติดข้อง ... หนทางอื่นไม่มีเลย!!

ใส่ใจให้ดีครบหรือยัง?? ดูกรภิกษุทั้งหลาย จงฟัง จงใส่ใจให้ดี เราจักกล่าว!! เราคือพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะตรัสคำตื้นๆ หรือ ... ต้องลึกซึ้งแค่ไหนเพราะทรงตรัสรู้ความจริงถึงความเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงบำเพ็ญพระบารมีนานเท่าไหร่?? รู้ไหม "เรา"เป็นใคร และจะฟังแบบไหน?? ต้องละเอียดขึ้น

เชิญชม

สนทนาปัญหาธรรม โดย อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ และคณะอาจารย์ มศพ. วันอังคารที่ 6 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 10.00 - 11.30 น.

🔵Facebook​ Page : วิทยุออนไลน์​บ้านธัมมะ www.facebook.com/share/v/d5FJ2Jzo8P86p39M/?mibextid=ejvXOw

🔴YouTube : dhammahomelive www.youtube.com/live/wJZ-LILz_l0?si=mlnwphHH75MkgHt4

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในความดีของทุกท่านค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
nattawan
วันที่ 6 ก.พ. 2567

แนะนำหนังสือ www.dhammahome.com/book/topic/957

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
เมตตา
วันที่ 20 ก.ค. 2567

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่ง

ขอบคุณ และยินดีในกุศลจิตค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ